การให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยเอดส์ที่ด้อยโอกาสทางสังคมฟรี
ข้อมูลผู้ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์แยกตามสิทธิ์และโครงการต่าง ๆ ของประไทย ณ ปี 2550
จากการรวบรวมข้อมูลของสำนักโรคเอดส์ ฯ กรมควบคุมโรค เมื่อสิ้นปี 2550 พบว่าในปัจจุบันมีผู้ป่วยเอดส์ที่อยู่ในในประเทศไทย สามารถเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์แล้วถึงประมาณ 1.8 แสนราย ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ที่มีอยู่ทั้งหมด ผู้ป่วยที่เข้าถึงยาต้านไวรัสดังกล่าวหลัก ๆ ประกอบด้วย ผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม ข้าราชการและพนักงานของรัฐ และโครงการพิเศษต่าง ๆ อีกหลายโครงการ
ในปี 2550 กรมควบคุมโรค มองเห็นถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ จากแนวคิดที่ว่า “ ทั่วถึงและเท่าเทียม ” ดังนั้น " โครงการเข้าถึงบริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ด้อยโอกาสทางสังคม ( NAPHA Extension ) " ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนโลกด้านโรคเอดส์ ( Global Fund AIDS ) จึงได้ก่อกำเนิดขึ้น โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ( ตามข้อกำหนดของโครงการ ) เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการยาต้านไวรัสให้กับผู้ด้อยโอกาสทางสังคม รวมถึงคนไทยที่มีข้อจำกัดการใช้สิทธิของตนเอง เป็นการช่วยเติมเต็มช่องว่างในระหว่างสิทธิต่าง ๆ โดยที่ไม่ทำให้เชื้อชาติ สัญชาติ เผ่าพันธุ์ และข้อจำกัดการใช้สิทธิของผู้ป่วย มาเป็นกำแพงขวางกั้นการมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปของผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์
กรอบแนวคิดการให้บริการ
รายละเอียดเบื้องต้นโครงการ NAPHA Extension
ผู้ที่มีสิทธิ์เข้ารับบริการ
1. กลุ่มผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ที่อยู่นอกสิทธิประกันสุขภาพต่างๆ ทั้งที่เคยและไม่เคยรับ ยาต้านไวรัสเอดส์ ได้แก่
- กลุ่มคนไทยรอพิสูจน์สิทธิ หรือ พลัดถิ่น
- กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่มีหลักประกันสุขภาพ แต่ไม่ครอบคลุมการรักษาด้วยยาต้านไวรัส
- กลุ่มชนเผ่า และ กลุ่มผู้อพยพด้วยสาเหตุต่าง ๆ
- กลุ่มอื่นๆ ที่ไม่สิทธิประกันสุขภาพใด ๆ
2. กลุ่มผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ที่มีสิทธิประกันสุขภาพต่าง แต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการ เช่น
- กลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ
- กลุ่มคนไทยผู้มีสิทธิประกันสุขภาพต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่ไม่สามารเข้ารับบริการในระบบปกติได้ด้วยมีข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น การถูกรังเกียจ ความไม่สะดวกในสิทธิ์เดิมที่ได้รับ รอยต่อช่องว่างระหว่างการเปลี่ยนสิทธิ์ ฯลฯ
บริการการรักษาที่ผู้ป่วยจะได้รับจากโครงการ NAPHA Extension
จะครอบคลุมประเด็นทางการแพทย์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ยาต้านไวรัสเอดส์สูตรพื้นฐานตามข้อกำหนด
- ยาต้านไวรัสเอดส์สูตรดื้อยาตามข้อกำหนดและผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการแพทย์
- ตรวจระดับภูมิคุ้มกันชนิด CD4 ในผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี ที่ยังไม่มีอาการปีละ 2 ครั้ง
- ตรวจติดตามทางห้องปฏิบัติการในผู้ที่กำลังรับยาต้านไวรัสเอดส์ระดับภูมิคุ้มกันชนิด CD4 ปีละ 2 ครั้ง
- ตรวจปริมาณไวรัส ( Viral Load ) ปีละ 1 ครั้ง
- ตรวจการดื้อยาต้านไวรัส (HIV resistance) ปีละ 1 ครั้ง
- การป้องกันการแพร่ระบาดของ เอช ไอ วี
- การส่งเสริมการกินยาอย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง ( Adherence) และการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ ( VCT )
- ตรวจระดับภูมิคุ้มกันชนิด CD4 ,ปริมาณไวรัส ( Viral Load ) , การดื้อยาต้านไวรัส ( HIV resistance) ส่วนที่เกินจากสิทธิปกติของผู้ป่วย อีก 1 ครั้ง เมื่อแพทย์พิจารณาเห็นสมควร
ทั้งนี้ผู้ป่วยทุกรายไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการรักษา
( เงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการ )
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามขอเข้าร่วมโครงการ NAPHA Extension ได้ที่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐหรือเอกชนที่ผู้ป่วยและญาติสะดวกในการเข้ารับบริการ
ดูรายละเอียดที่
http://dpc9.ddc.moph.go.th/aids/harrt.html
