UN ชี้ โรคเอดส์ในเอเซียวิกฤต

ยูเอ็นชี้โรคเอดส์ในเอเชียวิกฤต
2 เมษายน 2551

รายงานยูเอ็นระบุ โรคเอดส์ยังเป็นปัญหาใหญ่ในเอเชีย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแต่ละปี เกือบ 5 แสนราย สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ โดยรายงานโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอดส์) เปิดเผยว่า จะมีผู้คนเกือบ 500,000 รายในทวีปเอเชีย เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ในแต่ละปีก่อนหน้าปี 2563 เพิ่มจากปัจจุบันนี้ ที่มี 440,000 รายในแต่ละปี ผู้ติดเชื้อเอดส์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็น 10 ล้านรายภายในปี 2563 แม้ว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ลดลงในหลายประเทศ โรคเอดส์ยังคงเป็นสาเหตุสำคัญ ในการเสียชีวิตของผู้ที่อายุระหว่าง 15-44 ปี มากกว่าโรคชนิดอื่นๆ

รายงานยังระบุว่า แต่ละปีมีการใช้งบประมาณอย่างน้อยที่สุด 0.30 เปอร์เซ็นต์ ของผลผลิตประชาชาติต่อหัวประชากร (จีดีพี เพอร์ แคปิตา) เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพ

พฤติกรรมเสี่ยง 3 อย่าง ที่เป็นตัวเร่งหลักในการแพร่เชื้อเอชไอวีในเอเชีย คือ การขายบริการทางเพศโดยไม่มีการป้องกัน การใช้ยาเสพติดโดยวิธีฉีด และการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกัน

รายงานของยูเอ็นเอดส์ เมื่อปลายปี 2550 ระบุว่า ทั้งเอเชีย มีผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีประมาณ 4.9 ล้านราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 400,000 ราย และผู้เสียชีวิต 300,000 ราย โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคที่มีผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุด อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงที่สุด และผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก มีมากกว่า 33 ล้านคนในปัจจุบัน

แหล่งที่มา : “ยูเอ็นชี้โรคเอดส์ในเอเชียวิกฤต.” มติชน 28 มีนาคม 2551 : 13.

 

พออ่านแล้วก็เป็นห่วงครับ เพราะพฤติกรรมทางเพศของเยาวชนบ้านเราเดี๋ยวนี้มาความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือครับ

ด้วยความเคารพรัก