ยาอายุวัฒนะ

วันนี้ตื่นเช้าขึ้นมา คุณยายข้างบ้านเดินเข้ามาเที่ยวแล้วบ่นว่า สุขภาพแย่มากเพราะอายุมากขึ้น อยากมียาที่ทำให้ไม่แก่ จะได้ทำอะไรๆได้เหมือนสมัยก่อนดิฉันก็เลยนั่งคิดเล่นๆว่า มันน่าจะมีซินะ ...แต่มันคงแพงมากเลย อย่างเราๆก็จะไร้ซึ่งความสามารถได้กินกับเขาหรอก ที่ไหนได้ ...เจอบทความของท่านศ.นพ เทพ หิมะทองคำ นี้แล้ว..มันง่ายนิดเดียวเองค่ะได้เจ้ายาที่ว่านี่..ว่าเเล้วเราไปอ่านเล่นๆกันนะคะ เพื่ออายุที่ยืนยาวของเราและบุคคลใกล้ชิดค่ะ..เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อคุณยายคนนั้นแหล่ะค่ะ.. การ “สืบเสาะหายาอายุวัฒนะ" ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเส้นผมที่บังตาเราอยู่นั่นเอง ยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุด คือ การเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง ทั้งชนิดและปริมาณ และป้องกันตนเองจากความอ้วน ผมจะสรุปเรื่องกลุ่มอาหารต่างๆ เพื่อเป็นพื้นฐานให้ผู้อ่านฝึกเป็นเภสัชกรผสมยาอายุวัฒนะให้กับตัวท่านและลูกหลานต่อไป อาหารกลุ่มแรกที่จะคุยถึง คือ ผักและผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารกลุ่มที่พิสูจน์แล้วว่า เป็นอาหารที่เป็นมิตรกับร่างกายเรามากที่สุด เป็นกลุ่มที่ทุกคนควรเพิ่มปริมาณการรับประทาน อาหารที่มีกากซึ่งสามารถละลายน้ำได้ช่วยให้การเดินทางของอาหารไปสู่ลำไส้ช้าลง ทำให้รู้สึกอิ่ม กากอาหารกลุ่มนี้พบได้ในผลไม้ เช่น แอปเปิล ส้ม และแครอท ส่วนอาหารที่มีกากซึ่งไม่สามารถละลายน้ำ ช่วยทำให้การเดินของอาหารไปสู่ลำไส้เร็วขึ้น ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี กากอาหารไม่ละลายน้ำพบได้ในผัก และเมล็ดพืชต่างๆ ถึงแม้ว่าผักและผลไม้มีคุณประโยชน์มหาศาล แต่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีโทษแฝงมาในคุณประโยชน์นี้ เราต้องคำนึงถึงวิธีการเตรียมอาหารและวิธีการรับประทานเมื่อรับประทานควบคู่ไปกับกลุ่มอาหารเสมอ ผลไม้หลายชนิดมีปริมาณน้ำตาลอยู่จำนวนไม่น้อย ฉะนั้น เราต้องใช้ความระมัดระวังในการรับประทานด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ ผู้ป่วยเบาหวานต้องทราบว่าผลไม้ชนิดใดที่ตนควรหลีกเลี่ยงบ้าง ถึงแม้จะเป็นอาหารประเภทผลไม้ ปริมาณน้ำตาลที่สูงสามารถนำไปสู่ความอ้วนได้ การกินผลไม้เราควรเลือกกินทั้งผลแทนการคั้นน้ำมาดื่ม ทั้งนี้ เนื่องจากการคั้นจะทำให้ต้องใช้จำนวนผลไม้มากขึ้น ทำให้น้ำตาลที่ได้รับเข้าร่างกายสูงขึ้น และยังทำให้ปริมาณกากที่จะได้รับน้อยลงอีกด้วย ผักเป็นกลุ่มอาหารที่มีประโยชน์มาก แต่วิธีการปรุงอาหารที่ไม่ถูกต้องสามารถลดคุณค่าของผักลงได้ เช่น การผัดผักด้วยน้ำมันปริมาณมาก น้ำมันจะทำให้ปริมาณแคลอรีเพิ่มมากขึ้นมาก ผักหลายชนิดนอกจากจะเป็นแหล่งของกากใยที่ดีแล้ว ยังเป็นแหล่งของวิตามินอีกด้วย ผักซึ่งมีปริมาณวิตามินผสมอยู่มาก ได้แก่ ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง เป็นต้น อาหารกลุ่มที่สองที่จะกล่าวถึงในวันนี้ คือ กลุ่มเนื้อสัตว์ ซึ่งประกอบด้วย เนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น หมู วัว เนื้อสัตว์ทะเล เช่น หอย กุ้ง ซึ่งแม้จะเป็นสัตว์เล็กแต่ให้คอเลสเทอรอลสูงได้ นอกจากนั้น ไข่ยังจัดอยู่ในอาหารกลุ่มเนื้อสัตว์ด้วยเช่นกัน ในกลุ่มของเนื้อสัตว์นี้ พระเอกที่โดดเด่นออกมาชัดเจน คือ ปลา เนื่องจากปลามีปริมาณคอเลสเทอรอลต่ำกว่าเนื้อสัตว์ใหญ่ และไขมันปลายังมีโอเมกา 3 สูง ซึ่งสามารถลดคอเลสเทอรอลในเลือดได้ เราจึงควรลดการรับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่ และหันมารับประทานปลาแทน ส่วนไข่นั้น ไข่แดงมีปริมาณคอเลสเทอรอลสูงกว่าเนื้อสัตว์ใหญ่ขึ้นไปอีก แม้ว่าไข่จะเป็นอาหารที่ดี สมบูรณ์ไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ เราต้องระมัดระวังในการรับประทาน โดยในแต่ละสัปดาห์ไม่ควรทานเกิน 4 ฟอง เช่นเดียวกับอาหารกลุ่มผักและผลไม้ สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงอย่างมาก คือ วิธีการที่ใช้ในการเตรียมอาหารและการรับประทาน เนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารจานด่วนมากมายในปัจจุบัน เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด อาหารทั้งสองอย่างนั้นอุดมไปด้วยไขมันและแคลอรี ฉะนั้นเราจึงควรจำกัดปริมาณการรับประทาน นอกจากนั้น อาหารจานด่วนเหล่านี้มักมาพร้อมกับน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่สูงมาก และนับวันขนาดแก้วจะโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ละแก้วของน้ำอัดลมนี้ให้แคลอรีมากมาย และอาจถึง 500 แคลอรีได้ หากเป็นแก้วขนาดใหญ่ ปัจจุบันเรารู้จักโอเมกา 3 ไขมันจากปลาซึ่งนำมากินเป็นยาบำรุงกันมากมาย แต่ว่าโอเมกา 3 ที่ดีที่สุดนั้นต้องอยู่ในสภาพธรรมชาติ สภาพธรรมชาติจะทำให้โอเมกา 3 ออกฤทธิ์ได้ดีกว่าเมื่ออยู่ในสภาพที่ถูกสกัดเป็นยา การเสาะหาความรู้เรื่องการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง และการจัดระเบียบวินัยการรับประทานอาหารให้กับตนเอง และลูกหลาน คือ การปฏิบัติตนเป็นเภสัชกรเอกปรุงยาอายุวัฒนะให้กับประเทศไทยเชียวครับ อาหารกลุ่มที่ 3 คือ อาหารจำพวกเมล็ดถั่ว เมล็ดงา และน้ำมัน ซึ่งสกัดมาจากอาหารกลุ่มนี้ ถึงแม้อาหารกลุ่มนี้จะไขมันสูง แต่เป็นไขมันที่มีประโยชน์ เป็นไขมันที่มีความอิ่มตัวที่ถูกต้องซึ่งเรียกว่า Monounsaturated Fat ตัว Monounsaturated Fat นี้มีผลช่วยลดคอเลสเทอรอลในเลือด ดังนั้นไขมันจากอาหารจำพวกนี้เป็นไขมันที่ดี รับประทานได้ แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี เพราะหากรับประทานมากเกินจะทำให้อ้วนได้ นอกจากจะสามารถช่วยลดคอเลสเทอรอลได้แล้ว Monounsaturated Fat ยังสามารถป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ อาหารกลุ่มนี้อาจให้วิตามินอีสูง วิตามินอีนี้อาจมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้ ทั้งนี้การศึกษาเรื่องวิตามินอีนี้ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ความรู้ใหม่เกี่ยวกับประโยชน์ของ Monounsaturated Fat นี้ทำให้พีระมิดของอาหารเปลี่ยนแปลงไป อาหารที่มีไขมันสูงไม่จำเป็นต้องอยู่บนยอดพีระมิดเสมออีกต่อไปแล้ว สามารถลงมาอยู่ส่วนล่างได้ เป็นอาหารที่กินได้แต่ต้องจำกัดปริมาณ อาหารกลุ่มถัดไป คือ อาหารจำพวกข้าว อาหารกลุ่มนี้เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตของมนุษย์เรามาตั้งแต่โบราณ อาหารจำพวกนี้ให้ประโยชน์สูงสุดเมื่อยังไม่ถูกขัดสี ผิวที่เคลือบอาหารกลุ่มนี้เป็นแหล่งของวิตามินที่ดี ดังนั้น ข้าวกล้องสามารถให้คุณค่าอาหารแก่เราได้มากกว่าข้าวขาวอย่างมาก และการรับประทานข้าวเป็นเมล็ดมีประโยชน์กว่าการรับประทานแป้งซึ่งทำมาจากข้าวอีกต่อหนึ่ง เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว กลุ่มอาหารสุดท้าย คือ กลุ่มนม เนย อาหารกลุ่มนี้เป็นอาหารซึ่งมีไขมันสูง เป็นอาหารกลุ่มที่มาจากวัฒนธรรมตะวันตกเสียมาก สำหรับทางตะวันออกอย่างไทยเรา การกินอาหารกลุ่มนี้ทางตรง เช่น การทานชีสหรือเนย มีไม่มากนัก แต่เรามีการทานอาหารกลุ่มนี้ ทางอ้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ การรับประทานอาหารประเภทเค้กหรือขนมในเบเกอรี่ทั้งหลาย ดังกล่าวมาแล้ว อาหารกลุ่มนี้เป็นอาหารไขมันสูง แต่มีความดีด้วยเช่นกัน คือ เป็นแหล่งอาหารที่มีแคลเซียมสูง ฉะนั้น เราจึงควรดื่มนม แต่ต้องรู้จักเลือกดื่มนมประเภทพร่องมันเนย ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมโดยไม่ต้องเพิ่มไขมันมากจนเกินไปนัก อาหารที่กำลังเป็นที่นิยมและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมามากมาย คือ ขนมขบเคี้ยว อาหารจำพวกนี้ส่วนมากจะเป็นอาหารประเภทแป้งซึ่งถูกปรุงแต่งและผ่านการทอด การกินขนมขบเคี้ยวมาก นอกจากจะทำให้ได้รับไขมันปริมาณมากซึ่งจะนำไปสู่ความอ้วน ยังจะได้รับเกลือปริมาณสูงอีกด้วย ปริมาณเกลือที่เพิ่มมากขึ้นในร่างกายนี้เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ความรู้เรื่องของอาหารเป็นเรื่องซึ่งคนปัจจุบันที่ทันสมัยต้องเรียนรู้ จุดประสงค์ของการรับประทานอาหารไม่ใช่เพื่อความอร่อยแต่อย่างเดียวอีกต่อไป แต่เพื่อสุขภาพที่ดีอายุที่ยืนนานด้วยเช่นกัน เราต้องรู้จักเลือกอาหารที่อร่อย ไปพร้อมกับเลือกอาหารที่มีคุณประโยชน์ และไม่มีโทษต่อร่างกาย ทั้งยังต้องรู้จักจำกัดปริมาณอาหารกลุ่มต่างๆ อีกด้วย การรับประทานอาหารที่ถูกต้องจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยและพฤติกรรม ผู้ซึ่งชอบรับประทานผักและผลไม้มีแนวโน้มจะรับประทานผักและผลไม้อยู่เรื่อยๆ แต่ผู้ที่ไม่ชอบอาจจะไม่รับประทานเลย หากคุณเป็นผู้ที่ไม่กินผักและผลไม้เลย ก็น่าจะพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพราะผักและผลไม้เป็นกลุ่มอาหารที่ดีที่สุดที่จะเลือกได้ ถ้าเราต้องการอายุวัฒนะ มีความสุขปลอดจากโรคแทรกซ้อน เราควรหันมาเรียนรู้เรื่องอาหารให้มากขึ้น เพื่อสามารถเลือกรับประทานอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าไปพร้อมกัน บุคคลซึ่งจะให้ความรู้ในเรื่องของอาหาร ได้ดีที่สุดมีชื่อเรียกว่า "นักโภชนาการ" หรือ "นักกำหนดอาหาร" อย่าลืมนะครับ ยาอายุวัฒนะที่คุณตามหาอยู่นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม และเภสัชกรผู้สามารถปรุงยาอายุวัฒนะให้คุณได้ ไม่ต้องมองหาไกล คือ ตัวคุณเองครับ

[เทพศาสตรา]

มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกครับ ว่าการที่ได้ทำไปอย่างที่คุณว่าแล้วมันจะทำให้อายุยืนยาวขึ้น เท่าที่ผมเห็นรักษาสุขภาพดีอย่างคุณว่าแต่ก็อย่างมากไม่เกิน65 ปีไม่ตายก็กลายเป็นฟอสซิลคงที่ไปหลายราย ร่างกายขาดการควบคุมระบบการไหลเวียนโลหิตที่ดี ไม่ได้หัดควบคุมลมหายใจที่เป็นตัวกำหนดแรงดันให้หัวใจสูบฉีดโลหิตอย่างสมำเสมอ และที่สำคัญขึ้นอยู่กับพันธุวิศวกรรมทาง DNa ด้วยส่วนนึง คุณลองนึกถึงกระต่ายสิ กินแต่สิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย วิ่งออกกำลังกายสมำเสมอ ไม่สูปบุหรี่หรือเสพของที่ให้โทษแก่ร่างกาย เห็นไหมว่ากระต่ายนี่ถ้ามันเป็นคนคงเป็นคนดีเหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบ ไม่เห็นว่ากระต่ายตัวไหนจะมีอายุเกิน 15 ปีซักตัวเลย ไม่อย่างงั้นทำตามแต่ที่ว่ามาคงมีกระต่ายที่เป็นอมตะกันมั่งแล้วละ คนเราก็เหมือนกันหวังพึ่งแค่เรื่องการทำตัวธรรมดาๆแล้วจะมีอายุยืนยาวนั้นมันก็เป็นเพียงการปลอบใจตัวเองเท่านั้นแหละ ถ้าไม่มีสิ่งที่สามารถรักษาสมดุลแก่ธาตุทั้งสี่ อันเกิดเป็นร่างกายเลือดเนื้อแล้วละก็ ไม่เกิน 70ปีคงได้เจอเพื่อนเก่าในเมืองผีเป็นแน่ สิ่งที่ควรทำถ้าอยากมีอายุยืนนาน ต้องกินยาที่สามารถรักษาระบบของร่างกายไม่ให้เสียหายสูญสลายไปได้อย่างสมำเสมอ และรักษาตัวรักษาใจสร้างจิตบารมีด้วยการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ และที่สำคัญทำจิตแผ่กุศลให้สรรพสิ่งในสามโลกและนึกถึงแต่บุญที่เคยสร้างและพันธนาการจิตว่าด้วยบุญบารมีอันได้สร้างมาจงดลบรรดาลให้อายุยืนนาน เป็น100ปี สิ่งที่เราคิดก็จะสำเร็จ อย่าไปเชื่อพวกนักโภชนาการอะไรมันมากนักเลย ชื่อตัวเราเองและความดีเราจะสามารถยืนหยัดได้นานกว่าที่คิดเยอะ ส่วนนักวิชาการอะไรๆก็วิทยาศาสตร์อะไรก็สำออยเกินไปจนร่างกายไม่เกิดการเรียนรู้และวิวัฒนาการ ทำให้ร่างกายและจิดใจอ่อนแอ พวกนี้ไม่เกิน 60 นั่งวิลแชร์ทุกราย แต่คนที่รักษาได้อย่างว่า อายุ89แล้วยังวิ่งได้อยู่เลย 55555