หากจะให้นิยายมของคำว่า "ตลาดสด" คือ แหล่งที่มีความหลากหลายของคนในชุมชนที่มาพบกัน คงไม่ผิดนัก เพราะเมื่อวานนี้ ตรงนี้ทำให้ผู้เขียนได้พบกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้เจอกันมานานนับครึ่งทศวรรษ
เพื่อนเก่า..(แต่ไม่แก่)สมัย ป.1 ..เธอกำลังขายข่า ตะใคร้ ใบพริก ฯลฯ ล้วนเป็นพืชผักสวนครัว ผู้เขียนเข้าไปทักทายตามประสาเพื่อนเก่า เจอใครก็คุยได้หมด (เขาไม่เริ่มก่อน เราก็เริ่มก่อน) ได้ถามเขาว่า ปลูกผักเองใช่ไหม..เขาตอบว่า ใช่ ซึ่งถูกใจคนถามมาก ดังนั้นเราจึงคุยกันต่อในเรื่องที่สะท้อนอะไรบางอย่างว่า ทำไมชาวบ้านเราที่มีอาชีพเกษตรกรรม จึงต้องออกมาซื้อข่า ตะใคร้ ใบมะกรูด ที่ตลาดสด????? ทำไม?????ไม่ปลูกไว้ทานเอง...อ้างอิงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงซะด้วย
ก่อนจะแยกจากกันผู้เขียนได้ถามสารทุกข์สุขดิบตามปกติวิสัย "พ่อ-แม่ และครอบครัวสบายดีไหม ? " เพื่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่ลดลงเล็กน้อยว่า "พ่อเราเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หมอรพ.หล่มสักส่งไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ หมอเก่งมาก ๆๆๆๆ เขาทำ ballon ให้ หมอเรียกญาติเข้าไปดูภาพพร้อมกับอธิบายหมดทุกอย่าง...ตอนนี้พ่อเราสบายดีมาก" สีหน้าท่าทางและแววตาของเพื่อนฉายแวว มีรอยยิ้มบนใบหน้า พร้อมกับพูดต่อไปอีกว่า "หมอ รพ.ศรีนครินทร์นัดตรวจปีละครั้ง และให้มารับยาต่อที่ รพ.หล่มสัก ...ตอนนี้....เราสามารถมารับยาให้พ่อที่รพ.ตำบลได้ด้วย ไม่เช่นนั้นเราคงต้องไปรพ.ต่างจังหวัดทุกเดือน เราก็ไม่ค่อยมีเงิน" อืม..อืม..ผู้เขียนพยักหน้าแสดงความเข้าใจและเห็นใจในสิ่งที่เขาพูด เพื่อนได้ชมหมอที่รพ.หล่มสักคนนั้นที่ส่งพ่อเขาไปรักษาต่อ ว่า "หมอเก่งจัง หมอใจดี และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่รพ.หล่มสัก รพ.ตำบลบ้านติ้วทุกคน ที่ส่งประวัติของพ่อถึงกันหมด ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เยอะ ลูกๆ ก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว" ผู้เขียนจึงอยากทราบต่อไปอีกว่า แพทย์ท่านนั้นคือ ใคร จะได้นำเรียนถูก อ๋อ...อายุรแพทย์ของเรานั่นเอง..น่าเสียดายที่ท่านกำลังจะจากคนหล่มสักไปเพื่อศึกษาต่อด้าน "ศัลยกรรมหัวใจ" ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในเดือน มิ.ย.51 นี้
รากฐานที่มั่นคง ดำรงไว้ซึ่งระบบงานที่ดี และผู้นำมีวิสัยทัศน์ จะเป็นกุญแจสำคัญในการจัดระบบสุขภาพของอำเภอหล่มสักต่อไป
หลังจากนั้น มีลูกค้ามาซื้อตะใคร้ ผู้เขียนจึงได้ขอตัว โดยไม่ลืมที่จะขอบคุณและขออนุญาตที่จะนำเรื่องนี้มาเขียน เพื่อนเขายิ้มแก้มแทบปริ...แปลกจัง..ที่ท้องของผู้เขียนไม่ร้องและไม่รู้สึกหิวอะไรดั่งที่เคยเป็น..ผู้เขียนเดินกลับบ้านโดยไม่ต้องซื้ออะไรทาน..บนเส้นทางเดินกลับบ้านมีแต่สิ่งสวยงาม งามมากกว่าทุกวันที่เดินผ่าน...ลูกหมาพันธุ์ไทยสีดำตัวหนึ่งวิ่งมาหา..ผู้เขียนจึงอุ้มขึ้นมา ลูบหัว พร้อมกับพูดว่า.."เจ้าโชคดีมากรู้ไหม" เสียง อิ๊ง..อิ๊ง...คลอเบาๆ ออกมาจากลำคอของมัน...
สวัสดีค่ะ คุณภาพอยู่ทุกที่ มี่มีหัวใจ ค่ะ ชื่นชมๆๆ ขอบคุณมากนะคะ ชอบอ่านค่ะ
Quality in mild ก็เพราะได้ พรพ.หล่อหลอมมาด้วยส่วนหนึ่งแหละค่ะ..อาจารย์พอลล่า National forum ปี 2552 จะไม่พลาดแน่นอนค่ะ..