จำเลยรัก ถึง สวรรค์เบี่ยง กับ CSR และ ISO 26000
ชอบละคร "จำเลยรัก" เพราะนอกจากนางเอก เธอจะสวยมาก มีความกตัญญูรู้คุณ ยังเก่งเรื่องการบ้านการเรือนอีก ชอบละคร "สวรรค์เบี่ยง" เพราะคุณเคน กับ คุณแอน แสดงได้สมบทบาท ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะคุณแอน ในสัปดาห์นี้ แสดงได้ดีจริง ๆ ทั้งสองเรื่องนักแสดงแตกต่าง แต่มีอยู่ "สิ่งหนึ่ง" ที่เหมือนกัน
เมื่อครั้ง "จำเลยรัก" ออนแอร์ช่วงแรก ภาพของการกักขัง หน่วยเหนี่ยว กักกัน โหดร้าย ทารุณ ของคุณพิศาล (ในภาพยนตร์) บางคนชอบพระเอกในละคร คุณลิขิตแสดง ที่กระทำต่อนางเอก (ไม่รู้ใครจำไม่ได้) ผุดขึ้นในสมอง ค่อนข้างค้านกับละครรักแนวนี้เพราะการกระทำแบบนี้นอกจากจะผิดกฎหมาย และยังเป็นการ "ละเมิดสิทธิมนุษยชน"
มาถึงเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" จำไม่ได้ว่าเนื้อหาละครเป็นอย่างไร ว่าจะยืมหนังสือในห้องสมุดมาอ่าน เพื่อจะดูว่ามีฉาก "ละเมิดสิทธิมนุษยชน" หรือไม่ ก้อมัวแต่วุ่น อีกอย่าง "กลัวอ่านแล้วติด" ไม่เป็นอันทำการทำงาน อิ อิ แต่!!! เมื่อสองวันที่ผ่านมา ตัวละคร "สวรรค์เบี่ยง" แสดงให้ผู้ชมละครชาวไทยทุกช่วงอายุ (แม้ใน TV จะบอกว่า น 18 + ก็ตามเหอะ) ได้รับรู้ รับชม พฤติกรรมของตัวละครที่อาจเป็น idol ของหนุ่มเล็ก น้อย ใหญ่ ไปเรียบร้อยแล้ว ...และบังเอิ๊ญ บังเอิญจริง ๆ ที่มีผู้ใหญ่ในประเทศที่ออกมาเน้นคำว่า "หน้าตัวเมีย" เป็นการใช้คำพูดไม่เหมาะสม ในละครเรื่องนี้เมื่อคืนวันพุธ อยากให้ท่านสนใจในประเด็น "สิทธิมนุษยชน" ด้วยจะยิ่งใหญ่มากขึ้น
ผู้จัดละคร เป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม ในฐานะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ มีหลักในการใช้บริหารจัดการ อย่างน้อยคือ หลักธรรมาภิบาล ท่านต้องคำนึงถึง Stakeholder ซึ่งในประเด็นี้ ถ้านำ CSR (Corporate Social Responsibility) และ ISO 26000 มาใช้ในการปรับปรุงเนื้อหาละครให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของโลกในปัจจุบัน จะทำให้ธุรกิจของท่านเป็นธุรกิจที่สร้างสรรค์สังคม และสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของการเป็นองค์กรของสังคมอย่างแท้จริงค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
ความเห็น (2)
ปวีร์ภัทร
จนได้! ในที่สุดผมเองก็ได้ดูละครเรื่องนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยชอบละคร ช่อง 3 5 7 9 เลย ให้ตายเหอะ! ไหนๆก็ดูมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ก็เลยต้องดูต่อไป รู้มั้ยทำไม? อิทธิพลของละครน้ำเน่ามันก็ทำให้ผมต้องยอมสยบ อย่างน้อยก็อยากรู้ว่า แอนกับเคน จะทำอะไรกันเมื่ออยู่ด้วยกัน ผมว่าหลายคนก็ลุ้น!และบังเอิญผมก็ชอบแอนอยู่แล้ว (เธอวางตัวดี ไม่ค่อยมีเรื่องฉาวเท่าไหร่ ทั้งๆที่อยู่ในวงการมานานพอสมควร) เลยดูก็ดู(วะ)
นอกเรื่องมานาน เพิ่งมาเห็น CSR กับ ละครไทย ก็จะบอกเลยว่า ถ้าทำ CSR ก็เจ๊ง ตามธรรมชาติของสังคมที่กำลังพัฒนา (ลง) เท่าที่เห็นละครที่จริงจังกับ CSR ก็จะมีแค่ละครเฉพาะกิจตามเหตุการณ์สำคัญในแต่ละยุคสมัย นอกนั้นอย่าหวังว่าผู้จัดละครจะมอง ถึงจะทำก็แค่ขอไปที ตามกระแสบ้าง เป็นงั้นไป
ยังอีกนานครับ ที่ธุรกิจบันเทิงในบ้านเราจะมอง (แค่มอง) ถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ตราบใดที่ การศึกษาและวินัย ของชาติยังเป็นวุ้นอยู่ เพราะสิ่งที่ว่านี้จะส่งผลต่อทุกสิ่งทุกอย่างในการทำธุรกิจ และก็จะสะท้อนถึงความเป็นคนที่รับหรือไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองนี้ได้
ละครที่ช่อง 3 เคยจัด ดูแล้วผู้ชมได้ความความบันเทิงสนุกสนานไม่เสียแรงที่นั่งดู และผู้จัดก็ rating กระฉุด ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่น "รักนี้หัวใจเราจอง" หรือละครแนวซิทคอม (situation comedy) ทั้งสองเรื่องนี้มาจัดอยู่ใน idea หนึ่งของการทำ CSR ได้สบาย ....ไม่ขัดกับ stakeholder กลุ่มไหน!!!
อ่านนิยายต้นฉบับเรื่อง สวรรค์เบี่ยง ของ กฤษณา อโศกสิน แล้ว (พ.ศ. 2508) พบว่าสิ่งที่ผู้เขียนบทละครตัดออกไป แล้วเข้าได้ดีกับเรื่องของ stakeholder คือ "คาวีในนิยายสูบไปป์ สูบบุหรี่" แต่ในละคร "ไม่มี" คงเห็นว่าไม่จำเป็น และต้องมาเจอกับการเซ็นเซอร์ วุ่นวายอีก
ฉากมัดนางเอกในรถ ในห้องบนเตียง ตรงสระน้ำ เจ้าของเรื่องไม่มีเขียนไว้ และเพิ่งรู้ว่านางเอกสวรรค์เบี่ยงต้นฉบับ ทำงานบริษัทขายจักร เป็นครูสอนปักจักร ฝืมือดี...อิ อิ