กระแสโลกาภิวัฒน์และโลกยุคสังคมฐานความรู้ (Knowledge-Based Society) ได้ส่งผลให้ความรู้ของคนในองค์การกลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับองค์การ ประกอบกับวิทยการสมัยใหม่ที่เป็นข้อค้นพบทางการแพทย์เกี่ยวกับการพัฒนาของสมองและศักยภาพการเรียนรู้ของมนุษย์ ทำให้การบริหารจัดการภายในองค์การของหลายประเทศทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และความรู้ของคนในองค์การมากขึ้น
จากกระแสของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้สถานศึกษาในฐานะที่มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบต่อการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนและสังคม จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางในการบริหารจัดการ เพื่อให้ทันกับสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่ต้องการกำลังคนที่มีความรู้ มีความสามารถ ด้วยการปรับเปลี่ยนตนเองให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)
เงื่อนไขสู่ความสำเร็จเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ประสบความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น ประกอบด้วย 1) ความมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา 2) การสำรวจความพร้อมเพื่อนำมาวางแผนการปฏิบัติงานไปสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ 3)การปรับเปลี่ยนวิธีคิด ค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมการทำงานของบุคลากร 4) การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาปัจจัยทางการบริหารทั้งในส่วนขององค์การและบุคลากรไปพร้อม ๆ กัน 5) การปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการโดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากร 6) การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อการเรียนรู้ 7) การกระตุ้นให้บุคลากรเกิดความต้องการที่จะเรียนรู้ด้วยการสร้างแรงจูงใจ และ 8) การจัดให้มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความเห็น