ประปาภูเขา


พลังของการให้ ...สื่อใจถึงใจจริงๆ เลยทีเดียว ยิ่งให้มากยิ่งรู้สึกดี

     “ประปาภูเขา ณ บ้านห้วยหินดำ  ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ในวันที่ 5-6 เมษายน 2551 ที่ผ่านมา

 ได้ฤกษ์อีกครั้งหลังจากเว้นงานอาสามาหลายเดือน ด้วยภารกิจงานของตนเองมากมาย จนถึงคราวนี้ที่ได้ปรีกตัวเองออกจากงาน  หาเวลาจนได้ พร้อมใจที่อยากอิสระ โบยบินไปทำงานเพื่อสังคม และเลือกที่จะร่วมค่ายอาสาในงานนี้ " ประปาภูเขา" แค่ชื่อ ขอบอกได้เลยว่ามีความน่าสนใจ เพราะตัวเองก้อไม่ค่อยจะรับรู้ซักเท่าไหนในความหมาย แต่มันเป็นชื่อที่คิดว่าน่าสนใจและน่าค้นหา ว่ามันเป็นอย่างไร ทำอย่างไร 

 เตรียมตัว เตรียมใจอยู่นาน จนถึงวันเวลาที่รอคอย 7 โมงเช้าของวันที่ 5 เม.ย. พลพรรคชาวอาสาทำงานครั้งนี้ได้รวมตัวกันมีจำนวนถึง 29 คน ซึ่งถือว่ามากกว่าครั้งไหนๆ ที่ตัวเองเคยเจอ พร้อมเพรียงกันที่มูลนิธิกองทุนไทย  ซึ่งเมื่อมาเจอหน้า เจอตากัน ทางมูลนิธิกองทุนไทยได้โครงการ ที่มาที่ไปกิจกรรมประปาภูเขาแบบย่อๆ และให้ชาวอาสาแนะนำตัว เพื่อทำความรู้จักกัน  เมื่อรู้จักแบบพอหอมปากหอมคอ ก้อเก็บของขึ้นรถตู้ที่มีกันถึง 3 คันออกเดินทางไปยังบ้านห้วยหินดำ กันทันที ใช้เวลาถึง 3 ชม.

 

บรรยากาศรอบข้างทางสองฝั่งของถนน ถึงจังหวัดสุพรรณบุรี ช่างร่มเย็นจริงๆ มีต้นไม้ 2 ข้างทางรายรอบ ดูเจริญหูเจริญตากว่า กทม. เป็นไหนๆๆ เหมือนการ refresh ตัวเองตั้งแต่ออกจากเมืองใหญ่ สู่ หมู่บ้านน้อยๆ ที่แสนห่างไกล เพราะอยู่ติดทุ่งใหญ่นเรศวร จ. กาญจนบุรี ยิ่งเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ฝนได้โปรยปรายมาให้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันเลยทีเดียว เหมือนต้อนรับการมาของเรา ชาวอาสาซะนี่กระไร

 

เมื่อถึงจุดหมายก้อเป็นเวลาเที่ยงแล้ว เราได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านห้วยหินดำ ด้วยการมีอาหารรอเราแล้ว (เหมือนรู้เลยว่าหิวแล้ว อิอิอิ) หลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้านก้อกล่าวต้อนรับและเชื้อเชิญให้รับประทานอาหาร ชาวอาสาไม่รอช้า เพราะหิวแล้ว..อีกอย่างที่สำคัญคือ เราลงมือทำประปาภูเขากันเลย..เมื้อกินอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ก้ออกเดินทางไปยังจุดหมายของการทำประปา เราต้องเดินทางขึ้นภูเขา คิดว่าประมาณ 2 กิโลนะคะ เมื้อถึงเป้าหมายก้อเริ่มทำกิจกรรมอาสา ประปาภูเขา  โดยแบ่งชาวอาสาฯตามความสนใจร่วมทำงานกับชาวบ้าน งานหลักๆ ได้แก่ ขุดดิน ถมดิน  แบกปูนที่ผสมไปยังจุดต่างๆ และเทปูนตามพื้น งานนี้เรียกเหงื่อชาวอาสาได้มากเลยทีเดียว  เราทำกิจกรรมนี้ร่วม 4 ชั่วโมง มีการพักบ้างนะคะ เพราะว่า อากาศร้อนมาก เล่นเอาชาวอาสาอย่างเราตัวดำไปเลย (นี่ยังดำไม่หายเลยนะเนี้ยะ)  แต่สิ่งที่ภาคภูมิใจเราคือ เราได้ร่วมแรงร่วมใจทำสิ่งดีๆ ที่ชาวบ้านต้องการ และเป็นความต้องการที่ชาวบ้านอยากให้เกิดมากกว่าการที่เราได้เป็นจุดเริ่มเสียเอง เพราะจุดเริ่มต้นมาจากตัวชาวบ้าน นี่คือสิ่งที่ประทันใจสิ่งแรกที่รู้สึกได้คะ

 เมื่อทำงานเสร็จในวันแรก ก้อเล่นเอาเหนื่อย เมื่อยล้ากันทีเดียว แต่ถึงร่างกายจะเมื่อยแต่ใจยังสู้คะ เราพากันเดินกลับไปยังที่พัก ซึ่ง เราพักกันกับชาวบ้านคะ และพักกันที่ อาสา 7-8 คนต่อบ้านชาวบ้าน 1 หลังคะ ที่พักก้อง่ายๆๆ และเมื้ออาบน้ำอาบท่ากันแล้ว มีกิจกรรมสัมพันธ์ ฟังเรื่องเล่าจากชาวบ้าน และร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้ใหญ่บ้านห้วยหินดำณ ศาลากิจกรรมหมู่บ้าน   และยังมีีกิจกรรมเรียกใจเรียกเสียงฮาโดยทีมจาก ร.ร. สองพี่น้อง ร่วมสร้างสีสีนให้เราชาวอาสา เล่นเอาสนุกและหายเมื่อยไปเลยทีเดียว  นอกจากนี้ยังได้รับความเมตตาจากชาวบ้าน ได้จัดกิจกรรมพื้นบ้านมาให้เราชาวอาสาได้ชม โดยนักแสดงตัวน้อย -รำ (ชื่ออะไรก้อไม้รู้) แต่น่ารักมากเลย  

และแล้วก้อได้เวลาพักผ่อน นอนหลับปุ๋ยทีเดียวเลย และคืนนั้นฝนก้อตกเหมือนพระมาโปรด นอนหลับเย็นสบายมั๊กมาก...เช้าวันใหม่เราได้ร่วมสำรวจป่าชุมชน เรียนรู้วิถีชีวิตคนกับป่า กับชาวบ้าน เดินทางไปกลับใช้เวลา 4 ชม. ได้เหงื่อและความสดชื่นในเวลาเดียวกัน อิอิอิ 

 

ความประทับใจ

สิ่งแรกคือ การเห็นความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านและเราชาวอาสาที่ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกันทีเดียว

สอง คือ จุดเริ่มต้นของโครงการที่เป็นความต้องการพื้นฐานที่จำเป็นและชาวบ้านต้องการมากๆๆ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน

สาม คือ การได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยั่งคงรักษาประเพณีไว้อย่างเหนี่ยวแน่น และร่วมกันรักษาไว้ไม่ให้สูญหาย ซึ่งเด็กๆ ยังคงใส บรสุทธิ์อยู่มาก  สี่ คือ การได้เห็นเส้นทางการต่อสู้และหวงแหนที่ทำมาหากิน ร่วมกับการอนุรักษ์และรู้คุณค่าของป่าไม้ ของชาวบ้าน ห้า คือ การได้ร่วมเป็นหนึ่งในชาวอาสาที่ได้ทำงานเพื่อคนอื่น เพื่อนร่วมประเทศ เพื่อนร่วมโลก สุดท้ายคือ ขอบคุณเพื่อนๆ ชาวอาสาที่ได้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ ร่วมกัน และชาวกองทุนไทยที่เปิดโอกาสให้เราได้มาเจอกัน

 

ท้ายสุดคือ สิ่งที่ตนได้รับกลับมามันยิ่งใหญ่กับความรู้สึก เหมือนการต่อเติมพลังใจและไฟในการทำงาน   อาจจะเรียกได้ว่า การได้รับแรงใจ พลังใจจากชาวบ้าน เปรียบเสมือนพลังอันยิ่งใหญ่ แหละนี่คือพลังของการให้ ...สื่อใจถึงใจจริงๆ เลยทีเดียว

เข้าไปดูรูปได้ที่

http://carjhan.multiply.com/photos/album/38

หมายเลขบันทึก: 182758เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2008 16:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

กิจกรรมดีๆ คงไม่เหนื่อย น่าสนุกนะครับ

ชอบภาพสวยๆ พึ่งทราบว่าสุพรรณบุรีมีภูเขาด้วย ไปหลายครั้งไม่เคยเห็นภูเขา

ขอบคุณครับ

การให้คุณภาพชีวิตที่ดี กับพี่น้องร่วมชาติ ผลดีก็จะเกิดต่อลูกหลานต่อพี่น้องประชาชนและต่อประเทศชาติของเรา

                   ขอเป็นกำลังใจครับ

                               รพี

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท