การใช้กฎหมายระหว่างประเทศ
2. การชดใช้ค่าเสียหายจากความรับผิดชอบระหว่างประเทศของรัฐ
เมื่อมีความรับผิดชอบระหว่างประเทศ ก็ย่อมจะตามมาด้วยการชดใช้ความเสียหาย ซึ่งรัฐอาจทำการชดใช้ในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมแล้วแต่กรณี
2.1 การปรับให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาพเดิม
ถ้าหากปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่คนต่างชาติเป็นกฎหมายภายใน หรือคำพิพากษาศาล หรือหมายจับที่ขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้รัฐมีความรับผิดชอบระหว่างประเทศ รัฐนั้นก็อาจเลือกวิธียกเลิกกฎหมายภายใน หรือคำพิพากษา หรือหมายจับก็ได้
คำพิพากษาศาลระหว่างประเทศได้ตัดสินให้ยกเลิกกฎหมายภายใน หรือคำพิพากษาหรือหมายจับก็มี อย่างเช่น ในคดีเขตปลอดภาษีระหว่างสวิสกับฝรั่งเศส ศาลโลกได้ตัดสินให้กฎหมายฝรั่งเศสเกี่ยวกับเรื่องนี้ โมฆะ
ในคดีหมายจับระหว่างคองโกกับเบลเยียม ศาลโลกได้ตัดสินว่า เบลเยียมต้องยกเลิกหมายจับ ลงวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2000 และแจ้งเจ้าหน้าที่ของประเทศต่างๆ ที่ได้รับหมายจับนี้ทราบด้วย ทั้งนี้เนื่องจากศาลโลกเห็นว่าหมายจับที่เบลเยียมออก เพื่อจับนาย Abdulaye Yerodia Ndombasi ซึ่งเป็ยรัฐมนตรีต่างประเทศคองโกในขณะนั้น เป็นการไม่เคารพความคุ้มกันจากคดีอาญา และความละเมิดมิได้ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศอุปโภปภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศในขณะอยู่ในตำแหน่ง
2.2 การชดใช้ค่าเสียหาย
โดยหลักการ ทุกกรณีที่เกิดความเสียหาย ก็อาจชดใช้ค่าเสียหายได้ แม้ในกรณีที่กำหมายภายในเป็นต้นเหตุของความเสียหาย หากรัฐที่มีความรับผิดชอบระหว่างประเทศ เลือกวิธีการชดใช้ค่าเสียหาย โดยไม่ยกเลิกหรือแก้กฎหมายภายในก็ย่อมทำได้ แต่กฎหมายนั้นก่อให้คนต่างด้าวเกิดความเสียหายอีก รัฐนั้นก็ต้องมีความรับผิดชอบระหว่างประเทศอีกและอาจนำไปสู่การชดใช้ค่าเสียหายอีก
สำหรับการคำนวณค่าเสียหายนั้น ให้ใช้หลักค่าเสียหายเท่ากับความเสียหาย และไม่จ่ายความเสียหายทางอ้อม อย่างกรณีเผาสถานทูตไทยที่กรุงพนมเปญ เมื่อ 29 มกราคม พ.ศ. 2546 รัฐบาลกัมพูชาได้ชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2546 ให้แก่ประเทศไทย ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของภาครัฐ ได้แก่ อาคารสถานที่ทำการของสถานเอกอัครราชทูต ทำเนียบเอกอัครราชทูต ความเสียหายของเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ตามจำนวนที่รัฐบาลไทยได้เรียกร้องเป็นมูลค่า 5,923,633 เหรียญสหรัฐอเมริกา (241,743,321 บาท)
ส่วนค่าเสียหายที่จะชดใช้ให้ภาคเอกชนไทยนั้น รัฐบาลกัมพูชาให้หักภาษีหรือค่าเช่าที่ดินหรือค่าสัมปทาน ที่เอกชนไทยผู้เสียหายจะต้องชำระให้แก่รัฐบาลกัมพูชา และมีบางกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินสดและเงินตราต่างประเทศด้วย
มีบางประเทศที่เวนคืนทรัพย์สินของคนต่างด้าวแล้วจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินตราสกุลท้องถิ่น ซึ่งไม่สามารถโอนออกนอกประเทศได้ จึงต้องพึงระวังเจรจาให้เรียบร้อยในประเด็นนี้ และในกรณีที่มีความตกลงคุ้มครองการลงทุน ก็มักจะระบุให้สิทธิโอนค่าชดใช้ความเสียหายออกนอกประเทศได้
2.3 การขอโทษ
ในกรณีที่เป็นความเสียหายทางจิตใจ ก็มักจะให้มีการขอโทษหรือแสดงความเสียใจ อย่างในกรณีเผาสถานทูตไทยที่พนมเปญ นอกจากชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินแล้ว รัฐบาลกัมพูชาก็ได้แสดงความเสียใจด้วย เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนทางด้านเกียรติภูมิของประเทศและจิตใจของคนไทย (บันทึกช่วยจำของรัฐบาลกัมพูชา ลงวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2003 ข่าวสารนิเทศที่ 56/2546 ลงวันที่ 31 มกราคม 2546)
2.4 การลงโทษผู้กระทำผิด
ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลธรรมดาได้กระทำความผิดอันก่อให้เกิดความรับผิดระหว่างประเทศของรัฐ รัฐที่เสียหายก็อาจเรียกร้องให้รัฐที่มีความรับผิดชอบระหว่างประเทศลงโทษผู้ทำความผิดตามกฎหมาย รวมทั้งให้ลงโทษทางวินัยข้าราชการด้วย อนึ่งในกรณีเผาสถานทูตไทยที่พนมเปญ รัฐบาลไทยก็ได้เรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาลงโทษผู้กระทำความผิดด้วย
หากรัฐที่มีความรับผิดชอบระหว่างประเทศไม่ยอมทำการชดใช้ความเสียหายตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ดังที่กล่าวข้างต้นก็จะทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศ ซึ่งมีวิธีการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีหรือวิธีการระงับข้อพิพาทที่รุนแรงถึงขั้นใช้กำลังหรือสงคราม
ที่มา : นพนิธิ สุริยะ กฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , สมบูรณ์ เสงี่ยมบุตร อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายและเอกอัครราชทูตไทย กฎหมายระหว่างประเทศ , กฎหมายระหว่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วันที่ 13 มีนาคม 2551
ไม่มีความเห็น