โรคภัยที่มากับหน้าร้อน


โรคหน้าร้อน

         การประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 มีนาคม 2551 ครม.ได้มีมติกำหนดให้วันที่ 12- 16 เมษายน 2551 เป็นวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ จากเดิมที่หยุดเพียงวันที่ 12 - 15 เมษายน โดยเหตุผลที่เพิ่มวันหยุดดังกล่าว เนื่องจากวันที่ 12 - 13 เมษายน เป็นวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ จึงเห็นสมควรให้เพิ่มวันหยุดชดเชย ส่วนธนาคารพาณิชย์ ให้ขึ้นอยู่กับธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้กำหนด

นับเป็นข่าวดี ที่ได้มีโอกาสหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ก็ต้องเตรียมรับกับสถานการณ์อุบัติเหตุอุบัติภัยที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากกว่าสงครามอีรักเสียอีก

นอกจากนี้ในช่วงหน้าร้อนนี้ยังมีโรคภัยที่มากับหน้าร้อน ทางรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือสั่งการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2551 โดยศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ แก้ไขปัญหาภัยแล้ง ได้กำหนดแนวทางและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2551

โดยมีมาตรการเร่งด่วน 5 ข้อ คือ

1.การจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค ซ่อม/เป่าล้างบ่อบาดาล จัดหาถังน้ำกลาง ขุดลอกแหล่งน้ำให้พอใช้ในช่วงฤดูแล้ง

2.น้ำเพื่อการเกษตรให้จัดสรรน้ำให้ทั่วถึงป้องกันความขัดแย้ง และขอความร่วมมือเกษตรกรปลูกพืชตามแผน ใช้น้ำน้อย

3.การสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพระยะสั้น

4.ดูแลรักษาสุขภาพและสุขอนามัย ป้องกันโรคช่วงหน้าร้อน

5.ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ป้องกันการลักขโมยเครื่องมือเกษตร เครื่องสูบน้ำ หรือโค กระบือ เพื่อมิให้ประชาชนผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนซ้ำเติมอีก

และในช่วงหน้าร้อนมักเกิดพายุฝน ฟ้าคะนอง ลมแรง และอาจเกิดลูกเห็บตกลงมา จึงต้องเตือนให้มีการตัดแต่งกิ่งไม้ หาไม้ค้ำยันได้ต้นไม้ ไม่ให้ล้มทับบ้านเรือน

หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง ล่าสุดถึง 13 มีนาคม 2551 มีรายงานพื้นที่ประสบภัยแล้ง 44 จังหวัด โดยกรมทรัพยากรน้ำคาดว่า ในปีนี้จะมีพื้นที่ประสบภัยแล้งถึง 71 จังหวัด ปัญหาสุขภาพโรคภัยไข้เจ็บที่จะมาพร้อมกับภัยแล้งคือ การระบาดของโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ โดยเฉพาะอหิวาตกโรค ที่ส่งผลกระทบกับชื่อเสียงของประเทศ

กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังโรคที่เกิดในฤดูร้อน 6 โรค ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ บิด ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค และพิษสุนัขบ้า ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้วิธีการป้องกันโรค และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วออกควบคุมโรคทันทีที่มีผู้ป่วย ดูแลความสะอาดอาหาร น้ำดื่ม น้ำประปา ตลาดสด รวมทั้งส้วม อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีประชาชนเดินทางจำนวนมาก

ต้องระวังเรื่องอาหารและน้ำดื่มอย่างเข้มงวด  ให้ยึดหลักปลอดภัยได้แก่ กินร้อน คือกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หากยังไม่กินต้องเก็บในตู้เย็นและอุ่นให้ร้อนก่อนกิน ใช้ช้อนกลางในการกินอาหารร่วมกัน ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหารและหลังใช้ห้องน้ำห้องส้วม และดื่มน้ำที่สะอาด ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังโรคติดต่อจากอาหารและน้ำตั้งแต่มกราคม-15 มีนาคม 2551 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยรวม 271,676 ราย เสียชีวิต 37 ราย มากที่สุดคือ อุจจาระร่วง ป่วย 246,476 ราย เสียชีวิต 35 ราย รองลงมาคือ อาหารเป็นพิษ 21,341ราย ส่วนอหิวาตกโรค พบผู้ป่วย 41 ราย เสียชีวิต 2 ราย

หากมีอาการท้องเดิน ท้องเสีย ให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (โอ.อาร์.เอส.) โดยใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่ 1 ซองผสมน้ำต้มสุกเย็น 1 แก้ว หากไม่มีให้ใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กับเกลือป่นครึ่งช้อนชา ละลายกับน้ำต้มสุกเย็น 1 ขวดน้ำปลากลมแทนก็ได้ ที่สำคัญต้องดื่มให้หมดภายใน 1 วัน  

เพื่อเป็นการป้องกันโรคที่จะติดต่อทางน้ำดื่มน้ำใช้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปา ให้เติมคลอรีนคงเหลือในน้ำอยู่ระหว่าง 0.2-0.5 พี.พี.เอ็ม ซึ่งเป็นระดับคลอรีนที่สามารถฆ่าโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับร้านอาหาร เน้นให้ล้างทำความสะอาดเขียงที่ใช้เตรียมอาหาร เนื่องจากพบว่าเขียงที่แม่ค้าใช้กว่าร้อยละ 50 มีเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเกิดจากการไม่ล้างทำความสะอาดเขียง ทำให้เชื้อโรคสะสมอยู่ตามร่องเขียงได้

คงไม่ยากเกินไปนะครับ ดูแลรักษาสุขภาพให้ปลอดภัยในช่วงหน้าร้อนนี้


...........................................................................................................................

คำสำคัญ (Tags): #โรคหน้าร้อน
หมายเลขบันทึก: 173187เขียนเมื่อ 26 มีนาคม 2008 14:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม 2012 11:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ต้องช่วยๆกันหลายๆฝ่ายนะครับ

โดยเฉพาะ ตัวเราเองต้องระมัดระวังให้มาก เรื่องของการกิน

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ

ขออนุญาตนำไปรวมครับ  ขอบคุณมากครับ

                                                                 รวมตะกอน

เป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำดีๆแบบนี้ น่ะค่ะ

เป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำดีๆแบบนี้ น่ะค่ะ

(ขอบคุณอีกครั้ง..แบบว่าพึ่งเข้ามาน่ะค่ะ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท