... หลักการลดความอ้วนที่สำคัญของท่านอาจารย์สง่า ดามาพงษ์ และกรมอนามัยเน้นที่ "3 อ." ได้แก่ อาหาร (ควบคุมอาหาร) ออกกำลัง และอารมณ์ (อารมณ์ดีลดความอ้วนได้สำเร็จมากกว่าอารมณ์เสีย) ผู้เขียนขอเรียนเสนอเพิ่มหน่อยคือ "3 อ." ขอพ่วงเรื่องนอนให้พอด้วย เป็น "3 อ. + น." เนื่องจากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ถ้านอนไม่พอ... จะหิวมากขึ้น แถมยังหิวอาหารประเภทหวานๆ มันๆ ด้วย ... ต่อไปเป็นการออกกำลังหน้าท้อง เพื่อให้หุ่นดี อาจารย์สง่าแนะนำให้ทำ "ซิทอัพ (sit-up / curl-up)" ดังต่อไปนี้
... ภาพที่ 1: หนังสือ "อ้วนอันตราย...ไม่อยากตายต้องลดอ้วน" ของท่านอาจารย์สง่า ดามาพงษ์ [ แนะนำให้ซื้อมาอ่านครับ ] ... อาจารย์ท่านแนะนำให้ทำอย่างน้อยวันละ 150 ครั้ง จะพบว่า กล้ามเนื้อหน้าท้องกระชับขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องทำรวดเดียว 150 ครั้ง ให้แบ่งเป็นช่วงๆ เช่น เริ่มจากเช้า 10 ครั้ง เย็น 10 ครั้ง ฯลฯ แข็งแรงแล้วค่อยๆ เพิ่มทีละน้อย เพราะอาจป่วยหนักได้ ... ข้อควรระวังของการออกกำลังแบบ "เกร็ง (isometric)" แบบนี้คือ
... อาจารย์สง่าท่านยกตัวอย่างการออกแรงในชีวิตประจำวันที่เผาผลาญกำลังงานได้ถึง 150 แคลอรีดังตาราง
... อาจารย์สง่ากล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้อ้วนลงพุงได้แก่ "กินเกิน เพลินไม่ขยับ บังคับสติไม่ได้" สาเหตุเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยหลักการ "3 อ." ของกรมอนามัยได้แก่ อาหาร (ควบคุม) ออกกำลัง และอารมณ์ (ดีๆ) ผู้เขียนขอเรียนเสริมข้อนอนให้ไปเข้าไปด้วย จึงเป็น "3 อ. 1 น." ... ผลจากการศึกษาพบว่า
... แรงจูงใจก็มีบทบาทมากๆ...
... ต่อไปเป็นคำตอบซึ่งท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยอยู่ในใจว่า ทำไมไม่ลดความอ้วนให้เร็ว เหตุผลสำคัญที่ควรลดความอ้วนช้าๆ ทว่ายั่งยืนได้แก่
... ตอนผู้เขียนเป็นเด็ก (30+ ปีก่อน) มีหนังกังฟูเรื่องหนึ่งทางโทรทัศน์ อาจารย์ท่านสอนไว้ว่า "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" คำสอนนี้ใช้ได้ดีในการลดความอ้วน เนื่องจากถ้าเราปล่อยให้มีสิ่งกระตุ้นมากๆ เช่น อาหารอร่อยๆ ฯลฯ หรือไปงานเลี้ยง... แบบนี้โอกาสพ่ายแพ้สูงมากๆ ... ทางที่ดีคือ "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" เช่น
... เรื่องผลไม้นั้น... ควรนั่งลง เคี้ยวช้าๆ กินช้าๆ ถ่วงเวลาให้ครบ 20 นาที เพื่อให้สมองเกินความรู้สึก "อิ่ม" เมื่ออิ่มแล้ว ควรรีบ "หยุด" กินทันที เพื่อฝึก "คิดใหม่-ทำใหม่" จนเกิดเป็นนิสัยใหม่ หลังกินผลไม้ควรรีบบ้วนปากทันทีหลายๆ ครั้ง เพื่อลดโอกาสฟันสึกหรือผุจากกรดในผลไม้ และกรดจากการย่อยสลายน้ำตาลในช่องปาก ... ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องน้ำตาลเทียมนั้น... อาจารย์สง่าท่านว่า ให้งดไปเลย เนื่องจากจะทำให้ลิ้นติดความหวานอยู่ เรื่องนี้ตรงกับการศึกษาที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า คนที่กินน้ำอัดลมประเภท "ไดเอต" หรือใช้น้ำตาลเทียมลดความอ้วนไม่ค่อยสำเร็จ ... ทีนี้ถ้า "หลีกเลี่ยง" ไม่ไหว ต้องหัด "ต้านทาน" ให้ได้ คือ รู้จักติดเบรค อยากกินจริงๆ ก็กินได้ แต่ต้องลดปริมาณ และอย่าเสียดายของ ที่เหลือให้ทิ้งไปเลย
... สิ่งที่มีส่วนทำให้การ "ต้านทาน" อาหารล้มเหลวนั้น นอกจากจะเป็นสี เสียง กลิ่น รส และสัมผัสของอาหารแล้ว แอลกอฮล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์ สาโท ฯลฯ) ก็เป็นศัตรูสำคัญ เพราะทำให้แรงต้านทานสูญสลายหายไปกับสายลม วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้ "งด-ลด-ละ-เลิก" เหล้าทุกชนิดไปเลย อย่าลืมว่า เหล้าทุกชนิดมีแคลอรีสูงเกือบเท่าไขมัน กับแกล้ม เช่น เนื้อทอด ถั่วทอด ฯลฯ ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ทำให้อ้วน และเมื่อขาดสติแล้วจะเกิดปรากฏการณ์นี้เสมอคือ "สติไม่มี-พุง(อ้วน)จะมา" ... ท่านผู้อ่านที่ใส่ใจสุขภาพ หันมาลดความอ้วนนั้น นับว่า ท่านได้ทำภารกิจเพื่อชาติที่สำคัญ เพราะทุกวันนี้คนเรามีโอกาสอายุยืนขึ้น เมื่ออายุยืนแล้ว... โอกาสเป็นโรคที่มากับอายุ(ยืน)ก็จะมากตามไปด้วย ประเทศชาติที่คนในชาติอ่อนแอ หรือมีโรคมากจะเสียเปรียบด้านการแข่งขัน (competitive advantage) เมื่อเปรียบเทียบกับชาติอื่นๆ เนื่องจากคนที่อ่อนแอหรือมีโรคมากมีประสิทธิภาพในการทำงานต่ำกว่าคนที่แข็งแรง ... นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นค่ายา ค่าอาคารสถานที่ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของโรคเรื้อรังที่เป็นผลจากโรคอ้วนก็เป็นปัญหาสำคัญของประเทศชาติ เช่น ค่ารักษาเบาหวาน ความดันเลือดสูง ซึ่งมักจะตามมาด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน เส้นเลือดสมองตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ข้อเข่าเสื่อม ฯลฯ ถ้าท่านหันมาใส่ใจสุขภาพ และหันมาลดความอ้วนแล้ว... นับว่า ท่านมีส่วนช่วยชาติประหยัด และช่วยตัวท่านเองตลอดจนคนที่ท่านรักประหยัดชีวิต ทำให้มีโอกาสมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น ... ถึงตรงนี้... ขอเชียร์ครับ เชียร์ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านลดความอ้วนได้สำเร็จ และมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพไปนานๆ ... หมายเหตุ
บทความนี้มี 8 ตอน
...
ที่มา
|
ไม่มีความเห็น