มีข่าวมาบอก


หัวใจอยู่ที่เด็ก

สวัสดีครับคุณครูทุกท่าน ผมไปอ่านเจอเรื่องราวเกี่ยวกับ เกณฑ์วิทยฐานะใหม่ จึงเก็บความสรุ

มาเขียนเล่าสู่กัน ครับ

          เกณฑ์วิทยฐานะใหม่ หัวใจอยู่ที่เด็ก ครับ เพราะเป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศ และเกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษาของประเทศ เพราะการจัดระบบครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาตามหมวด ๗ ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๑ แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๕ มีสาระสำคัญประการหนึ่ง คือ การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ และมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพชั้นสูง และให้มีรายได้เพียงพอและเหมาะสมกับฐานะทางสังคมและวิชาชีพ และเพื่อให้เกิดผลตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติดังกล่าว การจัดระบบวิทยฐานะและการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ และดำรงตำแหน่งของครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบมีความต่อเนื่องและเป็นธรรมโดยยึดหลักคุณภาพ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ของการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน ได้มุมานะที่จะเพิ่มพูนประสบการณ์และสรมรรถนะในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ รวมทั้งส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาโดยรวม

สาระสำคัญของหลักเกณฑ์และวิธีประเมินวิทยฐานของครูในเรื่องต่างๆได้แก่ คุณสมบัติของผู้รับการประเมิน ภาระงานขั้นต่ำ การผ่านเกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตัดสินและวิธีการประเมิน มีดังนี้ครับ

1.      คุณสมบัติของผู้รับการประเมิน ซึ่งจะผันแปรตามวุฒิการศึกษา และไม่ได้กำหนดเงินเดือนขั้นต่ำไว้ สนับสนุนคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาสู่วิชาชีพครู สามารถก้าวกระโดดได้

2.      ภาระงานขั้นต่ำ  คือต้องมีภาระงานสอนไม่ต่ำกว่า 18 ชั่งโมงต่อสัปดาห์ หากรามเวลาการเตรียมการสอนและพบเด็กก็ต้องทำงาน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเคยวิเคราะห์ภาระงานของครูเสนอคณะรัฐมนตรีไปแล้ว

3.      การผ่านเกณฑ์การประเมิน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินใน 3 ด้านทุกสายงาน ทั้งสายงานการสอน สายงานบริหารการศึกษา และบริหารการศึกษา และสายงานนิเทศการศึกษา ดังนี้

3.1  ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพ ใช้การประเมินผ่าน/ไม่ผ่าน ในระดับชำนาญการพิเศษ ส่วนระดับเชี่ยวชาญต้องเป็นแบบอย่างที่ดีได้

3.2  ด้านคุณภาพการปฏิบัติงาน  จะพิจารณาจากสมรรถนะตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่งและวิทยฐานะแต่ละสายงาน และจากประจักษ์พยานการสอนตามเกณฑ์ที่กำหนด

3.3  ด้านผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายผู้สอนจะพิจาราณาจากผลการสอนและผลการพัฒนาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ระดับชาติและพัฒนาการ ส่วนสายงานบริหารและศึกษานิเทศก์ นอกจากผลการปฏิบัติงานแล้ว ก็จะใช้ผลการทดสอบระดับชาติมาประกอบการพิจารณาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลต่อคุณภาพการศึกษาและต่อวงวิชาการและวืชาชีพ

4.      เกณฑ์การตัดสิน เกณฑ์การผ่านแต่ละวิทยฐานะต้อวเป็นเอกฉันท์โดยวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ75และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 และวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80

5.      วิธีการประเมิน สามารถยื่นคำขอได้ปีละ 1 ครั้ง ( เมษายนหรือตุลาคม ) แบ่งเป็น การประเมินแบบปกติ มีกรรมการประเมิน 3 คน และการประเมินแบบพิเศษ ใช้กรรมการจากภายนอก 5คนโดยเปิดโอกาสให้ผู้บังคับบัญชาสามารถขอรับการประเมินให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ ที่สำคัญคือ การปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าวิทยฐานะเป็นผลจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของครูผู้บริหารและศึกษานิเทศก์ เพื่อเด็กและคุณภาพการศึกษา มิใช่การทำผลงานวิชาการเพื่อขอวิทยฐานะที่น่าสนใจยิ่งก็คือ ครูผู้บริหารและศึกษานิเทศก์มากว่าร้อยละ 90  สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การมีและเลื่อนวิทยฐานะในครั้งนี้ซึ่งจะได้ใช้หลักเกณฑ์ใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 เป็นต้นไป 

      เห็นไหมครับว่า เกณฑ์วิทยฐานะใหม่ ที่เก็บมาเขียนเล่าสู่กัน น่าจะเป็นประโยชน์ที่เอื้อต่อคุณครู และเด็กๆ ก็จะได้มีคุณครูที่อุทิศ เสียสละให้กับเยวาชนของชาติ ครับ ยังไงภาพรวมของการศึกษาชาติจะได้ไม่หลงทิศหลงทางครับ

คำสำคัญ (Tags): #การศึกษาไทย
หมายเลขบันทึก: 173885เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2008 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีครับอาจารย์

- อ่านข้อความแล้วทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับเกณฑ์วิทยาฐานะ

- ขอให้อาจารย์สู้ ๆ นะครับ

สวัสดี มีมิตรภาพ

        ขอบใจที่เขียนถึง เพรายุคสมัยนี้เราต้องเกาะติด
กระแสวงการข่าวการศึกษาอย่างต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ครับ

สวัสดีค่ะ

แขนเป็นยังไงบ้างค่ะ

จากที่อ่านแล้วก็ดีนะค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง

สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครู

หัวใจอยู่ที่เด็กๆ คิคิ เพราะฉะนั้น คุณครูต้องเอาใจเด็กๆให้มากๆ เอาอมยิ้มมาซะดีๆเจ้าค่ะ 555++

เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ สู้ๆ----> น้องจิ ^_^

สวัสดีครับอาจารย์

ขอบคุณครับที่นำเรื่องมีประโยชน์มาเขียนเล่าสู่กันฟัง

ขอไห้หาข่าวดีๆตัวอย่างดีๆมาเล่าสู่กันฟังอีกนะค่ะอยากได้รายละเอียดกฎเกณฑ์การประเมินที่คิดว่าครูเราทำได้และมีผลกับเด็กมาที่สุด

สวัสดีครับ คุณโจชัว
           ขอบคุณครับ ที่ส่งข่าวถึงกันครับ วิทยฐานะนั้น ผมถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ครับ คงไม่ใช้หลักไมล์ของชีวิต ครับ แต่สิ่งสำคัญ คือการได้ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเด็กๆ ครับ 

           ของคุณมากๆ ครับที่ห่วงใยสุขภาพ ครับ ตอนนี้ก็ยังต้องรักษาสุขภาพข้อมือซ้ายอยู่ครับ ทีพิมพ์อยู่ใช้แขนขวาพิมพ์ครับ ก็เริ่มคล่องครับ
           ขอบคุณน้ำใจมากครับ กับคุณเฉิน ที่ไปเยี่ยมถึงโรงพยาบาล ผมสุขภาพแข็งแรง จะไปเยี่ยมชวนทานข้าวที่แม่ฮ่องสอน ครับ

สวัสดี ครูขจร

          ขอบคุณครับ ครูขจร วิทยฐานะสำคัญเหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่  ทั้งหมดของชีวิต ครับ การได้อยู่ร่วมกับชีวิตเด็กๆ ถือว่าเป็นพรอันประเสริฐที่ได้ชีวิตร่วมกับเข้าครับ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ครับ

สวัสดี ครับ ครู

          ขอบคุณครับที่ส่งข่าวถึงกันครับ ข่าวดี ย่อมต้องมี
คุณค่า ถ้าเราเพียงแต่ให้เวลากับชีวิตอันแสนงาม ครับ

สวัสดี ครับ ครู

          ขอบคุณครับที่ส่งข่าวถึงกันครับ ข่าวดี ย่อมต้องมี
คุณค่า ถ้าเราเพียงแต่ให้เวลากับชีวิตอันแสนงาม ครับ

สวัสดีน้องจิ
               ขอบใจมากครับที่เขียนมาคุย คงต้องทำตามที่น้องจิแนะนำแล้วครับ เปิดเทอม 16 พ.ค.2551 นี้ ต้องส่งรอยยิ้มให้กับลูกศิษย์ใหม่ๆ ลูกศิษย์เก่าๆ มากๆ ครับ
              ส่วนวิทยฐานะนั้น ผมถือว่าไม่ใช่เหตุปัจจัยที่ทำให้ชีวิตสมบูรณ์หลอกครับ ผมไม่คิดว่าวิทยฐานะเป็นหลักไมล์ของชีวิต การได้ใช้ชีวิตกับเยวชน แม้เพียงช่วงที่เขาอยู่กับเราระยะหนึ่งก็ตาม แต่อยู่ที่เติมชีวิตให้เห็น คุณค่า ความหมายของชีวิตมากกว่า ครับ อะไรจะมากไปกว่านี้ ครับ
             
น้องจิ เปีนไปเที่ยวงานสัปดาห์หนังสือ หรือยังครับ ครูกะว่าจะไปเที่ยว และซื้อหนังสือ เหมือนเช่นที่ไปทุกปี ครับ น้องจิ อ่าน เจ้าชายน้อย หรือยังครับ สมัยผมเรียนมหาวิทยาลัยท่าพระจันทร์ อาจารย์ภาควิชาปรัชญาแนะนำให้ผมอ่าน ครับ ขอให้มีความสุข นอนหลับฝันดี นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท