แฟนจะลา น้ำตาจะร่วง


มีคำถามหนึ่งในความเรียง เมื่อวันหนึ่งความพลัดพราก และ การเปลี่ยนแปลงมาเยี่ยมเยือนชีวิต มีความหมายและความจริง ในแต่ละเรื่องราวของการสูญเสีย และ ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีห้วงความคิดใดเกิดขึ้น ในขณะที่เราแต่ละคน ต่างรับรู้ เรียนรู้ และรู้สึกที่ความสูญเสียที่ปรากฎขึ้น ทั้งภายในใจ และ ภายนอกใจ เบื้องหน้าของชีวิตเรา ในท่ามกลางความสูญเสียเหล่านั้น คำถามเหล่านั้นของชีวิตเป็นเช่นไร

แฟนจะลา น้ำตาจะร่วง

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

ใครเคยประสบ

เคยพบเจอเหตุการณ์

เมื่อถึงวันลาจากของคนรัก

ย่อมรับรู้ได้ดี ถึงความโหยหาในแต่ละห้วงรู้สึกเหล่านั้น ไม่นับว่าต้องเป็นการจากลาไป เพราะเลิกร้างด้วยรัก หรืออธิบายเพียงสั้นว่าหมดรัก แต่อาจเป็นการจากลา เพราะเหตุจำเป็นของชีวิต เมื่อชีวิตเราหรือชีวิตคนรักต้องเดินทาง ในท่ามกลางความยาวนานของระยะเวลา และระยะทาง

บรรยากาศตามท่ารถ ท่าเรือ ท่าเรือบิน

อธิบายถึงแต่ละขณะนั้นได้ดี

ถึงความอาลัยอาวรณ์

เสียงบอกกล่าวเล่าความ บอกลา ฝากคำรัก ฝากความหวัง บอกความประทับใจ ล้วนอยู่ในแต่ละความรู้สึกของน้ำตา และน้ำเสียงซึ่งพรั่งพรูออกมาของรัก อันอัดแน่นในใจ แม้ไม่อยากจากลา แต่เมื่อวันเวลาของชีวิตเดินทางมาถึง ความจริงเหล่านั้นย่อมทำหน้าที่ของตนเอง อย่ามิเคยบิดพริ้ว

ต่อให้เดินทาง

ต่อให้ส่งกันยาวไกลเพียงใด

จะเพียงใดของชีวิตยามถึงบทสุดท้าย

ทุกสิ่งอย่างล้วนต้องจบสิ้นเมื่อถึงความจริงบทนั้น ในแต่ละคืนวันของความพรากจากเหล่านั้น ที่เราต้องได้รู้ต้องได้เข้าใจ ไม่เฉพาะคนเดินทาง และคนฝากรักต่อคนเดินทาง ไม่เฉพาะความประทับใจของความจริงเหล่านั้นเท่านั้น ที่ทำให้เราเข้าใจว่า วันหนึ่งชีวิตต้องตอบความจริงให้เราเข้าใจเสมอ ไม่เคยเลยที่จะเฝ้าหลอกล่อชีวิต หรือหลอกลวงให้เข้าใจสับสน

เพราะหน้าที่ของความจริง ล้วนรอคอยเวลา

รอเมื่อถึงระยะอันเหมาะสม

จึงเริ่มทำหน้าที่

และเริ่มต้นบทพิสูจน์ความจริง ให้เราได้คอยตรวจทานทดสอบชีวิตอยู่ร่ำไป หากเมื่อวันหนึ่งความจริงของการหมดรักเริ่มขึ้น หรือเมื่อวันหนึ่งชีวิตแต่ละคน ต่างต้องแบกภาระอันจำเป็นของชีวิต ยากที่จะเดินเคียงข้างในวันคืนเบื้องหน้าได้ อาจเป็นระยะเวลาจำกัด แม้เพียงปีสองปี หรือนานนับสิบปี

ทุกอย่างย่อมเจ็บปวด 

ในแต่ละเรื่องราวแห่งความชีวิต

เพราะใจเราอยากฉุดดึงเหนี่ยวรั้งความจริงนั้น

เราไม่อยากจากพรากคนรัก ไม่อยากไปในแต่ละที่ทางของชีวิต หากมีคนรักและความรักที่เราปรารถนาก้าวย่างไปด้วย เราอยากโอบกอดความรัก ให้เหมือนโอบกอดความจริงในแต่ละลมหายใจ แต่ความจริงของเรื่องราว คือคำว่าไม่ใช่ ซึ่งเสียงดังฟังชัด ที่คอยกระหน่ำใจเรา

เพราะเมื่อถึงความจริง ของความไม่ใช่

ความจริงจะบอกเตือนเราเสมอ

ว่าการเหนี่ยวรั้งเหล่านั้น

มิใช่นิรันดร์

ความจริงของชีวิต ล้วนเคลื่อนผ่านแปรเปลี่ยน และหมุนเวียนไปท่ามกลางวันเวลา จะมากจะน้อยก็เคลื่อนไปทุกขณะ แม้จะจับยามในแต่ละลมหายใจ หรือจะวัดกันเป็นวันเป็นคืน เป็นเดือนเป็นปี ทุกสิ่งอย่างก็ล้วนต้องเคลื่อนไป สุดท้ายทั้งเราและเขา ต้องเข้าใจร่วมกันว่าจะทำเช่นไร

 

ในท่ามกลางคำพราก

ในโมงยามแห่งความจากพราก

เราจะทำเช่นไรได้ ในความจริงที่ต้องตอบ

จะเรียนรู้ในแต่ละการตอบความ จะลำดับและยอมรับความจริง เมื่อชั่วโมงสุดท้ายนั้นมาถึง หรือกระทั่งต้องรอให้ระยะเวลานั้นผ่านไป รอหัวใจของเราค้นพบหัวใจดวงใหม่ ที่ไม่ใช่หัวใจซึ่งออกเดินทางไปไกล หรือจนกระทั่งหัวใจของเราเข้มแข็งเพียงพอ จนสามารถบอกกล่าวได้ว่า แม้เพียงลำพังเบื้องหน้า ฉันก็ยังอยู่ได้

ไม่ว่าจะตอบความจริงเช่นไร เราทุกคนต้องตอบ

ตอบแบบจำใจ ตอบแบบมั่นใจ

หรือตอบแบบจำยอม

สุดท้ายก็ต้องตอบ หากยังคิดจะมีลมหายใจอยู่ หรือแม้กระทั่งเมื่อจะหมดลมหายใจตนเอง ความคิดสุดท้ายและการสรุปรวบยอดชีวิต เราก็ต้องมีคำตอบสุดท้าย ไม่ใช่การตำหนิว่าใครคิดสั้นใครคิดยาว สำหรับคำตอบที่เขาและเธอเหล่านั้นได้รับ จนกระทั่งสรุปถึงวันจบสิ้น

เมื่อไม่อาจทนอยู่

ทนเป็นในโลกที่ตนหมดรัก

คำตอบง่ายง่ายแต่ตอบยาก จึงมักปรากฎ

มีใครหลายคนตอบว่า เวลาเป็นเครื่องเยียวยาใจดวงร้าว หลังผ่านความพลัดพรากในรัก หรือกระทั่งกล่าวว่า เราอาจลืมเลือนไปได้ แม้ไม่สามารถสร้างความเข้มแข็งในชีวิต เวลาเหล่านั้นอาจทำให้เราเข้าใจได้ว่า ส่วนประกอบของชีวิตเรา มีมากกว่าความรักเพียงหนึ่ง แต่อาจเป็นความรักอนันต์ อันมิอาจแทนค่า

อาจเป็นรักทั่วไป รักลมหายใจตนเอง

รักผู้คนรอบข้างชีวิตจิตใจ

และรักทุกคน

ที่มากกว่าความรักของคนรักคู่ครอง อาจเป็นเพราะเข้าใจว่า ชะตาชีวิตอาจบ่งบอกและขีดเส้นความจริง ว่าเราอาจยังไม่ใช่และอาจยังไม่พบเจอ ในแต่ละห้วงโมงยามนี้กระมัง หรือกระทั่งตอบความจริงได้ว่า ยังมีคนที่รักฉันอีกมากมาย ซึ่งคอยมองฉัน ยามฉันยืนร้องไห้เพื่อส่งคนรักเดินจากไป

เขาเหล่านั้น

อาจเพียงยืนมองห่างห่าง

มองเงียบเงียบ ด้วยเพราะรอคอยเวลา

รอคอยชั่วขณะที่คนซึ่งเขารัก จะเข้าใจและเข้มแข็งมากขึ้น และทำได้เพียงอยู่เคียงข้างมิตรไมตรีเหล่านั้น ด้วยความรักที่มอบให้ แม้ไม่อาจทดแทนกันได้ แต่ก็ยังทำให้เขาเข้าใจและรับรู้ได้ว่า ความจริงของชีวิตเบื้องหน้ายังคงมีวันเวลาอีกมากมาย ในแต่ละความเอนกอนันต์ของชีวิต

ใครบอกคนกล่าวว่า ช่วงเวลาของชีวิตวันนั้น

เหมือนผ่านไปโดยไร้ความทรงจำ

จดจำไม่ได้ว่าตนทำสิ่งใด

จดจำไม่ได้ว่า ตัวเองก้าวผ่านในแต่ละลมหายใจ แต่ละชั่วโมงวันคืนได้อย่างไร บางอย่างเป็นไปเพราะยากล่อมประสาท บางคนอาจเป็นไป เพราะชีวิตสั่งการให้ลืมเลือนห้วงยามอันทรมานเหล่านั้น ชีวิตอาจเป็นวงจรอันประหลาด เมื่อพิจารณาถึงความเจ็บช้ำในโมงยามนั้น

และไม่ใช่บทสรุป

เมื่อทุกคนต่างมีรักอันแตกต่าง

การจากพรากด้วยน้ำตา หรือไม่มีน้ำตา

ล้วนไม่ใช่คำตอบสูงสุด เท่ารู้สึก ที่เราได้ก้าวผ่านโมงยามนั้น

 

 

หมายเลขบันทึก: 174603เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2008 16:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

บางครั้งคนเราก็ต้องจากกัน....แต่จากกัน...เพื่อพบกันใหม่...

โดน ค่ะ โดน

โดนจั๋งหนับ

เพิ่งประจักษ์

การจากลา

.. แต่เวลา

ช่วยเยียวยา

และรักษา

จิตใจ

สวัสดีครับ คุณ Wardah

เป็นคำตอบของความหวัง

และเป็นคำตอบอันงดงามของชีวิตอย่างยิ่งครับ สำหรับการเริ่มต้น วนเวียน กลับคืน และกลับมาเพื่อพบกันใหม่ นับเป็นหนึ่งคำตอบที่ดียิ่งของชีวิตครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ คุณ Poo

สักวันหนึ่งครับ

สักวันหนึ่งเราจะก้าวผ่านพ้น เรื่องราวเหล่านี้ ด้วยความเข้มแข็ง และหัวใจอันงดงาม เมื่อเราได้เข้าใจความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ ในแต่ละการพลัดพรากจากลา ได้เข้าใจในแต่ละรอยน้ำตา และแต่ละความทรงจำอันเจ็บปวด เมื่อผ่านมาแล้ว ย่อมเป็นคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของชีวิตครับ ไม่มีใครเข้าใจ และตระหนักได้ดีเท่าหัวใจของเราครับ

ขอบคุณมากครับ

  • เข้ามาอ่านเพราะคิดว่าเป็นบทเพลง...แห่งความรัก
  • ได้ข้อคิด...หลายประการ...
  • บางทีการจากลา ก็จำเป็น...และดีที่สุดสำหรับบางเหตุการณ์
  • แต่...คงไม่ผิดกระมังที่จะระลึกถึงสิ่งที่ผ่านไปร่วมกัน...
  • ขอบคุณสำหรับแง่คิดงดงามและประโลมใจ.

 

อรุณสวัสดิ์ ฮีโร่

ไม่มีใครเข้าใจ และตระหนักได้ดีเท่าหัวใจของเราครับ

ขอบคุณค่ะ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท