สารคดี ดีๆ ที่อยากให้อ่าน


ขอใบไม้ให้ฉันสัก 1 ใบ แล้วจะสร้างป่าผืนกว้างคืนให้ 1 ผืน

ขอใบไม้ให้ฉันสัก 1 ใบ แล้วจะสร้างป่าผืนกว้างคืนให้ 1 ผืน

ข้อความที่เห็นดังกล่าวมิได้เป็นการพูดเลยเถิดเกินความจริง หากแต่เป็นเรื่องจริงที่เป็นไปแล้ว ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านการขยายพันธุ์พืชที่เรียกได้ว่า "การโคลนนิ่งพืช" กลางแจ้งโดยที่ไม่ต้องอาศัยหลอดแก้วเหมือนกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในห้องปฏิบัติการแต่ประการใด ต้นพืชที่ได้มีลักษณะตรงตามพันธุ์เหมือนต้นแม่ไม่ผิดเพี้ยน (เหมือนกับการตอนกิ่ง) แต่ทว่ามีการแตกรากที่รวดเร็วแทบไม่น่าเชื่อ รากงอกเป็นกระจุกภายใน 7 ถึง 14 วันเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับชนิดและสายพันธุ์) แม้แต่ไม้ตอนยากที่ต้องใช้เวลาเพาะชำนานร่วมปีก็สามารถแทงรากให้เห็นได้ไม่เกินภายใน 25 วัน และสามารถนำลงแปลงปลูกได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาบำรุงในโรงเรือนอนุบาลเหมือนดังที่ต้องปฏิบัติกันกับการขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีอื่นๆ ต้นกล้ามีอัตราเลี้ยงรอดเกือบเต็มร้อย เป็นวิธีขยายพันธุ์พืชที่เพิ่มทวีจำนวนได้มากมายในเวลาอันแสนสั้น มีใบมากเท่าไรก็ได้จำนวนต้นมากเท่านั้น ไม่ต้องรอให้ต้นพันธุ์เติบใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามากมายจึงจะทำการขยายพันธุ์ได้ จากใบไม้เพียงใบเดียวก็สามารถขยายพันธุ์ปลูกเป็นป่าใหญ่ได้ดังวลีที่กล่าวเอาไว้จริงๆ


 

 

 

 



เทคโนโลยีการขยายพันธุ์พืชโดยการโคลนนิ่งด้วยวิธีนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้ห้องปฏิบัติการตลอดจนเครื่องไม้มือเครื่องมือที่สลับซับซ้อนราคาแพงดังเช่นการโคลนนิ่งด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อแต่อย่างใด มีข้อได้เปรียบหลายๆด้านหลายๆประการดังนี้

เป็นวิธีการง่ายๆที่ไม่ต้องอาศัยความรู้ระดับสูง ไม่ต้องตระเตรียมวัสดุอุปกรณ์มากมายหลายๆอย่าง ไม่ต้องใช้ความละเอียดพิถีพิถันเข้มงวด ดำเนินการเหมือนกับการปักชำธรรมดาๆ เกษตรกรทั่วไปสามารถดำเนินการเองได้ เพียงแต่อาศัยโรงเรือนเพาะชำพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการให้น้ำ แร่ธาตุอาหาร ความร้อน ความชื้น แสงสว่าง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ไม่จำเป็น) พร้อมทั้ง สมาร์ต ลีฟ (ใบไม้อัจฉริยะ) ก็สามารถดำเนินการโคลนนิ่งพืชจากใบพืชได้แล้ว

ประโยชน์ที่ได้จากการขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีนี้ก็คือ อาศัยใบไม้แค่ใบเดียวก็สามารถขยายพันธุ์ได้มากมายในเวลาที่รวดเร็ว พืชทั่วๆไปใช้เวลาปักชำแค่ 7 ถึง 14 วันก็งอกรากออกมาให้เห็นเป็นกระจุกแล้ว ส่วนพืชที่เพาะชำงอกรากยากๆใช้เวลานานร่วมปีนั้น ใช้เวลา ไม่เกิน 24 วันก็ให้รากที่แข็งแรงจำนวนมาก

ผลประโยชน์ที่ได้รับคุ้มค่ามากกว่านั้นก็คือ เราสามารถขยายพันธุ์พืชลูกผสม ไฮบริด (F1) หรือ สต๊อกต้นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ได้ต่อไปเรื่อยๆไม่ขาดสายขาดตอน ไม่จำเป็นต้องทำ แบ๊กครอสอีกให้เสียเวลา ไม่ต้องเสียเงินซื้อเมล็ดพันธุ์ F1 ที่มีราคาสูงๆอีกต่อไป (ซื้อเพียงครั้งเดียวก็มีพันธุ์ให้ปลูกได้ตลอดไป)


ใบยางอินเดียที่ตัดแยกออกเป็น 3 ท่อน
แล้วนำไปปักชำ ปรากฏว่า แทงรากออกมาทุกท่อน


แทงรากออกมาจากเส้นกลางใบ


รากแทงออกมาจากก้านใบ และตัวใบ


ฮอร์โมนกระตุ้นราก

จาก http://www.eco-agrotech.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=389254&Ntype=2

หมายเลขบันทึก: 167697เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2008 14:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

หวัดดีครับ

  • ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาให้อ่าน
  • จะนำมาปรับใช้ในงานส่งเสริมการเกษตร ในพื้นที่ ได้บ้างมั๊ย น่าจะเป็นความรู้ที่ถ่ายทอดสู่เกษตรกร ผู้สนใจได้นะ

บทมความข้างต้นนี้มีประโยชน์มากค่ะ

แล้วถ้าผมจะลองทำที่บ้านมั้งล่ะคับ มันต้องทำยังไงบ้างนะคับ ผมยังงงอยุ๋มากมายเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท