คลังเล็งอัดฉีดอีกระลอก เติมเงินเข้ากระเป๋าประชาชนทั้งระบบ

"หมอเลี้ยบ" รมว.คลังประกาศรัฐบาล เตรียมงัดมาตรการเสริมเพิ่มรายได้ให้แรงงาน เอกชน ข้าราชการและธุรกิจ เร่งทำเงินจากการท่องเที่ยวด้วยการพัฒนาถนนราชดำเนิน ให้เป็น "ฌองเอลิเซ่เมืองไทย" ขณะที่ปัญหา  ด้านจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะความขัดแย้งด้านความคิดทางการเมือง ต้องเร่งขจัดเพื่อไม่ให้เกิดการปฏิวัติซ้ำรอย

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวปาฐกถาเรื่อง "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่" ในงานสัมมนา "มองเศรษฐกิจไทยภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจโลก" จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่าโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้น หน่วยงานเศรษฐกิจได้ประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจในปี 2551 ไม่ต่ำกว่า 5% และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาระบุว่าไทยเป็นชาติเดียว   ในภูมิภาคที่มีอัตราขยายตัวเศรษฐกิจปี 2550 ดีกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลมั่นใจว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ       ในปี 2551 จะอยู่ที่ 6%  อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านจิตใจของคนในประเทศ ทั้งเรื่องความสามัคคี การแตกแยก        ทางความคิด และประเด็นทางการเมือง ยังเป็นสิ่งที่ต้องเร่งฟื้นให้เร็วที่สุด ความเห็นแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย แต่ไม่ต้องการให้เป็นปัญหาเหมือนช่วงปฎิวัติปี 2549 รัฐบาลต้องพยายามประคับประคองช่วงเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยให้ได้  "การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีความยากมากขึ้น วันนี้เรายังอยู่ไอซียูแต่ใน 3 เดือนข้างหน้าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวและฟิตร่างกายให้แข็งแรงต่อไป ปัญหาสำคัญที่สุดคือเรื่องจิตใจที่จะต้องสามัคคีให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้" นพ.สุรพงษ์กล่าว

ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามออกมาตรการระยะสั้นเพื่อลดรายจ่ายของประชาชน เช่นมาตรการด้านภาษี และ     ในวันที่ 22 เมษายน จะเสนอมาตรการภาษีกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม โดยลดค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน        ที่ไม่จัดอยู่ในบ้านจัดสรรให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ มาตรการต่อไปจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชน          ทั้งในกลุ่มแรงงาน ข้าราชการ เอกชน และภาคธุรกิจ ซึ่งจะพิจารณาว่าจะมีมาตรการเสริมรายได้ ทดแทนรายจ่าย       ที่เพิ่มขึ้นจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างไร  นอกจากนี้จะให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยว มีทั้งมาตรการภาษีสนับสนุนและมาตรการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำเช่น แม่น้ำเจ้าพระยา ให้มีการตกแต่งไฟสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ส่วนระยะยาวจะมีการพัฒนาชายฝั่งตะวันออกของภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี ให้อ่าวไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ เสริมรายได้ประชาชนในพื้นที่ "ช่วง 5 ปีข้างหน้า รัฐบาลจะพัฒนาถนนราชดำเนิน ให้ เป็น "ฌองเอลิเซ่เมืองไทย" โดยกำหนดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมระดับโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยเฉพาะการสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้   คนไทยและต่างชาติได้เรียนรู้โครงการต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะต้องจัดตั้งองค์การมหาชนขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะชื่อเบื้องต้น คือ องค์การมหาชนพัฒนาพื้นที่พิเศษราชดำเนิน เพื่อนำงบประมาณจากกระทรวงต่าง ๆ มาดูแลในองค์กรเดียว วางกรอบงบประมาณพัฒนาปี 2552-2555 จำนวน 1,600 ล้านบาทคาดว่ารัฐบาล         จะร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์กรประมาณ 2 เดือนข้างหน้า" รมว.คลังกล่าว

พร้อมกันนี้จะเร่งให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังค้างท่อให้เข้าสู่ระบบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้การประชุมร่วมกับรัฐวิสาหกิจในวันที่ 30 เมษายนนี้ จะเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางการแข่งขันมากขึ้น

แนวหน้า  23  เม.ย.  51