ในปี 1861 พระเจ้ามินดงโปรดให้ย้ายเมืองหลวงและราษฎร
ประมาณ 150,000 คนจากราชธานีเดิมที่ชื่อเมือง
อมรปุระไปยังมัณฑะเลย์ ภายหลังจากที่ทรงชิงราชบัลลังก์
จากพระเชษฐาต่างพระมารดาพระนามว่าพระเจ้าปะกั่นมินไป
ยังมัณฑะเลย์ที่อยู่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร ทรงสร้าง
พระราชวังขึ้นที่เชิงเขามัณฑะเลย์ และทรงสร้างเมืองในปี
1857
ในปี 1878 พระเจ้ามินดงสวรรคต พระเจ้าตี่ป่อกับพระ
นางสุภยาลัตทรงขึ้นครองราชย์ต่อและถือเป็นยุค
มิคสัญญีของพม่า เพราะทั้งสองพระองค์ทรงเข่นฆ่า
ญาติมิตรมากมายเพื่อป้องกันมิให้ก่อการกบฎ เมื่อเกิด
โรคระบาดก็โปรดให้ประหารชีวิตข้าราชบริพารและ
ชาวต่างชาติเพื่อบรรเท่าเหตุร้ายตามคำแนะนำของ
โหราจารย์ ความอำมหิตของทั้งสองพระองค์รวมทั้ง
การที่ทรงโปรดฝรั่งเศสเป็นพิเศษ ทำให้อังกฤษไม่
พอใจ จึงผนวกพม่าเข้าเป็นอาณานิคมในปี 1885
พระเจ้าตี่ป่อกับพระมเหสีถูกเชิญเสด็จออกนอก
ประเทศ มัณฑะเลย์ถูกลดฐานะลงเป็นแค่เมือง
อาณานิคมที่อังกฤษตั้งชื่อให้ว่าฟอร์ตดัฟเฟอรีน
เมืองมัณฑะเลย์ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองย่างกุ้ง
มีระยะทางประมาณ 620 กิโลเมตร ตัวเมืองตั้งอยู่
ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี (เอยาวดี) มีสถานที่ทางประวัติ
ศาสตร์และศาสนสถานหลายแห่งที่น่าสนใจ
เช่น พระราชวังหลวงสร้างด้วยไม้สักเกือบทั้งหลัง
ในปี 1945 ทหารอังกฤษได้ระดมยิงพระนครซึ่งมี
ทหารญี่ปุ่นกับพม่าคอยต้านรับศึกเมื่อการสู้รบ
ยุติลง เมืองทองแห่งนี้ก็กลายเป็นเถ้าถ่านมีเพียง
คูน้ำและกำแพงเมืองที่เหลือรอด แต่ทางการได้
สร้างพระราชวังขึ้นใหม่
เมืองมัณฑะลย์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีนาฎศิลป์และ
คีตศิลป์ดีที่สุดในประเทศ และมีวัดวาอารามที่สำคัญ
หลายแห่ง (พวงนิล คำปังสุ์ หน้าต่างสู่โลกกว้าง
2546: 175-176)
อุตสาหกรรมการทำทองคำเปลว
ประเทศพม่าเป็นเมืองพุทธศาสนาที่มีความเคร่งครัด
ดังนั้นทุกครั้งที่ไปทำบุญที่วัดหรือไปแสวงบุญยัง
เจดีย์ต่างๆ เขาจะต้องแวะซื้อแผ่นทองคำเปลวตาม
แผงลอยในตลาดหน้าเจดีย์เพื่อนำไปปิดทองพระ
พุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในพระเจดีย์เสมอ มัณฑะเลย์
มีโรงงานในครัวเรือนที่ทำแผ่นทองคำเป็นอาชีพหลาย
แห่ง
คนงานจะเริ่มจากการใช้ฆ้อนขนาดใหญ่ตีแผ่นทอง
ขนาด 2.5 x 1 เซนจิเมตร แผ่นทองคำเปลวที่ตีเสร็จ
สมบูรณ์แล้วจะบางมาก การตีแผ่นทองจะใช้ไม้ฆ้อนตีไป
ครึ่งชั่วโมงแล้วนำไปมาตัดให้ได้ขนาด ตีต่อไปอีกราว
หนึ่งชั่วโมง นำกลับมาตัดให้ได้ขนาดอีกครั้ง แล้วค่อย
นำไปตีต่ออีกห้าชั่วโมง
สุดท้าย คนงานจำนำแผ่นทองคำที่บางอย่างยิ่งนี้มา
ตัดให้ได้ขนาด 2.5 เซนติเมตร แล้วมัดรวมกันเป็น
ตั้ง ตั้งละ 10 แผ่น แผ่นทองขนาด 2.5 x 1 เซนติเมตร
นั้นสามารถนำมาตีเป็นแผ่นทองเปลวได้ราวหนึ่งห่อ
ขายในราคา 400 จั๊ด (เรื่องเดียวกัน หน้า 187)
------------------------------------------------------
หากท่านสนใจที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท เอกสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล กรุณาเข้าไปชมรายละเอียดที่ www.lc.mahidol.ac.th โทร. 02-800-2308-14 ต่อ 3101
ไม่มีความเห็น