บุคลิกภาพและวิธีการสอนของอาจารย์:
ปัจจัยสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาการเรียนรู้ภาษาไทยของนักศึกษาต่างประเทศ
การสอนภาษาไทยแก่นักศึกษาชาวต่างประเทศในประเทศไทย กำลังแพร่หลายออกไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะนักศึกษาจีนนิยมเข้ามาเรียนภาษาไทยในมหาวิทยาลัยต่างๆ นับหมื่นคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ทั้งนี้เพราะจีนมีนโยบายส่งนักศึกษาออกไปเรียนต่างประเทศกันมากเนื่องจาก มหาวิทยาลัยของเขามีจำกัดอย่างหนึ่งซึ่งต้องระบายออกไปยังต่างประเทศ และอีกอย่างหนึ่งก็เพื่อเพิ่มขีดจำกัดในการแข่งขัน นั่นคือการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของเขาให้เป็นคนเก่ง สามารถออกไปหางานทำในต่างประเทศและกอบโกยเงินเข้าประเทศของเขา ประเทศไทยก็เป็นเป้าหมายหนึ่งในการช่วยผลิตกำลังคนให้แก่ประเทศจีน
แม้ว่าเราจะรู้เป้าหมายของประเทศจีนแต่มหาวิทยาลัยไทยก็ยินดีที่จะรับนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนเพื่อเพิ่มลูกค้าเข้ามหาวิทยาลัย และยกระดับสู่ความเป็นนานาชาติมากขึ้น ทำให้มีชื่อเสียงป็นที่รู้จักในวงกว้าง ดังนั้นมหาวิยาลัยไทยจึงเปิดหลักสูตรต่างๆ รองรับหรือสนองตอบความต้องการของนักศึกษาต่างชาติ และแน่นอน วิชาภาษาไทย คือวิชาหลักที่นักศึกษาต่างชาติอยากเรียน และต้องเรียนเพื่อเป็นพื้นฐานเข้าสู่หลักสูตร ยกเว้นหลักสูตรนานาชาติที่สอนด้วยภาษาอังกฤษ
การสอนภาษาไทยแก่นักศึกษาต่างชาติเหล่านี้ มีปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอย่างหนึ่งนั่นคือ ตัวอาจารย์ผู้สอน เพราะต้องอาศัยอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาไทยแก่นักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ จะอาศัยอาจารย์ทั่วๆ ไปที่พูดภาษาไทยได้มาสอนคงไม่ได้ แม้จะเป็นอาจารย์ในสาขาวิชาภาษาไทยโดยตรงก็ตาม หากไม่มีประสบการณ์มาก่อน หรือไม่ได้ร่ำเรียนวิธีสอนภาษาไทยแก่นักศึกษาต่างชาติมาโดยตรง (ขณะนี้มีหลักสูตรเปิดสอนน้อยมาก) ก็ไม่สามารถสอนได้ดี เนื่องจากไม่รู้หลักและวิธีการสอน
นอกจากวิธีสอนที่ต้องเรียนรู้มาแล้ว ต้องมีความรู้ภาษาต่างประเทศมาช่วยสอนบ้าง (ภาษาอังกฤษ หรือภาษาของเจาของภาษา) ตลอดจนบุคลิกภาพของอาจารย์ผู้สอนก็ต้องเหมาะแก่การสอนนักศึกษาต่างประเทศซึ่งต้องอาศัยจิตวิทยาเข้าใจธรรมชาติของผู้เรียนชาวต่างประเทศว่ามีลักษณะอย่างไร จะปรับวิธีสอนให้เข้ากับบุคลิกภาพของนักศึกษาเหล่านั้นอย่างไร
ในบทความนี้จะยกตัวอย่างความคิดเห็นของนักศึกษาต่างชาติ (นักศึกษาจีน) ที่มาเรียนภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ 1 ปีการศึกษา (8 เดือน) ได้แสดงความคิดเห็นต่อบุคลิกภาพและวิธีการสอนของอาจารย์ผู้สอนไว้อย่างน่าสนใจมาก ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์แก่อาจารย์ที่กำลังสอนภาษาไทยแก่นักศึกษาต่างชาติตามสมควร
๑) Zheng Yi (วัสมน)
“อาจารย์ชาวไทยไม่เพียงแต่มีความรู้ ความสามารถในการสอนเท่านั้น แต่ท่านดูแล ชีวิตประจำวันของเรา ท่านจะช่วยเหลือดิฉัน ทำให้ดิฉันซาบซึ้งใจมาก”
๒) Chen Lianglin (พิชัย)
“ อาจารย์ที่สอนภาษาไทยแก่พวกเราทุกท่านเป็นผู้มีความรู้ดีมาก และใจดีมาก แม้ว่า ตอนแรกภาษาไทยของพวกเราอยู่ในระดับต่ำมาก แต่อาจารย์ชาวไทยก็ใจเย็นและใช้วิธีสอนที่สนุก ทำให้ภาษาไทยของเราดีขึ้นมาก”
๓) Teng Lifang (สุธาสินี)
“ดิฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้เรียนภาษาไทยกับอาจารย์ที่ดีมาก เช่น อาจารย์กรเพชร ท่านสอนวิชาการเขียนแก่ดิฉัน เวลาเรียนกับท่านดิฉันตั้งใจมากเพราะอาจารย์สอนสนุกสนาน ดิฉันไม่เคยรู้สึกเบื่อและมีประโยชน์มาก”
๔) Tang Biwei (ศศิพร)
“การเรียนที่เมืองไทยสนุกและสบายกว่าการเรียนที่เมืองจีน อาจารย์ชาวไทยดีต่อพวกเรามากและบางท่านมีอารมณ์ขันทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อเลย การสั่งการบ้านของอาจารย์ชาวไทยก็ไม่เหมือนกับการสั่งการบ้านของอาจารย์ชาวจีน การบ้านที่นี่ต้องวาดรูปด้วย ทำให้ดิฉันรู้สึกสนุกมาก”
๕) Yin Lingyun (อัมพร)
“คนที่ดิฉันต้องขอบคุณที่สุดก็คือ อาจารย์ชาวไทยทุกท่าน เพราะว่าถ้าไม่มีพวกท่านที่สอนพวกเราอย่างตั้งใจ ภาษาไทยของเราจะไม่ดีและพัฒนาขึ้นรวดเร็วอย่างนี้อีกอย่างหนึ่ง อาจารย์ชาวไทยทุกท่านดูแลเราดีมาก ท่านบอกว่าพวกเราเหมือนลูกหลาน”
๖) Huang Xi (มัลลิกา)
“ อาจารย์ที่สอนเรามีอาจารย์กรเพชร อาจารย์อุไร อาจารย์ศิวภรณ์ อาจารย์กรรณิการ์ อาจารย์ทุกท่านน่าเคารพมาก อาจารย์ทุกท่านไม่เพียงทำงานหนักเหนื่อยตลอดวัน ตลอดคืนเพื่อสอน ภาษาไทยให้เราเท่านั้นแต่ยังสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อพวกเราด้วย ดังนั้นพวกเราจึงได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่มีประโยชน์มากมาย พวกเราโชคดีมากที่มีอาจารย์สอนภาษาไทยเก่งๆ ขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่าน ดิฉันจะไม่ลืมทุกท่านเลย”
๗) Jiang Mei (สายฝน)
“เมื่อพวกเราเรียนวัฒนธรรมไทยทำให้ดิฉันเกิดความประทับใจลึกซึ้ง อาจารย์เอา ผักหลายอย่างมาให้พวกเราดูและดมกลิ่น แล้วมีขนมไทยด้วย อร่อยมาก การสอนอย่างนี้ทำให้ไดรู้จักผักไทยและขนมไทยได้ดี อาจารย์สอนการเขียนขอให้เราวาดภาพเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง เพื่อนทุกคนรู้สึกว่าแปลกใหม่มาก การบ้านอย่างนี้ทำให้เรา
มีความสุข สนุกดีมาก สิ่งที่ดิฉันชอบมากที่สุดคือเสียงหัวเราะของอาจารย์ เวลาท่านหัวเราะดิฉันก็อยากหัวเราะไปกับท่านด้วย”
๘) Shi Yan (หยกฟ้า)
“ อาจารย์อุไร ท่านเป็นอาจารย์ที่น่ารักที่สุดเท่าที่ดิฉันพบมา ใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสมอ เมื่อเห็นรอยยิ้มของท่านดิฉันรู้สึกสบายใจ ได้ฟังเสียงที่ท่านพูดทุกครั้งดิฉันก็นึกถึงคุณยายของดิฉัน ดิฉันจะกลับเมืองจีนแล้ว ดิฉันขอให้อาจารย์ชาวไทยทุกท่านสดชื่น แข็งแรงมีความสุขเบิกบานใจทุกวัน”
๙) Ren Xiaoyu (สุภาวดี)
“อาจารย์ชาวไทยของเราดีกับเรามาก การสอนของอาจารย์เราเก่งมาก ที่เมืองจีน อาจารย์เรามีชื่อเสียงมาก ภาษาไทยของเราทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียนก้าวหน้าดีมาก”
๑๐) Wei Songhao (ภูฟ้า)
“อาจารย์ชาวไทยเป็นคนใจดี เมื่อผมไม่เข้าเรียน อาจารย์ก็ยังดูแลผมให้ผมเข้าเรียน แต่ผมเรียนไม่เก่ง ฟังก็ไม่รู้เรื่อง ทำให้ผมไม่สบายใจแต่ผมก็รักอาจารย์ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่พยายามสอนผม”
สวัสดีค่ะอาจารย์
อาจารย์สอนชาวต่างประเทศ ชาติไหนมากที่สุดคะ และมีเปรียบไหมคะ ว่า ภาษาของเขากับเรา ชาติไหนใกล้เคียงกับเรา มีรากศัพท์คล้ายกัน ยกเว้น ลาวค่ะ
อาจารย์ครับ ตอนนี้ผมมีเว็บไซต์เป็นของตนเองแล้ว
มีไว้เพื่อประกอบการสอนและเผยแพร่ผลงานตนเอง
ถ้าอาจารย์ได้รับชมแล้วอาจมีข้อเสนอแนะติชมอย่างไร
ได้โปรดแจ้งให้ผมทราบได้เลยนะครับ
เว็บไซต์สามารถเข้าชมได้ที่www.kruball.th.gs
สวัสดีคุณSasinand
ผมสอนนักศึกษาชาติจีนมากที่สุด รองลงมาก็คือ ญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนทางยุโรป อเมริกันนั้นไม่คุ้นเคยครับ อีกทั้งยังไม่มีความร่วมมือทางด้านการเรียนการสอนภาษาไทยระหว่างสถาบันการศึกษาด้วย
มีงานวิจัยมากมายที่เปรียบเทียบเรื่องภาษาไทยกับภาษาอื่นๆ แน่นอนครับภาษาไทยเราใกล้เคียงกับพวกภาษาในตระกูล ไท-กะได มากที่สุด ในกลุ่มไท มีการศึกษาไว้มากครับ เช่น ภาษาของไทจ้วง เป็นต้น ส่วนภาษาลาวนั้นน่าจะใกล้มากโดยเฉพาะภาษาอีสาน และภาษายวน(ไทล้านนา) ไทย-ลาวพูดกันรู้เรื่องดีครับ