ตั้งแต่มาเรียนที่เกาะบริเทนเนี่ย พบว่าบัตรนักเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันมากทีเดียว
จริง ๆ ตอนเรียนเมืองไทย บัตรนักเรียนก็สำคัญนะ แต่สำคัญต่างจากบัตรนักเรียนที่นี่ บัตรนักเรียนที่ใช้เมืองไทย มีไว้สำหรับแสดงตัวตน โดยเฉพาะตอนเข้าห้องสอบ แต่เดี๋ยวนี้อาจจะใช้ทำอย่างอื่นได้มากกว่านั้น อันนี้ไม่แน่ใจ
แล้วบัตรนักเรียนที่นี่สำคัญยังไง บัตรนักเรียนเราเคยหายไปสองวัน งานการไม่ได้ทำเลยค่ะ งั้นลองคิดดูคร่าว ๆ ดีกว่าว่าใช้บัตรทำอะไรได้บ้าง
ประการแรกเลย ก่อนออกจากบ้าน ถ้าไม่หยิบบัตรนักเรียนออกไปด้วย ก็กลับเข้าบ้านไม่ได้ เพราะประตูบ้านเราใช้ระบบคีย์การ์ดผ่านบัตรนักเรียน แต่อันนี้ยังพอหยวน ๆ ว่าถ้าเพื่อนอยู่ในบ้านก็กดกริ่งให้ลงมาเปิดประตูได้ค่ะ
ประการถัดมา ถ้าวันไหนเลือกนั่งรถเมลล์แทนปั่นจักรยาน บัตรนักเรียนก็ต้องถูกนำมาใช้อีกครั้ง เพราะใช้เป็นส่วนลดค่ารถเมลล์ได้ ปกติถ้านั่งรถจากบ้านเราไปแล็บต้องจ่ายค่ารถปอนด์นิด ๆ ไปกลับก็สองปอนด์กว่า แต่ถ้ามีบัตรนักเรียน (ต้องนักเรียนที่นี่เท่านั้นนะ) จะจ่ายแค่ 50 เพนนีเท่านั้น ไปกลับก็แค่ปอนด์เดียว เมื่อปีที่แล้ว ใช้บัตรนักเรียนเป็นบัตรลดได้กับรถเมลล์หลายสาย แต่ตอนนี้เหลือแค่สายเดียว คือสายที่ผ่านจากบ้านเราไปแล็บนั่นเอง โชคดีจริง ๆ ไม่ต้องจ่ายค่ารถแพง
พอลงจากรถเมลล์แล้วเดินเข้าตึกเพื่อไปแล็บ เอาล่ะสิ บัตรนักเรียนอยู่ไหน เพราะในตึกมีด่านคีย์การ์ดไว้หลายประตู ถ้าเป็นวันและเวลาทำงานปกติ จากประตูแรกของตึกจนถึงแล็บเรา จะต้องใช้การ์ดผ่านสองประตู แต่ถ้าเป็นวันหยุด หรือหลังห้าโมงเย็น ประตูจะล็อคไว้ถึงสี่ด่าน นี่แค่จากประตูตึกไปแล็บเรานะ ยังไม่รวมว่าถ้าต้องไปห้องแล็บอื่น ๆ หรือไปใช้เครื่องมือ ไปเอาสารเคมี ไปใช้เครื่องถ่ายเอกสาร หรือจากชั้นหนึ่งขึ้นไปชั้นสอง (ระบบ security ที่นี่สูงมาก ๆ) ถ้าวันไหนมีเพื่อนแวะมาหาที่แล็บ เราต้องออกไปรับหน้าตึกพาเข้ามาจนถึงแล็บ แล้วกำชับเพื่อนว่า ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกไปไหน ไม่งั้นกลับมาไม่ได้ไม่รู้ด้วย อ้อ แต่ไปเข้าห้องน้ำได้นะ คือว่าโชคดีที่ไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดเวลาไปเข้าห้องน้ำ ไม่งั้นถ้าใครลืมการ์ด วิ่งกลับมาเอาคงไม่ทันการ
เรามีที่ทำงานสองตึกค่ะ ตึกนึงคือตึกของภาควิชา อีกตึกคือตึกของสถาบันวิจัย ที่เล่าไปคือตึกวิจัย แต่ตึกของภาควิชาก็ไม่ต่างกันเลยล่ะค่ะ
เมื่อได้เวลากลับบ้าน อาจจะอยากเข้าไปคอลเลจ อ้อ ที่นี่มีสองส่วนคือส่วนของภาควิชาและส่วนของคอลเลจ ต่างกันอย่างไร ใคร ๆ ก็ถามค่ะ เอาไว้โอกาสหน้าจะเล่าเรื่องนี้ล่ะกันนะคะ แต่ถ้าจะไปเช็คจดหมายของเราที่คอลเลจ แล้วไม่มีบัตรนักเรียนก็หมดสิทธิ์เข้าไปอีกเช่นกัน ต้องรอให้ Porter มาเปิดประตูให้ ถ้าบังเอิญตอนนั้น Porter ออกไปธุระก็ต้องนั่งรอ รอ และรอ จนกว่า Porter จะกลับมาหรือจนกว่าจะมีใครสักคนผ่านมาแล้วเราขอรบกวนให้เค้าเปิดประตูให้นั่นล่ะค่ะ (เราโดนมาแล้ว รออยู่ตั้งนานกว่าจะมีนักเรียนเดินผ่านมาสักคน เพราะมันเป็นวันหยุด) ยิ่งถ้าวันไหนไปใช้โรงอาหารของคอลเลจ ประตูเข้าโรงอาหารก็ถูกล็อคไว้ด้วยระบบคีย์การ์ด เวลาซื้ออาหารแล้วต้องจ่ายเงิน ต้องจ่ายผ่านบัตรนักเรียนอีกเช่นกัน คือที่นี่ใช้ระบบเติมเงิน บัตรนักเรียนเราจะมีเงินไว้ส่วนหนึ่งไว้สำหรับจ่ายค่าอาหาร ซื้ออาหารแต่ละครั้ง เงินก็จะถูกหักออกไป พอเงินในบัตรเกือบหมด ให้เอาบัตรไปยื่นที่ Porter ว่าต้องการเติมเงินเท่าไหร่แล้วก็จ่ายเงินให้ Porter ไป คล้าย ๆ เติมเงินมือถือนั่นล่ะค่ะ แต่เรื่องจ่ายเงินค่าอาหารนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่คอลเลจไหนนะคะ คอลเลจเราใช้ระบบบัตรนักเรียน แต่บางคอลเลจใช้ระบบคูปองหรือเงินสดก็ว่ากันไป
ถ้าวันไหนมีเพื่อนมาเยี่ยม เราก็ต้องพาเพื่อนไปเดินชมเมือง ชมมหาวิทยาลัยและชมคอลเลจใช่มั้ยค่ะ อันนี้ก็จำเป็นต้องใช้บัตรนักเรียนอีกเช่นกัน เพราะนักท่องเที่ยวทั่วไปถ้าอยากเข้าชมภายในคอลเลจก็ต้องจ่ายค่าเข้าค่ะ ราคาต่างกันไปตามคอลเลจ แต่นักเรียนของที่นี่สามารถพาเพื่อนสองคนเข้าชมฟรีได้ค่ะ เพียงแค่แสดงบัตรนักเรียน แต่หนึ่งบัตรต่อเพื่อนสองคนเท่านั้นนะคะ ประหยัดไปได้อีกหลายปอนด์ และไม่ได้จำกัดเฉพาะคอลเลจที่เราอยู่นะคะ ถ้าเป็นนักเรียนของมหาวิทยาลัยนี้ พาเพื่อนเข้าเที่ยวได้ทุกคอลเลจค่ะ
นี่แค่บางส่วนว่าทำไมบัตรนักเรียนถึงสำคัญนัก ยังไม่นับรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ อีกนะคะ ถึงได้บอกว่า ขาดบัตรนักเรียนเหมือนขาดใจ!!!
แล้วถ้าบัตรนักเรียนหายต้องทำยังไงล่ะเนี่ย ที่นี่ทำบัตรใหม่ให้เร็วมาก แจ้งวันนี้ วันรุ่นขึ้นก็ได้แล้วล่ะคะ วิธีก็คือ ไปแจ้ง Porter ของคอลเลจตัวเอง กรอกฟอร์มนิดหน่อยพร้อมจ่ายเงินไปสิบปอนด์ แพงนะเนี่ย ราคานี้ดูหนังได้ตั้งสองเรื่องแน่ะ ทางคอลเลจจะแจ้งไปยังศูนย์บัตรนักศึกษาแล้วรุ่งขึ้นมารับบัตรได้ที่คอลเลจค่ะ อ้อ ไม่ต้องให้รูปใหม่ไปนะคะ เพราะทางศูนย์มีฐานข้อมูลเก็บไว้เรียบร้อย
เป็นไงคะ ความสำคัญของบัตรนักเรียนที่นี่ อย่างที่บอกไว้ว่าบัตรหายครั้งนึงแทบแย่ ถ้าบัตรหายวันทำงานยังโชคดีว่าสามารถขอบัตรสำรองได้ แต่เราโชคร้ายหน่อยค่ะ บัตรหายวันเสาร์ เข้าตึกทำแล็บไม่ได้เลยล่ะค่ะ ต้องโทรให้เพื่อนมาเปิดประตูให้ แล้วก็อยู่ในนั้นจนกว่างานจะเสร็จ เพราะถ้าออกไปไหนก็ต้องรบกวนเพื่อนอีกรอบ หากวันนั้นเพื่อนมีนัดกับแฟน ซวยเลยเรา เอาเป็นว่าบัตรไม่หายนั่นแหละดีที่สุดแล้ว ^__^
ปล. หลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่คุ้นเคยกับระบบภาควิชาและคอลเลจของมหาวิทยาลัยนี้ ไว้จะเล่าในบันทึกต่อไปล่ะกันนะคะ