ได้อ่านปรัชญาผ้าขี้ริ้วแล้วได้อะไรดี ๆ จึงได้บันทึกไว้อ่านเมื่อหมดแรงหรือท้อแท้ ผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรก ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง คุณเห็นด้วยไหม ที่ว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า และมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง
ปรัชญาจากผ้าขี้ริ้ว
1.ผ้าขี้ริ้ว ยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด
เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย
ความสุขแท้ของคนคือการได้ยืนแอบยิ้มอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้อื่น
2.ผ้าขี้ริ้ว ดูดซับความสกปรกได้
แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด
3.ผ้าขี้ริ้ว เป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด
เหมือนคนที่ฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง
4.ผ้าขี้ริ้ว ถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้
เหมือนคนที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบ ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอยจากคนอื่น
5.ผ้าขี้ริ้ว ไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร
เหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน
ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน
6.ผ้าขี้ริ้ว ยอมให้ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด
เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม ดีใจเมื่อคนยินดีมา ใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าเข้าไปบริหาร
7.ผ้าขี้ริ้ว พอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด
เหมือนคนควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงานปิดทองหลังพระเป็นนายอินหรือ นางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น
มีมากที่ผู้น้อยบางคน ทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น
8.ผ้าขี้ริ้ว ทนทานต่อการขัดถูซักล้างไม่เปราะบาง
เหมือน คนที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ ประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่น ไม่เปราะบางหักง่าย คือไม่เป็นคนทุกข์ง่ายใจเบา
แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน
9.ผ้าขี้ริ้ว แม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่
เหมือนคนที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกปรามาสสบประมาท จะต้องตั้งใจเอาชนะอุปสรรค ตรงนั้นให้ได้
ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้น
มองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอ
เดือนอัสดง http://www.kruthai.info/board04/show.php?Category=webboard&No=2597
สวัสดีค่ะ ครูแอ๋ม
สวัสดีครับ ต้องทำตัวเป้นผ้าขี้ริ้วเอาไว้ดีกว่าครับ
จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์อะไรมากนัก
แวะมาเยี่ยมอีกแล้วค่ะชอบมากเลย
ไม่เกี่ยงงอนเมื่อถูกใช้เช็ดถูอะไร
ใจเป็นกลางสุดๆๆๆ
ผ้าขี้ริ้ว ไม่ขี้ริ้วดังชื่อ
คนขี้ริ้ว ก็ไม่จำเป็นต้องขี้เหร่นี่นะ
ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม
อ่านแล้วครับ ได้ข้อคิดดีมาก น่านำไปปฏิบัติ มากเลยครับ
สวัสดีค่ะ ตอนนี้ผ้าขี้ริ้วไม่มีทองให้ห่อแล้วนะคะ เมื่อวานดูข่าว ทองบาทละ 2 หมื่นกว่าบาทแล้วอ่ะ ผ้าขี้ริ้วก็คงต้องเป็นผ้าขี้ริ้วต่อไป (เศร้าจังนิทานเรื่องนี้)
สวัสดีค่ะครูปู ...ช่างคิดแบบคนอารมณ์ดี ครู คงไม่มีเงินไปซื้อทองนะ