กระท่อมน้อยคอยเพื่อน
เป็นครูดอยก็แสนลำบากต้องบุกฝ่าเข้าสู่ดงไพร เขียนเรื่องนี้ก็อดคิดถึงหนังเรื่องครูบ้านนอกไม่ได้ นั่นคือภาพสะท้อนการทำงานของครูในอดีตได้เป็นอย่างดี ครูในชุมชนพุทธเกษตรก็เช่นเดียวกัน มีเพลงหนึ่งที่ได้สะท้อนความผูกพันระหว่างครูกับครูด้วยกัน คือเพลง กระท่อมน้อยคอยเพื่อน ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
คำร้อง หิ่งห้อย กระพริบแสง
ทำนอง อ้อน เด็กพุทธเกษตร
กระท่อมน้อย ยอดดอยสูงสุดเวหา ทั่วพงพนานกกาพลันวันเสียงนกกระจิบร้องแผ่ว แถวยอดดอยนั้น เมื่อไรเพื่อนฉันจะกลับมาหา ผลไม้ที่ท้ายกระท่อมเราสอง เราปลูกต้นหอมฟักทองแตงกวา สตอเบอรี่หวานฉ่ำเพื่อนยังเคยพร่ำหา อยู่หรือเพื่อนของข้าที่ว่าจะคอย
ไหนว่าจะคอยให้มันโตใหญ่ ก่อนจากกันไป เพื่อนเคยสั่งเราไว้ใช่ไหมให้คอย จะย้อนกลับมากินแน่หาพ่อหาแม่ครูดอย เยี่ยมเพื่อนน้อย ๆรุ่นหลัง
กระท่อมน้อย ยอดดอยคอยเพื่อนกลับมา แว่วสวดมนต์ตรา นกการ้องดัง เรไรร้องหริ่งระงม แถวต้นลมนั้น เสียงที่แจ้วดังคล้ายเสียงเพื่อนเรา
ในสมัยก่อนจนถึงปัจจุบันนี้เช่นกันพุทธเกษตรก็ยังพึ่งตนเองด้านการปลูกผักผลไม้เช่นเดิม ครูประพันธ์ได้แต่งเพลงนี้ให้เพื่อนที่ลาออกไปบวช เพื่อที่จะฝึกตนเองให้เป็นคนเข้มแข็งทางจิตใจระดับหนึ่งจึงแต่งเพลงนี้ออกมาให้เด็ก ๆได้ร้องกันก็เป็นเพลงดังติดทอปเทนของพุทธเกษตรเรื่อยมา จนเพื่อนครูคนนั้นได้กลับมาเป็นครูอีกครั้งหนึ่ง และได้แต่งงานกับครูสมปอง มีบุตรด้วยกัน 2 คนแล้ว และครูทั้งสองแม้จะออกไปประกอบอาชีพส่วนตัวอยู่แล้วก็ยังเป็นกรรมการศึกษาของโรงเรียนและช่วยชี้แนะการทำงานของครูเสมอมา เกิดการเชื่อมโยงแนวคิดแก่ครูรุ่นต่อ ๆมา จึงเป็นที่มาของเพลงกระท่อมน้อยคอยเพื่อน
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
สวัสดีครับ อาจารย์วัลลภ
น่าจะมีเพลงให้ฟังด้วยนะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้พี่วัลลภเช่นกันนะคะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่แวะมาฟังเพลงเด็กดอยครับ เสียดายไม่มีเพลงเป็นเสียงมาลงให้ ต้องขออภัยด้วยครับ
เป็นกำลังใจให้ครูดอยครับ
แหม ... อาจารย์ วัลลภ สุวรรณอาภา .. เขียนบันทึกได้ดีอีกแล้วครับ มีแฟน ๆ มาติดกันเต็มทีเดียว :)
ขอบคุณคนทำงานมาก
ขอบคุณอาจารย์กิตตินันท์มากที่มาให้กำลังใจ
ว่างๆขอไปช่วยสอนเด็กๆบ้างได้ไหมคะ