เคยเห็นชาวบ้าน "รังเคย" กันบ้างไหม??? เสม็ดงาม เกาะเล็ก ๆ มีชายฝั่งเป็นป่าชายเลน นอกจากมีโขดที่เต็มไปด้วยต้นโกงกาง ต้นลำเจียก ต้นจาก ปลาตีน ปลาโคน ปลาใบขนุน หอยจุ๊บแจง กุ้ง เพรียง ปลาไหล.. เอ้อ..คงบอกในที่นี้ ทีเดียวไม่หมดค่ะ!! ถ้าอยากจะรู้อะไร ค่อย ๆ ถามมา จะค่อย ๆ ตอบไปค่ะ ...ขอตอบแบบชาวบ้าน ไม่ตอบแบบนักวาริชศาสตร์นะคะ ไม่สามารถค่ะ....
ช่วงฤดูกาลนี้ "เคย" จะถูกพัดพามาตามกระแสคลื่นลม ถึงคลองบ้านเสม็ดงาม ผู้ชายในหมู่บ้านจะออกไป "รังเคย" เคย มองดูเหมือน กุ้งตัวจิ๋วริ๋ว ใส เวลาอยู่ในคลองจะรวมกันเป็นฝูงใหญ่ เคลื่อนขบวนกันในน้ำตื้น ๆ อุปกรณ์ที่ใช้จับคล้ายอวน สมัยก่อนทำจากผ้าด้ายดิบ การรังเคยต่างคนต่างทำ ไม่ต้องทำเป็นทีม เอาเรือพายไปตามริมฝั่งคลอง พอเห็นฝูงเคยก็ลงมือ...ด้วยความชำนาญ...
เมื่อได้ "เคย" นำมาใส่กระบุง พวกผู้หญิง ก็มาช่วย ๆ กัน เลือกเศษไม้ กิ่งไม้ สัตว์น้ำอื่นที่บังเอิญติดมาออก ใครทำของตัวเองเสร็จก็ช่วยคนอื่น คนที่ยังไม่มีอะไรทำ ก็มาช่วยกันหลายแรง สนุกสนาน มือทำไป ปากคุยกันไป บางคนเจอ "ลูกจาก" แก่พอกินได้ ก็ตัดมา เฉาะใส่ชามใส่น้ำตาลหน่อยเอามากินกัน อร่อยเหาะ...มะม่วงอกร่องก็หน้านี้พอดี...ของกินเยอะแยะ
เมื่อแยกเคย กับสิ่งที่ไม่ใช่เคย ออกจากกันแล้ว ก็เอาเกลือเม็ด (เกลือทะเล) มาใส่ สัดส่วน เคย 7 ชาม ต่อ เกลือ 1 ชาม ...
"แล้วชามใหญ่ขนาดไหนอ่ะ" ถามคนแก่
"แค่ไหนก็ได้ ตามส่วนมันแหนะ 7 ต่อ 1" คนแก่ตอบ
"หมักไว้คืนนึง" คนแก่เสริม
"อีกวันนึง เอาไปปั้นเป็นลูกใหญ่ ๆ ตากแดด...พอได้แดดนึงเอามาตำ...ปั้นเป็นลูก เล็กลง เล็กลง เรื่อย ๆ " เราพูดเชิงถาม เท่าที่จำได้ ปั้นเป็นลูกใหญ่เท่าลูกตาล
"ม่ายช๊าย...เค้าต้องปั้นเป็นลูกเล็ก ก่อนพอเอาตำทีนึง ก็ปั้นให้เป็นลูกใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น...ขืนปั้นเป็นลูกใหญ่ ๆ ก่อน ก้อคลุ้งเกลี้ยง" คนแก่ตอบ พร้อมเหตุผลประกอบ
เออออ..จริงเน๊าะ ทำใมความทรงจำเราสวนทางกับความเป็นจริงหว่า??? นึกว่าจำได้ดีแล้วเชียว เพราะตอนเด็ก ๆ ปิดเทอม (ช่วงนี้พอดี....ถูกปล่อยเกาะที่นี่) เห็นตา ยาย แม่ น้า ช่วยกันตำแล้วปั้นเป็นลูกกลมตากแดด บนไม้กระดาน ตรงนาข้าวข้างบ้าน ..แอบเอานิ้วไปจิ้ม ชิมดู ในแต่ละวันว่ารสชาติมันเป็นยังไง ลูกไหนที่เอานิ้วจิ้มหรือจิกเนื้อมันออกมาชิม ก็ต้องพลิกก้อนเคยก้อนนั้นหลบรอยนิ้วให้อยู่ด้านล่างเพื่อกลบเกลื่อน...แฮ่ะ ๆ ก็คนมันอยากรู้
กว่าจะได้เป็นกะปินะ ต้องนำลูกเคยที่ตากแดดแล้ว 1 แดด ใส่ครกที่ใช้ตำข้าวช่วยกันตำให้แหลกระดับนึง ปั้นให้เป็นก้อนใหญ่ขึ้น ตากแดด การตำวันแรกไม่เหนื่อยเท่าใด แต่ยิ่งตำวันต่อ ๆ ไปยิ่งเหนื่อยมากขึ้น เหงื่อตก เพราะเนื้อเคยจะเปลี่ยนสภาพ และแห้งขึ้นเรื่อย ๆ ....
ตำ ปั้น ตากแดด....ตำ ปั้น ตากแดด อยู่เงี้ย...หลายวัน จนได้เป็นกะปิเนื้อละเอียด คุณภาพดี รสชาติเยี่ยม ...อืมมม์...
ไม่มีความเห็น