เขาเชิญให้มา "ร่วมประเวณี" ?


"เชิญชวนร่วมประเวณี"? ความวิบัติทางภาษา หรือ จิตใจคนที่เสื่อมทราม

เชิญชวนร่วมประเวณี ปี๋ใหม่เมือง ไม่แน่ใจว่าจะเป็นความตั้งอกตั้งใจของผู้เกี่ยวข้อง หรือความประมาทเลินเล่อไม่รู้จริงของการใช้ภาษาของคนต่างถิ่นที่กระแดะอยากจะเป็น คนเมืองกับเขาหรือไม่ก็เป็นความโชคร้ายของบรรพบุรุษชาวล้านนาไทยที่มีลูกหลานกระแดะอยากโกอินเตอร์จนลืมรากเหง้าทางวัฒนธรรม ของตนเอง ซึ่งจะเห็นได้ประโยคข้างต้นที่ติดอยู่ตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในสถานที่ที่เคยเป็นศูนย์กลางความเจริญของอาณาจักรล้านนาไทยในอดีต วันนี้เรายังพบเห็น การเชิญชวนร่วมประเวณี ประกอบกับภาพในประเพณีสงกรานต์ที่เหมือนเทศกาลโชว์สัดส่วนเรือนร่าง ทั้งที่สภาวัฒนธรรมและองค์กรท้องถิ่นได้ออกมารนรงค์การใช้ภาษาพื้นเมืองให้ถูกต้องว่า หากจะใช้การสื่อด้วยคำเมืองต้องใช้ว่า เจิญจวนฮ่วมป๋าเวณี ซึ่งออกเสียงแตกต่างและมีความหมายแตกต่างกับ ประเวณี ซึ่งมีความหมายในเชิงลบในมุมมองของผู้ได้ยินโดยเฉพาะคนต่างบ้านต่างเมือง หรือหากจะใช้ภาษาไทยกลางก็ควรใช้ให้ถูกต้องว่า เชิญชวนร่วมประเพณี ไม่ใช่เอาคำนั้นมาผสมคำนี้ให้มีความหมายดูแปลก ๆ การใช้ภาษาที่ผสมปนเปกันสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมที่มีการผสมปนเปกันเป็นค๊อกเทลล์หรือมิลล์เชกต่างกันก็แต่เพียงเครื่องดื่มเหล่านั้นยังมีรสชาติที่พอดื่มได้แต่การผสมกันทางสังคม ไม่ว่าจะเป็น การตัดต่อทางพันธุกรรมของนักการเมืองนักเลือกตั้งที่ผสมพันธุ์กันมั่วจนแทบจะแยกแยะหาดีเอ็นเอของการทำเพื่อสังคมแทบจะไม่เจอกันอยู่แล้ว หรือการรับเอาวัฒนธรรมทั้งฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลี มาใช้ได้อย่างบูรณาการทั้งในเรื่องของการกินการอยู่ ที่ต้องกินแบบ แดกด่วน ทั้งที่คุณค่าทางโภชนาการก็มีน้อยกว่าแถมยังราคาแพงกว่าแม้บ้างคนจะอ้างว่า ฉันมีปัญญาจ่าย.....บางคนไว้ผมทรงโปรเตโต้ ทรงฟิล์ม ฯลฯ แต่ไม่ได้ดูรูปหน้าหรือโครงสร้างทางร่างกายที่ไปละม้ายคล้ายคลึงกับประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศที่เคยเป็นศัตรูกับไทยมาแต่อดีต ถึงแม้ว่าคนเราจะมีสิทธิและเสรีภาพในร่างกายจะทำอะไรก็ได้แต่ก็ควรจะดูความเหมาะสมกันบ้าง ซ้ำร้ายนักศึกษาโดยเฉพาะผู้หญิงเองยังรู้จักประยุกต์ใช้สถานการณ์และสถานที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาได้อย่างน่ายกย่องสรรเสริญ ทั้งการเปลี่ยนมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นที่ควรศึกษาหาความรู้ให้กลายเป็นแหล่งรวมแฟชั่น รู้จักการประหยัดอดออมตั้งแต่เป็นนักศึกษาด้วยการสวมเสื้อตัวเล็ก ๆ รัด ๆ กระโปงสั้นๆ แหวก ๆ อวดเรือนร่างทั้งที่น่องทู่และเป็นตุ่มเป็นตา ไม่สนใจว่ายิ่งสั้น ยิ่งแพง แต่ก็เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซด์ลดลงนิดหน่อย เพราะกระโปรงไม่ต้องไปพันกับล้อรถ แต่กลายเป็นสาเหตุให้มีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นทั้งตัวผู้ขับขี่ที่นุ่งสั้นจนแทบจะอ้าขาหรือขยับขาเหยียบเบรกไม่ได้ และยังเป็นการช่วยบรรเทาความเครียดจากการจราจรด้วยการยอมการตกเป็นเป้าสายตาของผู้ใกล้ชิดที่มัวแต่มองขาจนลืมมองรถ บางคนใช้หลักการบูรณาการการแต่งกายเข้ากับการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยการแต่งกายเลียนแบบของกินคุ้นหูคุ้นตา ทำตัวเองให้เห็นสัดส่วนเป็นมัด ๆ ขาเป็นขา สะโพกเป็นสะโพก อกเป็นอก ทำให้นึกถึงของฝากลือชื่อของเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็น แหนมป้าย่น แหนมป้าหยิ่น บางคนก็เหมือน แหนมหม้อ ที่มีรูปร่างสัดส่วนเท่ากันตั้งแต่บนลงล่าง นักศึกษาหญิงในคณะที่คะแนนสอบสูง ๆ มีใจรักการบริการ มีค่านิยมอยากทำงานเสิร์ฟบริการคนประเทศอื่นบนเครื่องบินมากกว่าอยากทำงาน ที่ได้ใช้สติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ น่ายกย่องในความเสียสละแถมยังมีพรสวรรค์และรู้จักการอนุรักษ์ในเรื่องการเต้นเชียร์ลีดเดอร์ ที่ยังคงภูมิอกภูมิใจกับท่าเต้นเดิม ๆ โดยเฉพาะเชียร์ลีดเดอร์ของสองมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในประเทศ ป้าคนที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์รุ่นหนึ่งหลังสงครามโลก ก็ยังสามารถเต้นเข้าจังหวะกับทีมเชียร์ลีดเดอร์น้องใหม่รุ่นปัจจุบันได้ สันนิษฐานว่า คงมีคำสาปมาจากคุณป้ารุ่นแรกว่า ถ้าใครคิดสร้างสรรค์ท่าอะไรขึ้นมาใหม่ ๆ มันผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไป เวลาไปไหนจะพบเห็นผู้คนใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการใช้ชีวิตโดยเฉพาะแฟชั่นไม่ต้องหรูหรา แต่ขอเน้นที่ยี่อห้อที่กำลังได้รับความนิยมในสังคมชั้นสูง สังเกตง่าย คนในสังคมนี้ เวลาออกไปไหนจะแต่งกาย ด้วยเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้ายี่ห้อเดียวกันทั้งกลุ่ม ชอบดูละครไทยเชิงอนุรักษ์เป็นที่สุดที่ ทุก ๆ สิบปี จะต้องมีบ้านทรายทอง ดาวพระศุกร์ และจำเลยรัก วนกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกคนละครั้งสองครั้งเสมอ ไม่เชื่อไปถาม นางเย็นดูได้ พอเรียนหนังสือจบบ้างไม่จบบ้างก็เข้าสู่อาชีพที่ตนใฝ่ฝัน คนที่ฝีปากกล้าหน่อยก็เข้าสู่การเมืองที่วนเวียนอยู่กับการใส่ร้ายป้ายสีด่าทอกัน นักการเมืองจึงต้องมีลักษณะฝีปากกล้า ปัญญาด้อย เพราะมัวเสียเวลา ไปขุดคุ้ยหาเรื่องด่า จนไม่ค่อยมีเวลาคิดสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมือง หลายคนหันหน้าเข้าสู้แวดวงบันเทิงและวงการเพลงที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ในการลอกเลียนทำนองเพลงของประเทศอื่น ๆ จนปัจจุบัน ได้ลามไปถึงการ ลอกมิวสิควีดีโอ ลอกเครื่องแต่งกาย ทรงผม ท่าเต้น ปกเทป ฯลฯ คนดูให้ความสำคัญกับการแจกรางวัลพอ ๆ กับการสอบโอเนต เอเน็ต  ทั้งรางวัลของวงการบันเทิง หรือโฆษณาจะนิยมแจกกันงานละไม่ต่ำกว่า 4 - 5 โหล ทั้ง ๆ ที่มีผู้คิดสร้างสรรค์ อะไรใหม่ ๆ ขึ้นจริง ๆ ไม่ถึง 4 - 5 ราย บางคนยิ่งน่ายกย่องเพราะต้องการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติด้วยการสร้างสถิติเพื่อให้ได้บันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ค เช่น ธูปยักษ์ ผัดไทยักษ์ ขนมเปี๊ยะยักษ์ ไข่เจียวยักษ์ ใส้กรอกยักษ์ ฯลฯ น่าทึ่งจริง ๆ

เหล่านี้เองส่วนหนึ่งเป็นผลพวงของการศึกษาที่ลอกเลียนแบบ ตามก้นต่างชาติจนละเลยรากเหง้าทางสังคม การเรียนการสอนที่มีอยู่ไปตอบสนองต่อสายพานการผลิต มากกว่ามุ่งตอบสนองความต้องการและความเป็นไปของสังคม กระบวนการถ่ายทอดจากครูสู่ศิษย์ถูกทำให้ลดทอนความสัมพันธ์ต่อกันและกันจนนำไปสู่ความใช้ไม่ได้ เพราะมุ่งบรรยากาศวิชาการภายใต้ห้องเรียนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ การเรียนการสอนใช้ระบบจำแบบเครื่องจักรสมองกลหรือคอมพิวเตอร์ที่จำไปเพื่อสอบ พอสอบเสร็จก็ฟอร์แมตข้อมูลทิ้งรอบันทึกใหม่ในเทอมใหม่พอเรียนจบจำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ค่อยไปหาเอาใหม่ในชิวิตทำงาน(ที่ไม่รู้ว่าจะได้งานหรือเปล่า) ท้ายสุดเองก็ไม่อยากไปโทษแต่ระบบการศึกษา อาจารย์ หรือมหาวิทยาลัย เพราะถ้าตราบใดคนในแวดวงสังคมระดับสูงยังทำตัวเหมือนมีพ่อ เป็นชาวฝรั่งเศสชื่อ หลุยส์วิตตอง มีแม่ชื่อ แชนแนล มีเพื่อนสนิทชื่อ แมคโดนัลด์ มีญาติผู้ใหญ่ชื่อ ผู้พันแซนเดอร์ แล้วละก็ เราคงจะ หยุดความคิดแบบ บริโภคนิยม ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทั้งหมดนี้ไม่ได้

หมายเลขบันทึก: 176459เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2008 13:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่แล้วจะพูดว่า "ป๋าเพณี หรือปะเพณี" แต่ก็นั่นแหละ..นักอนุรักษ์(จริงหรือ)มักคิดคำที่ตนคิดว่าควรใช้คำที่เป็นท้องถิ่นดั้งเดิมจนลืมคิดถึงความหมายที่เป็นสากลแท้ที่จริงคำเมืองก็สามารถปรับให้เหมาะสมแต่ยังคงความหมายของคำเมืองไว้ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมแทนที่ของการเป็นขนบธรรมเนียมประเพณี

อย่าอ่านนะ

แด่ภรรยาสุดที่รัก

ตลอดปีที่ผ่านมา ผมพยายามฝากรักกับคุณถึง 365 ครั้ง

คือทุกวันเชียวหละ แต่ผมก็ทำได้แค่ 36 ครั้ง

คือเฉลี่ยประมาณ 10 วันต่อครั้งเท่านั้น

เพราะอะไรผมจึงทำงานไม่เข้าเป้า ? ต่อไปนี้คือเหตุผล

54 ครั้ง เอาผ้าปูที่นอนไปซัก

17 ครั้ง คุณเข้านอนดึก ทำให้ไม่มีเวลาพอ

49 ครั้ง คุณบ่นว่าเพลียมาก

20 ครั้ง บอกว่าอากาศร้อนเกินไป

15 ครั้ง คุณแกล้งทำเป็นหลับ

22 ครั้ง คุณบอกว่าปวดหัว

17 ครั้ง คุณกลัวว่าจะทำให้ลูกตื่น

16 ครั้ง คุณบอกว่ายังระบมไม่หาย

12 ครั้ง ตรงกับช่วงต้องห้าม ประจำเดือนคุณมา

19 ครั้ง คุณต้องตื่นแต่เช้ามืด กลัวเพลียเดี๋ยวตื่นไม่ไหว

9 ครั้ง คุณบอกว่าคืนนี้ไม่มีอารมณ์

7 ครั้ง ผิวถูกแดดเผา คุณบอกว่าแสบจนแตะเนื้อต้องตัวไม่ได้

6 ครั้ง คุณกำลังเพลินกับรายการดึกทางโทรทัศน์ ห้ามรบกวน

5 ครั้ง คุณไม่ยอม เพราะกลัวผมที่ทำมาใหม่ๆจะยุ่งเสียทรง

3 ครั้ง คุณบอกว่ากลัวเพื่อนบ้านจะได้ยินเสียงเวลาเราเมคเลิฟกัน

9 ครั้ง คุณบอกว่า เดี๋ยวแม่จะได้ยิน

และ 36 ครั้งที่ผมทำได้สำเร็จนั้น ก็ใช่ว่าจะได้ผลเป็นที่พอใจไม่ เพราะ :

6 ครั้ง คุณเอาแต่นอนเฉยๆเป็นท่อนซุง

8 ครั้ง คุณเอาแต่คอยเตือนให้ผมระวังเรื่องเพดานมีรอยแยก เดี๋ยวคนอยู่ข้างบนจะแอบดู

4 ครั้ง คุณเร่งให้ผมรีบๆทำจะได้เสร็จเร็วๆ

7 ครั้ง ผมต้องคอยปลุกคุณ บอกให้รู้ว่าผมเสร็จแล้วนะ

1 ครั้ง ผมกลัวว่าจะทำให้คุณเจ็บ เพราะรู้สึกว่าคุณขยับตัว

แด่สามีสุดที่รัก

ฉันคิดว่าคุณออกจะสับสนไปหน่อยกระมัง

ต่อไปนี้คือเหตุผลที่ว่า

ทำไมคุณถึงไม่สามารถทำให้ได้มากกว่านั้น

5 ครั้ง คุณเมาแอ๋กลับบ้าน แล้วพยายามไปเย่อกับแมว

36 ครั้ง คุณไม่ได้กลับบ้านเลย

21 ครั้ง คุณพยายามแล้วแต่จบไม่ลง เพราะอ่อนปวกเปียกเสียก่อน

33 ครั้ง แป๊ปเดียวคุณก็หลั่งเสียก่อนแล้ว

19 ครั้ง เจ้าน้องชายของคุณอ่อนแอ จนมุดเข้าไปไม่ได้

38 ครั้ง คุณทำงานอยู่จนดึก

10 ครั้ง คุณเกิดตะคริวกินที่นิ้วเท้าเสียก่อน

29 ครั้ง คุณอ้างว่าต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปเล่นกอล์ฟ

2 ครั้ง คุณเกิดไปมีเรื่องนอกบ้าน แล้วถูกเตะผ่าหมากกลับมา

4 ครั้ง คุณดันรูดซิบไปติดเจ้าน้องชายเข้า

3 ครั้ง คุณเป็นหวัด น้ำมูกไหลตลอดเวลา จนไม่เป็นอันได้ทำอะไร

20 ครั้ง คุณลืมสิ่งที่คิดจะทำ ทั้งๆที่คิดเอาไว้ตลอดทั้งวัน

6 ครั้ง คุณหลั่งเลอะเทอะกางเกงนอนเสียก่อน ตอนอ่านหนังสือโป๊

98 ครั้ง คุณเอาแต่ดูการถ่ายทอดฟุตบอล กอล์ฟ ฯลฯ ทางโทรทัศน์

และที่บอกว่าพอมีอะไรกันได้

ฉันก็ยังทำให้คุณผิดหวังอีกนั้นขอบอกเหตุผลดังนี้:

เหตุผลที่ฉันนอนเฉยก็เพราะตอนนั้น คุณทิ่มผิดที่

คุณกำลังทำอยู่กับที่นอนรู้ไว้เสียด้วย

ฉันไม่ได้พูดถึงรอยแยกบนเพดาน

ที่พูดในตอนนั้นคือรอยแยกของฉัน

ฉันเตือนให้เอาเข้าถูกร่องถูกรอยนั่นต่างหาก

และตอนที่คุณรู้สึกว่าฉันกำลังขยับตัว

นั่นก็เพราะคุณดันผายลมออกมา

ฉันเลยต้องกลั้นลมหายใจน่ะสิ

คำเตือน

เมื่อท่านอ่านจบแล้วให้ fwd ต่อผู้อื่นอีก 7 คน

แล้วจะได้รับสิ่งดีๆตอบแทน

นั่นคือ ภายในวันที่ 5 ของการปฏิบัติตามคำเตือน

จะต้องมีคนมาจีบคุณหรือบอกว่ารักคุณ

และถ้าใครไม่ปฏิบัติตามอาจประสบโชคร้ายในเรื่องความรักตลอดไป

ถ้าอ่านวันอาทิตย์ ภาวนาขอให้โชคดีตลอดสัปดาห์

ถ้าอ่านวันจันทร์

ภาวนาขอให้มีโชคลาภทางการเงิน

ถ้าอ่านวันอังคาร

ภาวนาเรื่องความรัก

ถ้าอ่านวันพุธ

ภาวนาขอความสำเร็จด้านการเงิน

ถ้าอ่านวันพฤหัสฯ

ภาวนาขออะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ

ถ้าอ่านวันศุกร์

ภาวนาขอให้ได้สุขสมรักแบบสุดๆ

ถ้าอ่าวันเสาร์

ภาวนาขอให้ได้รับโทรศัพท์ครั้งสำคัญที่กำลังรออยู่

ภาวนาเสร็จให้รีบส่งต่อ

ไม่เช่นนั้นคำภาวนาอาจเป็นหมันนะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท