งานของทุกคนต่างมีความสำคัญทั้งงานตามภารกิจ งานตามบทบาทหน้าที่ งานตามนโยบาย และงานตามยุทธศาสตร์ ดังนั้น “จึงจะทำอย่างไร? ให้งานทุกงานและคนทุกคนต่างได้รับประโยชน์ร่วมกัน”
“การจัดการความรู้ (KM)” จึงเข้าไปเชื่อมโยงกับเป้าหมายงานหลัก ๆ ที่สำนักพัฒนาเกษตรกร และสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวิสาหกิจชุมชน...จะต้องทำนั้นมีอะไรบ้าง? โดยการแยกแยะและจำแนก
งานตามยุทธศาสตร์ งานตามบทบาทหน้าที่ และงานที่เป็นตัวชี้วัดของ KM เรียกว่า การวิเคราะห์งาน หรือ Task Analysis ที่จะนำมาใช้ “พัฒนาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่าย” อาทิเช่น การจัดทำแผนพัฒนากลุ่ม, การพัฒนาศักยภาพเกษตรกร, การเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้, การบริหารจัดการกลุ่ม และอื่น ๆ
เป้าหมายงานที่ผ่านการวิเคราะห์ นำมาสู่ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุผล โดยเฉพาะวิธีการที่จะทำให้องค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายอาชีพการเกษตร สามารถดำเนินกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ทรัพยากรและความพร้อมที่มีอยู่ และนำมาซึ่งการพึ่งพาตนเองได้ สิ่งดังกล่าวจึงเป็นกลไกของการกำหนดเป้าหมายการจัดการความรู้ ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ และแนวทางการจัดเก็บผลงานที่เกิดขึ้น
เมื่องานของแต่ละคนได้ถูกหยิบยกและนำเสนอให้กับส่วนรวมได้เห็น มีการแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ มีการอธิบายวิธีการประยุกต์ใช้ KM กับการทำงาน จึงส่งผลให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เกิดการรับฟังและร่วมกันออกแบบ ได้แก่ แนวทางการปฏิบัติงาน เหตุผลความจำเป็น เป้าหมายที่ต้องการให้เป็น กิจกรรมที่จะทำร่วมกัน ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ และผลที่ต้องการให้เกิดขึ้น
“องค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายในงานส่งเสริมการเกษตร” จึงเป็นทั้งเนื้อหาและข้อมูลที่ทุกคนต่างให้ความร่วมมือและเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสร้างการยอมรับระหว่างกันในการเดินสู่เป้าหมายของการพัฒนางาน โดยใช้ “การจัดการความรู้ (KM)เป็นเครื่องมือ” แต่การดำเนินกิจกรรมที่ปฏิบัติ มิใช่หยุดแต่เพียงเท่านี้ เพราะ “แนวทางและแผนการปฏิบัติงาน” ที่เกิดขึ้นจะถูกนำมาใช้เป็น “กรอบ หรือ เข็มทิศ” สำหรับการเดินทางของทุกคนและเป็นวิธีการปฏิบัติ ที่จะร่วมกัน “พัฒนาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่าย” ภายใต้เครื่องมือ “การจัดการความรู้...ในงานส่งเสริมการเกษตร” สำหรับ “เก็บดาวดวงเดียวกัน” ให้บรรลุผล.
ไม่มีความเห็น