ลุงเอกครับ โดนใจแท้ๆ
มีเรื่องจริงเล่ากันมานานแล้วว่า..มีนักศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งไปทำวิจัยเรื่องชาวบ้านภาคอีสานเข้าใจพุทธศาสนาแค่ไหน จึงออกแบบสอบถามไปถามพ่อใหญ่ แม่ใหญ่
นักศึกษา: พ่อใหญ่ครับ พ่อใหญ่รู้จักคำว่าเมตตาไหมครับ พ่อใหญ่ช่วยอธิบายให้ผมหน่อย ว่ามันเป็นอย่างไร..
พ่อใหญ่: งง อยู่สักพักก็พูดอะไรไม่เป็นภาษาทางวิชาการ..แต่ระหว่างนั้นพ่อใหญ่ก็ตะโกนบอกให้ลูกสาวเอาน้ำเอาท่ามาให้แขกดื่มกินหน่อย...ในที่สุดพ่อใหญ่ตอบไม่ได้ในความหมายที่เป็นภาษาวิชาการ
นักศึกษา: งั้นเอาใหม่ พ่อใหญ่...รู้จักคำว่ากรุณาไหม..ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยครับ...
พ่อใหญ่: ก็ตอบไม่ได้ และตะโกนบอกให้ลูกเตรียมอาหารกลางวันเลี้ยงนักศึกษานั่น
นักศึกษากลับไปแบบหัวเสีย แล้วสรุปงานว่าพ่อใหญ่ ไม่เข้าใจพุทธศาสนาอย่างแท้จริง แต่ปฏิบัติตามกันมา...
คนที่ไม่เข้าใจหลักธรรมเชิงปฏิบัติทางศาสนาแล้วไปทำวิจัยเรื่องศาสนามันก็ไม่ได้เรื่อง ผิดไปหมด ศาสนาของชาวบ้านไม่ใช่สิ่งท่องบ่น ตอบคำถาม อธิบายออกมาเป็นภาษาพูดอย่างที่คนชั้นกลางเขาปฏิบัติกัน แต่เขาปฏิบัติในสาระธรรมนั้นๆจนเป็นวิถี เป็นวัฒนธรรมไปแล้ว ก็ที่พ่อใหญ่เอาน้ำมาให้ เอาข้าวมาให้ดื่มให้กินนั้นน่ะ อะไรเล่า...?
นี่คือความต่างของวัฒนธรรมในความหมายของนักศึกษากับชาวบ้าน
หากคนภายนอกไม่เห็นมิตินี้แล้วก็จะเห็นชาวบ้าน ชาวชนบทเป็นผู้ด้อย ผู้ขาดแคลนไปหมดสิ้น
อนิจจา..แม่ยาจืด..