ภาคีร่วมพัฒนา


รวมกลุ่มทำให้เกิดพลัง ของความสามัคคี ในหมู่คณะ

 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551 ภาคีศวพถ. สมาคมคนตาบอดจังหวัดพัทลุง ได้จัด  งานสัมมนาสุขภาพคนตาบอด  และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2550 โดยได้รับงบสนับสนุนจาก เทศบาลเมืองพัทลุง  และ ศูนย์ประสานงาน เพื่อการวิจัยและพัฒนาท้องถิ่น (ศวพถ.) 


ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง  (สุเทพ โกมลภมร) กล่าวเปิดงาน ท่านได้ให้โอกาส ให้คนตาบอดได้มองเห็นท่านโดยการสัมผัสด้วยบุคลิกที่มีความเชื่อมั่น เข้มแข็ง และ มีรอยยิ้มที่อบอุ่น  นับว่าอิจฉา พี่วาสนา มากที่ได้มองเห็นท่านด้วยการสัมผัส

 

         ตั้งใจว่า ไปครั้งนี้ผู้เขียนไปแบบ ยิ้ม ๆ (คือสบายใจ )เพราะ ลุงช่วง บอกว่าให้เป็นพิธีกรคู่กับพี่พงศ์พันธ์ ซึ่งผู้เขียนเคยพบแล้วในงานแต่งงานของคนตาบอดเมื่อเดือนก่อน ท่านใจดี และเก่งมาก เลยกะว่าจะเบี้ยว ให้ท่านเป็นคนเดียว    แต่ที่ไหนได้ เมื่อ ถึงช่วง หลักประกันสุขภาพกับคนตาบอด ปรากฏว่า ผู้เขียนจะ ต้อง ปฏิบัติการเอง เอาละ นะ ไม่ได้เตรียมตัวไว้ แต่ก็ Ok (คิดในใจทันที นั่นละ นะ  เค้าบอกแล้ว ว่าเพียงแต่คิดไม่ดี กรรมก็ตามทันที ) และตามด้วยเรื่องของ พรบสุขภาพ  โดยท่านหัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง

 

 

              สิ่งที่ประทับใจ คือเมื่ออยู่ในช่วงของความรู้วิชาการ เค้าก็ตั้งใจฟัง และ ตั้งคำถามได้เด็ดๆ  เมื่อเทียบกับเราเราต้องจด และ บันทึกไว้ในกระดาษ อย่างครั้งนี้ ผู้เขียนได้ทำบันทึกหายไป ต้องมานั่งนึกอยู่นานสองนาน   แต่เมื่อ ถึงช่วงสนุกสนาน เค้าก็ สนุกกันอย่างเต็มที่ คนร้องเพลง ก็ร้องเพลงได้เพราะมาก ส่วนคนที่เต้นก็เต้น ได้น่ารักมาก แต่ คนที่ผู้เขียนกังวลที่สุด คือพี่ประยูร เพราะกลัวว่าแกจะเต้นสุดฤทธิ์ จนไปเตะเอาคนอื่นเค้า  เมื่อ สนุกกันเสร็จ มาประชุมสามัญประจำปี  ก็เป็นขั้นเป็นตอน มีการเลือก คณะกรรมการกันใหม่ มีการอภิปรายกันโดยไม่ต้องยกมือ แต่รับฟัง ด้วยเหตุและ ผล และ จบลงเมื่อไม่มีการโต้แย้ง ใดๆ ทำให้นึกถึงบันทึกของ คุณชายขอบ ที่เขียนไว้ สู้ด้วยยุทธศาสตร์ รบด้วยสติปัญญา ตัดสินแพ้ชนะกันด้วยข้อมูล เราเคยนึกว่าเราอยากให้สังคม การประชุมเป็นอย่างนี้นะ และ  สังคมคนตาบอดทำให้เราดูแล้ว  
 
       "เมื่อคนตาบอดเข้าห้องน้ำ"

   และนอกจากนี้ทำให้ได้เรียนรู้ว่าการรวมกลุ่มทำให้เกิดพลัง ของความสามัคคี ในหมู่คณะ ดูอย่างเวลาเข้าห้องน้ำ ซิคะ รูปด้านบนคะ พลังใจ มีป้าหนึ่งท่าน(เนื่องจากบันทึกหาย ไม่สามารถนึกชื่อได้ )ท่านบอกว่า ท่านมาครั้ง แรก ตอนแรก คิดว่าตัวเอง ต่ำต้อย ไม่มีค่า แต่เมื่อมาเห็นเพื่อนพ้อง และ รวมกลุ่มกันทำให้เกิดมีกำลังใจ และ มีคุณค่ามากขึ้นทันที  (ก็ขอให้ท่านมีกำลังใจต่อไปนะคะ)   และ ไม่วายที่ทุกคน จะ ถามถึงคุณอนุชา ว่าไปอยู่ไหน ติดต่อยากมาก  จน ผู้เขียนก็เลยบอกว่าช่วงนี้อยู่ปัตตานี ก็ขอให้ภาวนาให้ปลอดภัย 

หมายเลขบันทึก: 176516เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2008 19:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

     ขอบคุณสำหรับบันทึกที่ให้รายละเอียดดีมากเลยครับ ไม่ได้อยู่ร่วมก็รู้และได้อรรถรสเหมือนกับอยู่
     ยังแสดงให้เห็นถึงพลัง ขอบคุณทีมงานที่ไปช่วยเหลือพรรคพวกของเรานะครับ

ร่วมภาวนากับสมาคมคนตาบอดจังหวัดพัทลุงด้วย...ให้น้องชายขอบ น้องบ่าวที่นับถือของพี่ปลอดภัย

สวัสดี ปีใหม่ไทยครับน้องปู

ขอให้ทุกอย่างที่คิดทำชดและชุ่มชื่นเหมือนน้ำวันสงกรานต์

ยอดเยี่ยมเลยค่ะ บันทึกนี้ อ่านไปยิ้มไป น้องปูบรรยายบรรยากาศได้เยี่ยมจริงๆค่ะ ภาพประกอบก็ชวนให้ยิ้มอีกเหมือนกัน จะคอยติดตามตอนต่อๆไปนะคะ น่าชื่นชมทั้งคนเล่าและเจ้าของเรื่องทั้งหลายเลยล่ะค่ะ

สวัสดีคะ

พี่ชายขอบ
ทุกคนคิดถึง และ ถามถึงพี่ไม่ได้ขาดปากคะ

พี่ครูนงเมืองคอน  ขอบคุณสำหรับความหวังดี และ กำลังใจที่ส่งถึงกันเสมอ

สวัสดีคะ

พี่ ชาญวิทย์-นครศรีฯ  ออ ต้องเรียกว่าพี่หลวงไหมคะ สวัสดีปีใหม่คะ ขอพรให้พี่หลวงสุขภาพร่างกายจิตใจ แข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้น้องๆ นะคะ

พี่ โอ๋-อโณ  ขอบคุณนะคะ ที่มาเยี่ยมเยียนน้อง แต่ สมาคมคนตาบอดเค้ามีความสุข และเมื่ออยู่กับเค้าเราก็มีความสุข คะ ยิ้มได้เสมอคะ แม้ยามมีทุกข์

ขอบคุณมากครับ ที่ให้รายละเอียดในอีกมุมหนึ่งครับ

สวัสดีคะ คุณ. สิทธิรักษ์

  • ยินดีคะ ที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้คะ

 

เสียดายจังไม่ได้ไปร่วม คงสนุกน่าดูนะคะ

คิดถึงพี่ปูนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท