ว่าด้วยเรื่อง “ขวาน” และ “หินลับขวาน” …ต่ออีกสักหน่อยดีไหม
บันทึกที่แล้ว เล่านิทาน เรื่อง คนตัดต้นไม้ เลยคิดถึงอดีตหัวหน้างาน คุณถวัลย์ มาศจรัส ผู้เปิดโลกความคิดในการทำงาน ให้แก่คนไม่มีราก
คุณถวัลย์ เป็นนักเขียนที่ได้รางวัลมากมาย จากสถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ จนประกาศไม่ส่งผลงานประกวดอีกแล้ว (เพื่อเปิดโอกาสให้นักเขียนคนอื่น ๆ ได้รับร เป็นหัวหน้างานที่ลูกน้องอย่างคนไม่มีรากรักและเคารพสุดใจ เพราะเป็นคนที่ให้โอกาส ให้เกียรติลูกน้อง ให้แนวคิด และเป็นผู้สอนให้ รู้จักคิด รู้จักเขียน รู้จักการทำงานเป็นทีม
คนไม่มีราก เป็นผู้มีนิสัยอันหนาแน่นด้วยโทสะ โมหะ อหังการ เพราะถือว่าเราทำงานด้วยความทุ่มเทสุดจิตสุดใจ งานของข้าพเจ้า ใครอย่าแตะ ข้าฯ จัดการเอง ไม่มีใครทำดีเท่าข้าฯ ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจ อย่างนี้ไม่ใช่หรอก ข้าฯ จัดการเอง ไม่มีใครอีกแล้วในหล้าโลกนี้จะทำงานนี้ได้ดีเท่าข้าพเจ้า และด้วยความคิดเช่นนี้เอง ทำให้เหนื่อยหนัก สาหัสเหลือแสนกับการทำงาน คุณถวัลย์คงเห็น...เลยใช้วิธี “สอนด้วยการไม่สอน”
เหนื่อยไหม... เสียงถามปรานี
เหนื่อยสิคะ...ลิ้นห้อยแล้ว... บ่นให้หัวหน้าฟังจะได้เห็นใจ
เออดี ทำต่อไป... พูดยิ้ม ๆ แทนที่จะปลอบหรือบอกให้หยุดทำเสียบ้าง อะไรทำนองนี้
ปู่ไม่เห็นเหนื่อยเลย... เสียงพูดต่อเบา ๆ (ลูกน้องจะเรียกหัวหน้าถวัลย์ว่า “ปู่” ทำให้ต้องเรียกตัวเองว่า “ปู่” ไปด้วย)
อ้าว...ปู่ไม่ได้ทำ จะเหนื่อยได้ไงล่ะ ลูกน้องปากกล้าย้อนถามเข้าบ้าง
ปู่ทำด้วยการให้ทุกคนได้ทำ เลยไม่เหนื่อยน่ะสิ... เสียงบอกปนหัวเราะ หึ หึ ยกใหญ่... ขำจะแย่แล้วแต่คนฟังหัวเราะไม่ออก
แรก ๆ ที่เขียนงานแล้วส่งให้คุณถวัลย์อ่านและปรับแก้ คุณถวัลย์ ยิ้ม ๆ ที่มุมปากแล้วบอกว่า เออ...มีมุมมอง เก็บรายละเอียดดี ... เขียนต่อไปนะ... คนไม่มีรากก็...ปลื้มใจสุดประมาณหน่วยวัดได้ มีนักเขียนใหญ่ชมเรานะนี่ ในห้วงเวลาต่อมา เมื่อได้กลับไปอ่านงานเขียนของตัวเอง ก็...อ้อ... มิน่าเล่าคุณถวัลย์จึงบอกว่า มีมุมมอง(แปลก ๆ ) แถมมีรายละเอียด(ที่บางทีไม่น่าใส่) ... อ่านของตัวเองแล้วก็ยัง...เอ้อ โก๊ะเอ๋ยกระไรเลย...เขียนได้อารมณ์เชยเฉิ่มปนแปลก.แต่จริง ... ปานนั้น
แต่จะด้วยเหตุจาก ความมั่นใจเกินร้อย ที่ติดตัวมา ผนวกกับจากหัวหน้าที่แสนดีอย่างคุณถวัลย์ หรืออะไรก็ตามที คนไม่มีรากก็คงเขียนเรื่อยมา ใครว่าอย่างไรก็ไม่สนใจ ไม่นำพา ไม่มีใครอ่านก็อ่านเอง ชอบเอง ชมเอง ติเอง...
วันหนึ่ง หัวหน้าถวัลย์ บอกว่า ... เดี๋ยวนี้เขียนหนังสือลงล็อค เข้าฝักแล้วนะเรา... เป็นคำชมอีกครั้งที่ทำให้ตระหนักรู้ในทันทีว่า ครั้งแรกนั้นหาใช่ “คำชม” ไม่ แต่เป็นการให้กำลังใจด้วยจิตเมตตาอันเอกอุที่มีต่อลูกน้องที่ริอยากเขียนหนังสือ
แล้วหัวหน้าถวัลย์ก็เล่าแกมสอนต่อด้วยท่าทางสบาย ๆ ว่า คนจะเขียนหนังสือให้ได้ดี ต้องอ่านมาก เพื่ออ่านความคิดของคนอื่นและทบทวนความคิดของตัวเอง เมื่อความคิดคมชัดแล้ว ภาษาเขียนจะสื่อถึงใจคนอ่านได้ง่ายขึ้น
ในโลกของความเป็นจริงแล้ว ขวาน สำคัญมาก เราจำต้องใช้และมีขวานที่คมและเหมาะสมกับภารกิจที่ทำในชีวิตทั้งส่วนตัวและในการทำงาน คนไม่มีรากตระหนักว่า ในโลกปัจจุบันเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลับขวาน อยู่เสมอและอย่างต่อเนื่องด้วย
... และ หินลับขวาน นั้น มีความสำคัญมากมายเกินประมาณได้ ถ้าไม่มีหินลับขวาน ขวานจะคมได้อย่างไร คนทำงานหากแม้นไร้ซึ่งกัลยาณมิตร ทั้งหัวหน้างาน ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ที่ร่วมด้วยช่วยกัน ติเพื่อก่อ ชมเพื่อให้กำลังใจ จะมีแรงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไรกัน
แม้ตอนนี้ จะยังเป็นขวานที่ออกจะทื่อ ๆ อยู่บ้างก็ตามที... ก็ตั้งใจจะลับขวานต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ได้เอาไว้สับหรือฟาดฟันกับใครหรอก แต่เอาไว้ทำงาน เอาไว้หั่น สับ ตัด โทสะ โมหะ อหังการ์ กิเลส ตัณหา อุปาทานของตัวเอง...เผื่อว่าเราจะเป็นประโยชน์มากขึ้นในสังคม แล้วโลกนี้จะได้ดียิ่งขึ้นต่อไป
วันนี้จึงเล่าถึงด้วยจิตคารวะต่อ "หินลับขวาน " ท่านหัวหน้า ถวัลย์ มาศจรัส ที่เคารพ.
คิดถึงอาจารย์ปู่จังค่ะ..
ไม่เห็นท่านนานแล้ว..
ท่านเคยบอกว่าอยากเป็นนักเขียนต้องอ่านมาก ๆ ..
อ่านแล้วเขียน..เขียน..เขียน..
เขียนแล้วอ่าน..นี่แหละถนนนักเขียน..
ยังไงขวานเล่มนี้ก็ยังไม่คมซักที..
คงต้องลับไปเรื่อย ๆ ..
ขอบคุณน้องคนไม่มีราก..ค่ะ..สำหรับข้อคิดดี ๆ ของเช้าวันนี้
ขอบคุณค่ะคุณน้องใหม่ชอบอ่าน
เขียนบันทึกสิคะ จะตามไปอ่าน และเยี่ยมค่ะ
พี่อ้วนเจ้าขา อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ
ตามมาอ่านอีกแล้วครับ
สงสัยต้องเรียกค่าลิขสิทธิ์นะเนี่ย
อิ อิ เห็นต้องลงท้ายแบบนี้ เอาบ้าง
ขอบคุณค่ะคุณคนต้ดไม้ที่เข้ามาเยี่ยมคนลับขวาน
มาเยี่ยม "คนดี"
ดูแล้วเกิดคิดต่ออีกว่าเป็นไปได้ไหม ขวานไม่คม หินไม่มี คนดีไม่เกิด
ผมมาจิ๊กเอา ทั้งขวาน ทั้งหิน คงไม่ว่ากันนะครับ
เพิ่งได้อ่านงานของคุณคนไม่มีรากเป็นครั้งแรก
ขอชื่นชมค่ะ อ่านสนุกและได้ข้อคิดดี
ส่วนตัวเอง ใบไม้ย้อนแสง ยังเป็นขวานที่แสนทื่ออยู่เลยค่ะ
เอ.. เราพอจะเป็นญาติกันได้ไหมคะ ก็ชื่อคุณมีราก ชื่อดิฉันมีใบ อิ..อิ..
จะติดตามอ่านต่อไปนะคะ
สวัสดีค่ะคุณสิทธิรักษ์
สวัสดีค่ะคุณไม่อยากบอก
สวัสดีค่ะคุณครูขจิต
สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครูคนไม่มีราก
น้องจิแวะมาเยี่ยม คิดถึง กอดๆๆๆ มาดูขวาน 5555++ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ -----> น้องจิ ^_^
สวัสดี คนไม่มีราก
มาเยี่ยมกันครับ ผมพึ่งไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติมา ครับ เห็นงานเขียนถวัลย์ มาสจรัส เหมือนกัน คนไม่มีราก ชื่นชมเหลือเกิน อาทิตย์นี้ต้องไปซื้ออ่านแล้ว ครับ
สวัสดีค่ะคุณใบไม้ย้อนแสง
สวัสดีค่ะน้องจิที่น่ารัก
สวัสดีค่ะคุณครูวิชที่เคารพ
สวัสดีครับ คนไม่มีราก
ขอบคุณครับ เกรงใจครับ ผมจะไปซื้อหนังสืออ่านเพิ่มเติม และงานของอ.ถวัลย์ เกี่ยวกับนวัตกรรมการศึกษา ครับ
สวัสดีค่ะคุณครูวิช
ขอให้มีความสุขกับการซื้อหนังสือนะคะ
สวัสดีคะ คนไร้ราก
ตามมาอ่านข้อคิดดีๆ ที่ทำให้หวนมองเรื่องราวของตัวเอง
ขวานจะดีได้นั้น หินลับขวานต้องเยี่ยมยิ่งกว่า
รักษาสุขภาพนะคะ
---^.^---
...ถ้าไม่มีหินลับขวาน ขวานจะคมได้อย่างไร
ก็จริงค่ะ แต่...บางที คนที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีที่สุดของเรา คือ ตัวเราเองค่ะ คนอื่นก็ดี แต่บางที คนหัวดื้อ ต้องได้คิดเองค่ะ
สวัสดีค่ะอ.ณัฐยา
สวัสดีค่ะน้องพิมพ์ดีดคนดี
สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์ที่เคารพ
สวัสดีค่ะอ.ศิริพร
ตอนนี้ปู่ไปอยู่ไหนหรือ?
สวัสดีค่ะคุณครูแก่แก่
สวัสดีครับ คน(ไม่)มีราก
- ความจริงยังไม่ต้องลับก็ได้ เพราะขวานเล่มนี้ ไม่ได้ใช้สับอะไรเลย
- แค่เอาไว้ตัดโลภโม โทสะ กิเลส ตัณหา (ความคมไม่บิ่น ไม่สึกเลย)จ๊ะ
- ขอแสดงความคารวะนักเขียนมืออาชีพไว้ ณ ที่นี้ด้วย
- คิดถึงอาจารย์ถวัลย์ มาศจรัส เช่นกัน ไม่ได้พบกันนานแล้ว
สวัสดีค่ะอ.ชำเลือง
สวัสดีค่ะคุณVeena
สวัสดีครับ บันทึกนี้อ่านนานแล้ว จนลืมไป
เราจะเป็นหินลับขวาน ซึ่งกันและกันตลอดไป
ครูปูจ้ะ
สวัสดีค่ะคุณสงวนนาม
ผมเป็นแฟนคลับ ของคนไม่มีรากเหมือนกันครับ ดีจังที่มีหินลับมีดที่คมกริบอยู่ข้างกาย เลยได้ทีในการลับขวานได้บ่อย ๆ แต่อีกหลายคนก็หาได้มีหินลับมีดข้างกายที่เป็นกัลยาณมิตรเช่นนั้นไม่
สวัสดีค่ะคุณเอกราช
สวัสดีค่ะคุณคนตัดไม้
ตอนเป็นเด็กประถม มีช่วงหนึ่ง ที่ต้องเข้าห้องสมุดทุกพักกลางวัน เพื่อไปอ่านหนังสือ ชื่อ กระท่อมแสงตะวัน
เพิ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นงานเขียนของ อาารย์ ถวัลย์ มาศจรัส พยายามตามหาหนังสือเล่มนี้ แต่ก็หายังหาไม่ได้ แต่ก็หวังว่า วันนึงจะได้อ่านอีกครั้ง คุณคนไม่มีราก โชคดีจังคะ ที่เคยได้ร่วมงานกับอาจารย์ :)
ประชาสัมพันธ์ร่วมสร้างคนดี
- ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม เป็นวิทยากรอบรมธรรมะ โครงการอิ่มบุญ วุฒิสภา ๙๙๙ วัด เยาวชนปฏิบัติธรรม ระยะเวลา ๓ วัน ๒ คืน
๑. ค่ายวัยใส ใฝ่คุณธรรม นำพ้นภัย ยาเสพติด
๒. ค่ายพุทธบุตร
อบรมบุคลากรในหน่วยงาน
๑. การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
๒. พัฒนาจิต พิชิตงาน เบิกบานใจ สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม อีเมล [email protected] โทรศัพท์ ๐๘๙๔๘๔๑๙๗๓