แค่ปีละ 300 บาท ต่อ 6 เล่ม หรือ เล่มละ 50 บาท เท่านั้น
โฆษณาให้ฟรีๆ เลยค่ะ
มีเรื่องดีดี มีสาระ ทุกหน้า
ชาวบ้านอ่านได้ ชาวเมืองอ่านดี ชาวชนบท (อย่างดิฉัน) ยิ่งสมควรอ่านทุกๆ ที
ดิฉันจะฉายหนังตัวอย่างให้ได้อ่านกันเรื่องนึง
เรื่อง การสื่อสารอย่างพอเพียง (Sufficient Communication) เขียนโดย นพ.พณพัฒณ์ โตเจริญวาณิช : กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลหาดใหญ่
พาดหัวข่าวของดิฉัน เรียกร้องความสนใจนิดหน่อยค่ะ แต่รับรองได้ว่าไม่ได้เบี่ยงเบนประเด็น ถ้าอ่านแล้ว get ก็สามารถประยุกต์ใช้กับการสื่อสารได้ทุกบริบทค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ-แม่กับลูก ครูอาจารย์กับศิษย์ หรือเจ้านายกับลูกน้อง
กรณีศึกษา การซักประวัติคนไข้ :
คุณลัดดา อายุ 20 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บคอ
การซักประวัติแนวเดิม
คุณหมอ | : | สวัสดีครับ วันนี้ไม่สบายเป็นอะไรมาครับ |
ผู้ป่วย | : | มีอาการเจ็บคอค่ะ (เอามือชี้เข้าไปในปาก) คุณหมอช่วยดูให้หน่อยนะคะ |
คุณหมอ | : | เดี๋ยวดูให้นะครับ แล้วเจ็บคอมานานเท่าไหร่แล้วครับ(ไม่ตอบสนองผู้ป่วยเพราะอยากซักประวัติให้หมดก่อน) |
ผู้ป่วย | : | ราวๆ สองสัปดาห์ได้ค่ะ (ทำท่าจะเล่าต่อ....) |
คุณหมอ | : | เป็นไข้ มีน้ำมูก ไอ หรือมีเสมหะด้วยหรือเปล่าครับ (ขัดจังหวะผู้ป่วย และถามคำถามปลายปิด แบบรวบทุกอาการเพื่อประหยัดเวลา) |
ผู้ป่วย | : | ไม่มีค่ะ |
คุณหมอ | : | กินยาอะไรมาก่อนจะมาพบหมอไหมครับ |
ผู้ป่วย | : | ก่อนหน้านี้หนูก็ไปหาหมอมาก่อนแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าคออักเสบติดเชื้อ แล้วจัดยานี้มาให้หนูทานค่ะ (ผู้ป่วยหยิบแผงยา amoxycillin ให้ดู) |
คุณหมอ | : | ทานแล้วดีขึ้นไหมครับ |
ผู้ป่วย | : | เอ่อ....(ทำท่าลังเล) ก็ดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าที่มันติดเชื้อนี่หายแล้วยังนะคะ (เริ่มมีสีหน้ากังวลเล็กๆ) |
คุณหมอ | : | (หันไปหยิบไฟฉาย ไม้กดลิ้น แล้วหันมาทางผู้ป่วย) อ้าปากหน่อยนะครับ |
ผู้ป่วย | : | (กลืนน้ำลายหนึ่งที พร้อมอ้าปากโดยดี) |
คุณหมอ | : | (ดู ดู คอไม่แดง ไม่มีทอลซิลโต) |
ผู้ป่วย | : | (รอคุณหมอ หน้าตาอยากรู้) |
คุณหมอ | : | ตกลงนี่เจ็บคอนี่ตรงไหนล่ะครับ (เริ่มแปลกใจ เพราะหาโรคไม่พบตามที่คาด) เจ็บในคอข้างใน หรือข้างนอก (เอามือลูบลำคอตัวเอง) |
ผู้ป่วย | : | ข้างในค่ะ ตกลงหนูเป็นอะไรคะ (ผู้ป่วยเริ่มเพิ่มความกังวล เพราะคุณหมอดูคอแล้วไม่อธิบาย แต่กลับทำท่าทางไม่เข้าใจผู้ป่วย ยิ่งทำให้ผู้ป่วยแปลความว่าอาการตนเองร้ายแรง) |
คุณหมอ | : | อ้อ....จากอาการของคุณคงเป็นคออักเสบติดเชื้อน่ะครับ (ไม่รู้จะบอกว่าเป็นอะไร เพราะหาโรคไม่พบ) เดี๋ยวหมอเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อให้แล้วกันนะครับ (augmentin น่าจะดี) |
ผู้ป่วย | : | มันยังไม่หายหรือคะ มันจะร้ายแรงมากหรือจะติดต่อได้ไหมคะ |
คุณหมอ | : | ไม่อันตรายหรอกครับ ได้ทานยาชุดนี้น่าจะหายแล้ว โดยทั่วไปโรคนี้มันจะติดต่อทางการหายใจน่ะครับ ช่วงนี้อย่าอยู่ใกล้คนใกล้ชิดมาก โดยเฉพาะหากไอ จาม ให้ปิดปากด้วยนะครับ) |
ผู้ป่วย | : | ค่ะ (สีหน้าดูกังวลขึ้นชัดเจน) |
คุณหมอ | : | มีอะไรสงสัยจะถามหมออีกไหมครับ |
ผู้ป่วย | : | ไม่มีค่ะ (ถูกคุณหมอละเลยเงื่อนงำที่ให้ไปหลายครั้ง) |
คุณหมอ | : | งั้นลองไปทานยาดูก่อนนะครับ เชิญไปเอายาได้เลยครับ ห้องเบอร์ 5 นะครับ |
ผู้ป่วย | : | ขอบคุณค่ะคุณหมอ สวัสดีค่ะ (ยิ้มแหยๆ แววตากังวล แล้วค่อยๆ เดินออกจากห้องไป) |
การซักประวัติโดยใช้ทักษะการสื่อสารแบบพอเพียง
คุณหมอ | : | สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนเลยครับ (เริ่มสบตาผู้ป่วยตั้งแต่เข้าห้องตรวจและยิ้มให้) |
ผู้ป่วย | : | สวัสดีค่ะ คุณหมอ (ยกมือไหว้ แล้วนั่งลง) |
คุณหมอ | : | คุณลัดดาใช่ไหมครับ (ป้องกันผู้ป่วยผิดคน) |
ผู้ป่วย | : | ใช่ค่ะ (ยิ้ม...รู้สึกคุณหมอให้ความสำคัญ) |
คุณหมอ | : | (ยิ้มตอบ) วันนี้ไม่สบายเป็นอะไรมาครับ |
ผู้ป่วย | : | มีอาการเจ็บคอค่ะ (เอามือชี้เข้าไปในปาก) คุณหมอช่วยดูให้หน่อยนะคะ |
คุณหมอ | : | ได้ครับ เดี๋ยวหมอดูให้เลยนะครับ (ตอบสนองในสิ่งที่ผู้ป่วยกังวล หันไปหยิบ ไฟฉาย ไม้กดลิ้น แล้วหันมาทางผู้ป่วย) ขอโทษนะครับ อ้าปากหน่อยนะครับ |
ผู้ป่วย | : | (กลืนน้ำลายหนึ่งที พร้อมอ้าปากโดยดี แต่รู้สึกคุณหมอให้เกียรติ |
คุณหมอ | : | (ตรวจอย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้ผู้ป่วยเจ็บ หรืออยากแหวะได้ คอไม่แดง ทอลซิลไม่โต |
ผู้ป่วย | : | (รอคุณหมอ หน้าตาอยากรู้) |
คุณหมอ | : | เท่าที่ตรวจดู ไม่เห็นความผิดปกติอะไรนะครับ (แจ้งผลผู้ป่วย) ไม่ทราบว่าที่เจ็บคอนี้มันเป็นยังไงนะครับ ลองอธิบายให้หมอฟังหน่อยนะครับ (ถามคำถามปลายเปิด และพยายามทำความเข้าใจความเจ็บป่วยในมุมมองของผู้ป่วย) |
ผู้ป่วย | : | มันก็เจ็บอยู่ข้างในน่ะค่ะ เป็นมาสักสองสัปดาห์ได้แล้วค่ะ รู้สึกแสบๆ ค่ะ เอ่อ...แต่จริงๆ มันก็เจ็บไม่มากหรอกนะคะ (คุณหมอพยักหน้าช้าๆ เชื้อเชิญให้ผู้ป่วยเล่าต่อ) ความจริงก่อนหน้านี้หนูก็ไปหาหมอมาก่อนแล้วนะคะ คุณหมอบอกว่าคออักเสบติดเชื้อ แล้วจัดยานี้มาให้ทานค่ะ (ผู้ป่วยหยิบแผงยา amoxycillin ให้ดู) |
คุณหมอ | : | ทานแล้วเป็นยังไงบ้างครับ |
ผู้ป่วย | : | เอ่อ...(ทำท่าลังเล) ก็ดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าที่มันติดเชื้อนี่หายแล้วยังนะคะ (เริ่มมีสีหน้ากังวลเล็กๆ) |
คุณหมอ | : | (จับสีหน้าได้) ติดเชื้อ ดูเหมือนคุณลัดดาจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนะครับ (สะท้อนความรู้สึกของผู้ป่วย เพื่อให้แน่ใจว่าเราเข้าใจเขาถูก) |
ผู้ป่วย | : | ค่ะ หนูกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก |
คุณหมอ | : | เอ่อ.....เท่าที่หมอตรวจดูก็ไม่เห็นอาการคออักเสบติดเชื้อที่ว่าแล้วนะครับ ไม่ทราบคุณลัดดามีความกังวลอะไร พอจะเล่าให้หมอฟังได้ไหม (ค้นหาเหตุในการมาพบแพทย์) |
ผู้ป่วย | : | (เงียบ) |
คุณหมอ | : | (attentive silence) |
ผู้ป่วย | : | คือ....คือ....อย่างนี้ค่ะ คุณหมอ หนูกำลังจะแต่งงานค่ะ แต่เมื่อสาม สี่ ปีก่อนหนูเคยมีแฟนมาก่อน เขาบอกว่าเขารักหนูและอยากมีอะไรกับหนู หนูไม่ยอม เขาจึงโกรธ หนูเลยต้องยอมใช้ปากทำให้เขาค่ะ หลังจากนั้นหนูเจ็บคอจึงไปตรวจ หมอบอกว่าหนูติดเชื้อเป็นหนองในคออะไรทำนองนี้แหละค่ะ หมอบอกว่าหนูคงติดมาจากแฟนค่ะ ได้ยามาทานก็หายไปแล้ว แต่ช่วงสองสัปดาห์นี้มันกลับมาเริ่มเจ็บอีก หนูกังวลมาก กลัวมันจะกลับมาเป็นอีกครั้งค่ะ กลัวมันจะไปติดแฟน ถ้าเขารู้ว่าหนูไม่ดีมาก่อน เขาต้องเสียใจมากแน่ๆ เลยค่ะ (น้ำเสียงเริ่มเครือ) |
คุณหมอ | : | (attentive silence) |
ผู้ป่วย | : | หนูมันโง่จริงๆเลยค่ะคุณหมอ หนูไม่น่าทำอย่างนั้นเลย ตลอดสามสี่ปีมานี้ ทุกทีเวลาเจ็บคอทีไรหนูก็ต้องเป็นทุกข์ทุกที แต่ก็ไม่เคยรวบรวมความกล้าไปปรึกษาคุณหมอสักที ได้แต่เก็บเป็นทุกข์ไว้คนเดียว (ตาแดงๆ) |
คุณหมอ | : | (ใช้มือแตะที่แขนผู้ป่วย เพื่อแสดงความเห็นใจ) ช่วงนี้คุณลัดดาคงรู้สึกเป็นทุกข์มาก |
ผู้ป่วย | : | (น้ำตาไหล) |
คุณหมอ | : | (ยื่นกระดาษทิชชูให้ พร้อมเงียบและอนุญาตให้ผู้ป่วยได้ร้องไห้ ระบายความรู้สึก) |
ผู้ป่วย | : | ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว |
คุณหมอ | : | ครับ แล้วตอนนี้คุณลัดดาพร้อมจะคุยกับหมอต่อหรือยังครับ |
ผู้ป่วย | : | ค่ะ |
คุณหมอ | : | ตอนนี้หมอคิดว่าหมอพอจะเข้าใจปัญหาของคุณแล้ว สรุปว่าที่คุณลัดดากังวลอยู่ตอนนี้ คือกลัวว่าโรคติดเชื้อที่เคยเป็นมาเมื่อก่อนจะกลับมาเป็นอีก และกลัวว่ามันจะติดไปที่แฟนคนปัจจุบัน ใช่ไหมครับ (สรุปความ) |
ผู้ป่วย | : | ค่ะ ใช่ค่ะ |
คุณหมอ | : | เท่าที่หมอทราบ อาการเจ็บคอที่คุณลัดดาเป็นเมื่อสามสี่ปีก่อน เขาเรียกว่าโรคหนองใน พวกนี้เป็นโรคที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์เมื่อได้รับการรักษาแล้วก็จะหายขาดครับ เหมือนเวลาเราเป็นหวัด เมื่อเป็นหวัดแล้วเราก็จะหายขาดใช่ไหมครับ แต่เราก็จะกลับเป็นหวัดใหม่ได้หากได้รับเชื้อเข้าไปอีก โรคหนองในก็เช่นเดียวกัน แต่ว่าโรคหนองในไม่ได้ติดต่อกันผ่านทางไอ จามเหมือนโรคหวัด ดังนั้น หากคุณลัดดาไม่ได้ไปรับเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์หลังจากครั้งนั้นอีก ก็จะไม่เป็นอีกแล้ว (อธิบายง่ายๆเปรียบเทียบกับโรคที่ผู้ป่วยคุ้นเคย) |
ผู้ป่วย | : | แสดงว่าหากหนูไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หลังจากครั้งนั้นอีก หนูก็จะไม่เป็นอีกใช่ไหมคะ เพราะหนูเคยมีอะไรกับเขาก็แค่ครั้งนั้น ครั้งเดียวจริงๆค่ะคุณหมอ |
คุณหมอ | : | ใช่แล้วครับ แต่ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีแต่โรคหนองในอย่างเดียว อาจมีโรคอื่นๆอีก เช่น ซิฟิลิช ไวรัสตับอักเสบบี แล้วก็โรคเอดส์ ด้วยนะครับ ซึ่งโรคพวกนี้อาจไม่มีอาการอะไร หากจะทราบว่าเราเป็นหรือไม่ก็ต้อง ตรวจเลือดดูนะครับ |
ผู้ป่วย | : | หนูพอทราบเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบบี แล้วก็โรคเอดส์แล้ว แต่ซิฟิลิสนี่เป็นยังไงคะ แล้วหนูมีโอกาสติดโรคพวกนี่ด้วยหรือคะ |
คุณหมอ | : | ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในระยะแรกอาจทำให้เกิดแผลตามอวัยวะเพศหรือช่องปากได้ แต่เมื่อแผลหายแล้วก็อาจมีเชื้อหลงเหลือในตัวเราได้ และเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็จะถ่ายให้กับคู่ของเราได้ครับ จริงๆแล้วโอกาสที่คุณลัดดาจะติดโรคพวกนี้คงมีไม่มาก เพราะเป็นการใช้ปากทำให้ และก็แค่ครั้งเดียวจริงๆ แต่ยังไงก็ยังไม่ปลอดภัยซะทีเดียวครับ |
ผู้ป่วย | : | ...ตกลงค่ะคุณหมอ หนูตัดสินใจแน่นอนแล้วค่ะว่าหนูอยากตรวจเลือด จะได้รู้ไปเลยว่ามีโรคพวกนี้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นต่อไปหนูคงไม่หายกลุ้มใจเพราะเรื่องพวกนี้สักที คุณหมอตรวจเลือดให้หนู้ได้ไหมคะ |
คุณหมอ | : | ได้สิครับ แต่ก่อนที่เราจะตรวจเลือดกัน หมออยากจะนัดให้เรามาคุยกันอีกทีในคราวหน้า เพราะคงมีรายละเอียดบางเรื่องที่เราคงต้องทำความเข้าใจกันเพิ่มเติมอีกหน่อย จะได้ไหมครับ |
ผู้ป่วย | : | ได้ค่ะคุณหมอ |
คุณหมอ | : | งั้นหมอจะขอนัดคุณลัดดามาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้นะครับ ไม่ทราบคุณลัดดายังมีเรื่องกังวลอะไรที่ยังไม่เข้าใจหรืออยากจะถามหมอเพิ่มเติ่มไหม (เปิดโอกาสให้ซักถามและนัดหมาย) |
ผู้ป่วย | : | ไม่มีแล้วค่ะคุณหมอ ที่ได้คุยกับคุณหมอทำให้หนูเข้าใจและสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่งแล้วค่ะ หากไม่พบคุณหมอหนูก็คงไม่รู้จะหาทางออกได้ยังไง แล้วก็คงต้องทุกข์กับเรื่องนี้ต่อไปอีก |
คุณหมอ | : | ไม่เป็นไรครับ หมอยินดีช่วย แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมมาพบกันนะครับ |
ผู้ป่วย | ค่ะ หนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ (มีรอยยิ้ม) |
โดยสรุปข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นทางการแพทย์ส่วนใหญ่ไม่ใช้เกิดจากแพทย์ขาดความรู้ แต่มักเกิดจากการที่แพทย์เป็นคนไม่ช่างสังเกต ไม่รับฟัง ไม่อธิบาย หรือไม่ใส่ใจผู้ป่วยต่างหาก ทัศนคติของแพทย์น่าจะมีส่วนสำคัญที่สุด เพราะหากแพทย์สนใจแต่ "ค้นหาและรักษาโรค" ก็มักจะถามแต่ในสิ่งที่ตนเองสนใจทางคลินิกเท่านั้น จนลืมว่าบางครั้งการใช้ยาหรือการผ่าตัด ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ดังเห็นได้จากกรณีศึกษาข้างต้น เคยเห็นไหมว่าการเล่านิทานดีๆสักเรื่องทำให้เด็กหลับฝันดีได้ (ดีกว่ายานอนหลับเพราะตื่นมาไม่งง) การให้กำลังใจก็ช่วยลดความโศกเศร้าเจ็บปวดในใจของการสูญเสียคนที่รักไปได้เช่นกัน การนำเทคนิคการสื่อสารนี้ไม่ใช้ในระยะแรกอาจเหนื่อยอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าเมื่อใช้ไปสักระยะก็จะชำนาญขึ้นเอง เมื่อถึงตอนนั้นก็จะได้รับรู้ถึงความรู้สึกภูมิใจและเป็นสุขในตัวเราเอง เวลาที่เราได้ช่วยแก้ปัญหาของคนไข้อย่างตรงจุดหรือเวลาที่เราได้รับรอยยิ้ม และความรักจากคนไข้ตออบกลับมา
สวัสดีค่ะอาจารย์Dhaharunที่เคารพรัก
ด้วยความเคารพรัก
หนูหมูอ้วนเองค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.มาลินี
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ ในเช้าวันหยุดแบบนี้ เรื่องเล่าเรื่องนี้ยังนำมาสะท้อนได้ถึงการบริหารงานของผู้บริหาร เพราะหากผู้บริหารท่านใด ใส่ใจในผู้ใต้บังคับบัญชา เหมือนคุณหมอท่านที่สอง รับรองว่า จะได้ใจลูกน้องเป็นอย่างมากค่ะ
(จริง ๆ อยากเขียนว่า ใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชาเหมือน ท่านคณบดีที่น่ารักคนนี้ตะหาก)
ด้วยความเคารพค่ะ
อ้อ! ดิฉันว่า "หมอความ" น่าจะสื่อสารได้เก่งกว่า "หมอคน" นะคะ เพราะส่วนใหญ่คนไข้เป็นคนที่ "เต็มใจอยากจะบอกหมอทุกเรื่องอยู่แล้ว เพียงแต่หมอ (บางท่าน) ถอดรหัสไม่เก่งเอง ไม่ดูภาษากายด้วย อย่างนี้ให้อภัยไม่ได้
แต่....ลูกความเนี่ย....(ดิฉันคิดเองนะคะ) เอาแน่ไม่ได้ ถ้าคิดว่าพูดแล้วเดี๋ยวจะเป็นภัยแก่ตัวก็จะเก็บงำไว้ลึกทีเดียว ไม่พูด บางทีก็กลบภาษากายไว้อย่างแนบเนียนด้วย หมอความจึงต้องใช้ความสามารถในการสื่อสารแบบเทพ (ใช้ภาษาวัยรุ่น) ที่จะเค้นความในใจที่แท้จริงของลูกความออกมาให้ได้.....อย่างนี้ถ้าเค้นไม่ออก ก็พอให้อภัยได้
เพื่อให้ไม่คลาดสายตา ขออนุญาต นำเข้า planet เลยนะคะ อย่างงี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน หาเจอแน่นอน
อาจารย์คะ กรณีศึกษานี้ เป็นตัวอย่างที่ดีมากเรื่องการสื่อสาร เป็นเรื่องขำๆ ที่มักถูกยกตัวอย่างในการซักประวัติผู้ป่วย คุณหมอผู้เขียน เขียนได้ดีมากๆ นะคะ ขอบคุณอาจารย์ที่นำมาเผยแพร่ค่ะ
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งต้องไปเป็นคนไข้ให้นิสิตแพทย์ตรวจ อาจารย์หมอ ให้โพยมาว่าคุณต้องเป็นโรคประมาณนี้อาการแบบนี้นะ ถ้านิสิตแพทย์ไม่ถาม ก็ไม่ต้องตอบ หรือไม่ต้องพูดนำ
อิอิ พอเอาเข้าจริงๆ นิสิตแพทย์บางคนก็ตื่นเต้น บางคนก็ลน บางคนก็ขู่คนไข้ บางคนถามไม่หมด ก็เลยต้องบอกนำๆ ผิดกฏไหมเนี่ย... พอตรวจหมดทุกคน ดูออกเลยว่าใครน่าจะเป็นหมอที่ดีได้ หุหุ กว่าจะเป็นหมอได้ยากลำบากจริงๆเลย
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งต้องไปเป็นคนไข้ให้นิสิตแพทย์ตรวจ อาจารย์หมอ ให้โพยมาว่าคุณต้องเป็นโรคประมาณนี้อาการแบบนี้นะ ถ้านิสิตแพทย์ไม่ถาม ก็ไม่ต้องตอบ หรือไม่ต้องพูดนำ
อิอิ พอเอาเข้าจริงๆ นิสิตแพทย์บางคนก็ตื่นเต้น บางคนก็ลน บางคนก็ขู่คนไข้ บางคนถามไม่หมด ก็เลยต้องบอกนำๆ ผิดกฏไหมเนี่ย... พอตรวจหมดทุกคน ดูออกเลยว่าใครน่าจะเป็นหมอที่ดีได้ หุหุ กว่าจะเป็นหมอได้ยากลำบากจริงๆเลย
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง สดชื่นแจ่มใสครับ