ปวดหัว..เหตุฉุกเฉินที่คาดไม่ถึง....ไม่ควรประมาท...


สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ..ลดเค็ม ลดความดัน ป้องกัน อัมพฤกษ์ อัมพาต..

            รู้ไหม?..ว่า ..โรคที่คร่าชีวิตผู้คนสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกและในคนไทยพบถึง 150,000 รายต่อปีคือ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เนื่องจากโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เราคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ค่อยให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เลย

          จริงๆแล้วบุคคลในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ก็มีโอกาสเกิดเรื่องเหล่านี้ได้เหมือนกัน บางคนอายุไม่มากแต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ถ้ามีโรคประจำตัวเช่น ความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือคนที่เครียด สูบบุหรี่จัด เป็นต้น

 

          ปวดหัว..เหตุฉุกเฉินที่คาดไม่ถึง....ไม่ควรประมาท...เมื่อมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงและมีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก ตอนกลางวันก็ปกติดี พอกลางคืนเกิดอาการปวดหัวโดยเริ่มตั้งแต่ท้ายทอยขึ้นไป สักพักปวดปัสสาวะ แต่ยังไม่ทันลุกขึ้นก็เกิดอาการฉี่ราด คุมไม่ได้ มีความรู้สึกว่าเหมือนปวดเป็นเส้นที่วิ่งขึ้นมาแล้วเหมือนเส้นอะไรขาดผึงในหัว เท่านั้นแหละ ก็เกิดอาการชาครึ่งซีก พูดไม่ค่อยชัด จึงเรียกลูกและกดโทรศัพท์หาคนรู้จักที่อยู่ร.พ.รามา เพื่อเล่าอาการให้ฟังและขณะติดต่อรถมารับไปโรงพยาบาล แป๊บเดียว...เสียงพูดอ้อแอ้ เริ่มไม่เป็นคำ สิ้นคับปาก สายตาเบลอมองเลขไม่ชัด เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์รีบให้ยาลดความดันและยาละลายลิ่มเลือด เนื่องจากทำCT SCAN แล้วพบก้อนเลือดอุดตันที่สมอง ทำให้เกิดอาการเป็นอัมพฤกษ์ ชาครึ่งซีก ไม่สามารถบังคับแขนขาได้โชคดีที่มาโรงพยาบาลเร็ว เมื่อได้รับการรักษาอาการจึงดีขึ้นตามลำดับ

          เธอเล่าให้ฟังว่า การมีสติในขณะที่เกิดอาการสำคัญมาก เธอจดเบอร์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลและคนที่จะติดต่อได้ยามฉุกเฉินให้คนในบ้านได้รับรู้ ไม่ตื่นตกใจจนเกินไป อาจทำให้ทั้งคนไข้และคนรอบข้างขวัญเสียทำอะไรไม่ถูก ฉะนั้นเธอบอกว่าการมีสติจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในขณะนั้น   เลยอยากนำอาการและสิ่งที่ควรรู้มาเล่าสู่กันฟัง

 

          อัมพาตและโรคหลอดเลือดสมอง

          โรคหลอดเลือดสมองหรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ของทั้งโลก รองจากโรคหัวใจขาดเลือดและโรคมะเร็งและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ในช่วง 50 ปี โดยโรคหลอดเลือดแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ

1.      โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน ทำให้เกิดภาวะสมองขาดเลือด

2.      โรคหลอดเลือดสมองแตก ทำให้มีลิ่มเลือดคั่งในเนื้อสมอง 

ลักษณะอาการของโรคหลอดเลือดสมอง

         สมองเป็นอวัยวะที่ควบคุมการทำงานของร่างกายทุกระบบ ดังนั้นอาการของโรคทางสมองก็จะขึ้นกับตำแหน่งของสมองที่เสียหายว่าบริเวณนั้นทำหน้าที่ใด อาการที่เกิดขึ้นก็จะเป็นไปตามการเสียหายของสมองส่วนนั้น อาการมักจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทันที แต่บางครั้งอาการอาจเป็นๆหายๆหรือค่อยๆเป็นมากขึ้นในเวลาสั้นๆ อาการที่พบบ่อยได้แก่

·       แขน ขา อ่อนแรงครึ่งซีก

·       ชาครึ่งซีก

·       เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ

·       ตามัว มองไม่เห็นข้างเดียว หรือมองไม่เห็นครึ่งซีก

·       มองเห็นภาพซ้อน

·       ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด กลืนลำบาก

·       ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ฉับพลัน

·       ซึมไม่รู้สึกตัว

ในบางครั้งอาการข้างต้นอาจเป็นแล้วหายไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่นั่นหมายถึงนาทีทองเพราะเป็นการให้โอกาสกับเราให้ไปปรึกษาแพทย์ มิฉะนั้นอาการจะกลับมาเป็นซ้ำได้และอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งแรก ดังนั้นเมื่อเป็นแล้วหายก็อย่านิ่งนอนใจ

ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง

1.      ภาวะหรือโรคความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค 3- 17 เท่า

2.      โรคเบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค 3 เท่า

3.      การสูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค 2 เท่า

4.      ไขมันในเลือดสูง เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค 1.5 เท่า

5.      โรคหัวใจ

6.      ขาดการออกกำลังกาย

7.      ผู้สูงอายุ

 

สัญญาณเตือนภัย!!!

1.      ชา หรืออ่อนแรงครึ่งซีกที่หน้า แขน ขา

2.      เวียนศีรษะ หรือหมดสติ

3.      ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน

4.      พูดไม่ชัด หรือลิ้นแข็ง

5.      ตามัวหรือเห็นภาพซ้อน

ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน !! เมื่อเกิดอาการข้อใดข้อหนึ่งอย่างทันทีทันใด

การป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดสมอง

เมื่อเกิดอาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที โอกาสรักษาหายหรือได้ผลดีจะมีมากกว่า เพราะหากสมองขาดเลือดนานเกินไปสมองส่วนนั้นก็จะตายไป ไม่สามารถฟื้นตัวได้

          เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกาย แล้วส่งผู้ป่วยไปตรวจพิเศษทางสมอง ได้แก่ การเอกซเรย์สมอง ( CT Brain Scan ) หรือการตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก ( MRI Brain) เพื่อช่วยการวินิจฉัยว่าเป็นการขาดเลือดหรือเป็นเลือดออกในสมอง หลังจากนั้นก็ให้การรักษาทันที

การป้องกันรักษาที่ควรรู้คือ

1. รักษาและควบคุมโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวานโรคหัวใจ และไขมันในเลือดสูง โดยปรึกษาแพทย์และรับประทานยาสม่ำเสมอ

2. เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มเหล้า ในปริมาณมากเกินไป

   3.  รับประทานยาต้านเกร็ดเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ในกรณีที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการเกิดซ้ำอีก

   4.  ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

   5.  ลดอาหารเค็มและอาหารที่มีไขมันสูง ถ้าเป็นเบาหวาน ควรควบคุมอาหารประเภทแป้ง

   6.  ลดความเครียด ทำจิตใจให้เบิกบาน

   7.  ตรวจสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละครั้ง

 

          เมื่ออ่านจบ ท่านอย่าลืมลองสำรวจตัวเองว่า ท่านมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่?  ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีและ แข็งแรงค่ะ.

 

(ขอขอบคุณ ข้อมูลจากแผ่นพับเผยแพร่ความรู้ ของร.พ.รามาธิบดี และสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข)

หมายเลขบันทึก: 171543เขียนเมื่อ 18 มีนาคม 2008 22:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีค่ะ

เป็นความรู้ที่ดีมากๆเลยค่ะ

ปวดหัวนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะคะ

ขอบพระคุณที่นำความรู้มาฝากค่ะ ^_^

เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ ขอบคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ คุณผึ้งงาน
  • โรคนี้อันตรายสำหรับคนคาดไม่ถึง ขาดยา ขาดการใส่ตนเองด้วยนะคะ
  • เพราะเจอคนไข้หลายคนมักจะขาดยาค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณดอกไม้ปลายดอย

•อาการปวดหัว..เราพบจนคุ้นเคยจนละเลยไม่ระวัง

•จริงๆแล้วถ้าสังเกตอาการจะต่างกัน...การใส่ใจสักนิด เป็นสิ่งที่ดีค่ะ.

•ขอบคุณสำหรับคำติชม..ซึ่งเป็นกำลังใจอย่างมากค่ะ.

•ยินดีที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

สวัสดีค่ะคุณ bangsai

• เมื่อพบเหตุการณ์นี้ของเพื่อนร่วมงาน

• ทำให้นึกถึง G2K เพื่อจะได้ระวังสุขภาพค่ะ

• ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

สวัสดีค่ะคุณมณีแดง

• ชอบรูปใหม่..ดูแล้วน่ารักดีค่ะ.

• ถ้าใครมีโรคประจำตัว(เบาหวาน ไขมันสูง ความดัน)จะขาดยาไม่ได้..จึงไม่ควร

ประมาท..

• อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..น้องเป็นห่วงค่ะ.

• ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

  • ตามมาขอบคุณ
  • ไม่ค่อยปวดหัว
  • ชอบออกกำลังกาย
  • ว่าจะไปวิ่งเนี่ย
  • ไปตอนให้ถูกนะครับ
  • มีรางวัล
  • ไปไม่กลับ บ้านพ่อครูบา
  • ฮ่าๆๆๆ

สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต

  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีค่ะ...สนับสนุน..ๆๆ..
  • ตอบอีกก็ผิดอีก..รอฟังตอบดีกว่าค่ะ.
  • อีกอย่าง...กลัวไม่ได้กลับ..555...

เยี่ยมๆค่ะ คุณผึ้งงาน_SDU พยายามจะคอยเตือนใครต่อใครให้สำรวจตัวเองกันอยู่ค่ะ เพราะปัจจัยพื้นฐานที่จะช่วยป้องกันโรคน่ากลัวๆแบบนี้นั้นเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย และถ้าเราดูแลตัวเองเสียตั้งแต่ยังไม่เป็น หรือแม้จะเป็นโรคฮิตๆพวกนี้ไปแล้ว (ความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง) ถ้ารู้วิธีดำเนินชีวิตก็จะไม่ต้องพบกับสภาพร้ายๆแบบที่คุณผึ้งงาน_SDU เอามาเตือนกันนี่แหละค่ะ เพราะคิดถึงว่าเราแค่สร้างวินัยให้ตัวเองไม่กี่อย่าง ก็น่าจะคุ้มกับการที่จะไม่ต้องลำบากลำบนกับสภาพทุพพลภาพที่เราสรรหามาให้ตัวเองนะคะ

สวัสดีค่ะอาจารย์โอ๋-อโณ

  • ดูแลสุขภาพด้วยนะคะเห็นทำงานหนัก...มาก..
  • อย่าเครียดนะคะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ปวดหัวบ่อยเหมือนกันค่ะ
  • โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน ๆ อย่างนี้
  • อ่านบันทึกแล้ว...น่ากลัวจัง อิอิ
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่นำเสนอนะค่ะ 

สวัสดีค่ะคุณอ้อยควั้น

  • อาการปวดหัว...มีหลายสาเหตุค่ะ
  • แต่เราก็ควรสังเกตุว่าผิดปกติหรือเปล่า?....เป็นสิ่งที่รอบคอบดีค่ะ.
  • สงสัยคุณอ้อยควั้นคงเครียดนับเงินเยอะไปค่ะ...555...
  • รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...ขอบคุณที่แวะมาค่ะ.
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท