ฮ่องกง (6) อาหาีีรเหลา... ร้านดัง

และแล้วห่านย่างก็เดินทางมาถึงโต๊ะเรา อือม์... รสชาติหอม หวาน และกรอบ อร่อยสมชื่อจริง ๆ

ฟ้าครับ

จิมซาโจ๋ย (Tsim sha Tsui) เป็นย่านการค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังของฮ่องกง เมื่อนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากมาจากเกาะฮ่องกง จะมาขึ้นเรือที่ย่านนี้ ขึ้นจากเรือก็เดินซื้อของได้ทันที อะไรจะสะดวกปานนี้...

คืนแรกพวกเรารีบมาเดินหาซื้อของฝาก เพราะกลัวว่าตลอดการประชุม จะไม่มีเวลาปลีกตัวมาซื้อ จนถึงเกือบสองทุ่มเริ่มเดินหิวโซ ตั้งใจจะเดินไปตามถนน Nathan Street ขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อมองหาร้านอาหารจีนที่เข้าท่าเข้าทาง นึกไม่ถึงว่าจะมาหยุดกึก! เข้าที่ร้านซูชิแห่งหนึ่งที่อยู่ริมซอยเล็ก ๆ ไม่ไกลนักจากสถานีจิมซาโจ๋ย เท้าพาเข้ามาในร้านโดยอัตโนมัติเหมือนถูกสะกดจิต กว่าจะรู้ตัวก็มานั่ง มือก็หยิบจานซูชิจากสายพานหมุนมาแล้วหลายจาน ร้านนี้มีชื่อว่า Kanamizu อาหารค่ำมื้อแรกในฮ่องกงเป็นอาหารญี่ปุ่นเสียแล้วครับ!

ปรกติในญี่ปุ่นร้านซูชิที่เป็นสายพานหมุน (ไคเต็งซูชิ) ไม่ได้ถือว่าเป็นร้านระดับดีอะไร เรียกว่าส่วนใหญ่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ แต่ร้านนี้ไม่เพียงคนแน่นครึกครื้นเท่านั้น วัตถุดิบยังสดอร่อยใช้ได้เลย พวกเราทั้งหยิบจากสายพาน ทั้งสั่งจากเมนู ง่วนไปหมด  ปิดท้ายด้วยจานอร่อยสุดยอด คือชุดปลาดิบอาหารแนะนำที่อยู่นอกเมนูแต่เขียนติดไว้ข้างฝา (เป็น ซาชิมิ salmon กับ hamachi) ทานเสร็จลงความเห็นว่าควรจะกลับมา "ซ้ำ" เพราะร้านนี้มีช่วงเวลา happy hour คือช่วงบ่ายสามโมงถึงห้าโมงเย็น และหลังสี่ทุ่ม อาหารทุกอย่างจะลดครึ่งราคา!

ร้านต่อไปที่จะแนะนำคือร้าน Sweet Dynasty ตั้งใจไปกินที่ร้านนี้เพราะได้ข่าวว่าเป็นร้านที่ขึ้นชื่อ และก็ไม่ผิดหวัง ร้านนี้ก็อยู่ในย่านจิมซาโจ๋ย ริมถนน Canton Road เราไปถึงหน้าร้านตอนสี่ทุ่ม แต่ยังต้องเข้าคิวรอ ก็ครู่หนึ่ง แล้วพนักงานก็พาขึ้นไปที่ชั้นสอง โอ้โอ! คนนั่งโซ้ยกันเต็มร้าน บรรยากาศอย่างนี้ ใช่เลย อาหารเด่นของที่นี่มีหลายอย่าง  ผักต้มคล้าย ๆ คะน้าอร่อยมาก ติ่มซำ ไก่อบ อร่อยหมด จุดขายจริง ๆ ของร้านนี้อยู่ที่ของหวาน เพราะเขาตั้งร้านขึ้นมาเพื่อขายของหวานแต่แรก ดูประวัติร้านได้ที่ http://www.sweetdynasty.com/  แนะว่าถ้าไปกันหลายคนควรลองสั่งเต้าฮวยโบราณ สูตรเฉพาะของร้านนี้ มาทีหนึ่งเป็นถังเลย แต่ที่ผมลองสั่งคือเต้าฮวยมะม่วงฟรุตสลัด มาในชามน้ำแข็งแห้งควันฉุย ทั้งหมดอิ่มหนำกันในราคาที่ไม่แพง (สำหรับร้านระดับนี้) ถือเป็นร้านแนะนำได้อย่างไม่ขัดเขิน

ร้านสุดท้ายที่จะขอแนะนำเป็นร้านเก่าแก่ ตั้งมาเกือบ 70 ปีแล้ว ชื่อร้าน Yung Kee Restaurant อยู่ในบริเวณย่าน Lan Kwai Fong บนเกาะฮ่องกง ร้านนี้มีชื่อเสียงในเรื่องห่านย่าง ต้องโทรศัพท์ไปจองล่วงหน้าเพราะร้านจะแน่น พร้อมกับสั่งห่านไว้ล่วงหน้าครึ่งตัว บรรยากาศร้านนี้จะดูเรียบร้อย แม้คนจะเยอะ

และแล้วห่านย่างก็เดินทางมาถึงโต๊ะเรา อือม์... รสชาติหอม หวาน นุ่ม และกรอบ อร่อยสมชื่อจริง ๆ ครับ อนิจจา ห่านครึ่งตัวหมดไปในเวลาพริบตา ส่วนอาหารอย่างอื่นที่สั่งมาก็รสชาติอร่อยครับ แต่กร่อยไปเลยเมื่อเทียบกับห่านย่าง

คนเราเวลามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็ว รสชาติแห่งความอร่อยที่นี่ก็เช่นกัน โบยบินไปอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับเงินในกระเป๋า อาหารค่อนข้างแพงครับ ผมจึงอยากแนะนำว่า สำหรับร้านนี้ควรเลือกไปในโอกาสที่ค่อนข้างพิเศษ หรือไม่ก็ไปเพื่อลิ้มรสห่านย่างก็พอ อย่างเดียวก็คุ้มแล้วครับ

สั่งมากกว่านั้นมันจะเกินคุ้มไปหน่อย

[riceman]

• อาหารน่าทานจังเลยครับ

[ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์]

เยี่ยมจริงๆ ใครเบื่ออาหารมาดูเร็ว

[jumpzz]

น่ากินทั้งนั้นเลยครับ หิววว

[นาย นเรศ ดำรงชัย]

ท่าน riceman, ท่าน ครูบา สุทธินันท์, ท่าน jumpzz

• ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนครับ
  
• ท่านพ่อครูบาฯ ติดตามอยู่นะครับ ว่าง ๆ ขอไปเที่ยวเกาะเฮบ้าง
• หลัง ๆ นี้รู้สึกว่า บล็อกนี้คงต้องเปลี่ยนชื่อเป็น "บล็อกเห็นแก่กิน" เสียแล้วล่ะครับ
• ที่จริงบันทึกที่พอมีสาระก็มีบ้างนะครับ นาน ๆ ที
  

[ใบไม้ย้อนแสง]

น่ากินค่ะ แต่ว่าข้าน้อยกระเป๋าแฟบ แหะ ๆ ^_^

[ดร. จันทวรรณ ปิยะวัฒน์]

อืมม เห็นแล้วหิวค่ะ