เพื่อลูก..พ่อทำได้..
""""สามเดือน..สามคน"""
ขึ้นต้นกระทู้ ก็ทำให้อ่านแล้ว..ตกอกตกใจ กันไปตามๆ กัน.....
ก็คงจะแปลกใจแน่นอนละ ว่าทำไมต้อง..สามเดือน สามคน?
ที่ตั้งกระทู้อย่างนี้..ก็อยากจะสื่อความหมาย..ไปถึง..ช่วงระยะเวลา สามเดือนนี้ นะครับ ตั้งแต่ มกราคม, กุมภาพันธ์ จนกระทั่งเดือนทีจะถึงนี้..คือเดือนมีนาคม..ผมเชื่อว่า ผู้ที่เป็นพ่อ เป็นแม่ หลายๆ คน ที่มีลูกอยู่ในวัยเล่าเรียน เพียรศึกษานะ..คงจะต้องปวดขมอง พอสมควรเลยละ..
เป็นช่วงของการ ติดต่อหาสถานศึกษา ให้ลูก..
เป็นช่วงที่ต้องเตรียมเอกสาร,ความพร้อม,ติดต่อสถานศึกษา พอลูกไปสมัคร ไปฟังผล ไปรายงานตัว รวมถึงไปมอบตัว และ ช่วงท้ายๆ ก็ไปประชุมผู้ปกครอง....
เป็นช่วงที่..พ่อแม่ต้องเตรียม..ความพร้อมให้กับลูกๆ โดยเฉพาะ...นะครับ..แทบจะบอกได้เลยว่า..ต้องใช้ทั้งเวลา กำลังสมอง กำลังกาย กำลังทรัพย์ ทั้งหมด เพื่อลูกๆ ...
บางคน..ลูกอยู่ในช่วงนี้..อาจจะเป็น หนึ่งคน สองคน หรือสาม..ก็อาจจะมีภาระแตกต่างกันไป...นะครับ..
ส่วนผม...บอกได้เลยว่า..เหนื่อย..ม๊าก มาก แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข นะครับ ที่ได้เห็นลูกได้พัฒนาการและเติบโต มากขึ้น....
ลูกชายผม..คนเล็ก..ปีนี้ เข้าอนุบาล 1 ครับ ผมกังวล เรื่องสถานที่เรียนของลูกคนนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม แล้วละครับ...ไปติดต่อ สอบถาม หาข้อมูล ตั้งหลายแห่ง..เทียวไปเทียวมา..หลายๆ รอบ ด้วยความกังวลใจ หลายๆอย่าง ที่จะตามมา ..ก็เลยตัดสินใจ ให้เข้าเรียนโรงเรียนที่ใกล้บ้าน (แต่ไม่ที่สุด) ก็คือโรงเรียนเดียวกันกับพี่ๆ ของเค้า....เพื่อความสะดวกในการดูแลกัน..
ลูกสาวผม..(พี่ของเจ้าตัวเล็ก) ปีนี้ เข้า ประถม 1 ครับ...ก็ถือว่าโชคดีหน่อย ตรงที่เค้าเรียนอนุบาล ที่เดิมอยู่ก่อนแล้ว..พอเข้าป.1 ก็ต่อไปเลย..
ส่วน ลูกชายคนโต...ปีนี้ เข้าเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 1 ครับ..ผมก็ตัดสินใจ โดยไม่ลังเล โดยให้เรียนต่อที่เดิม...
สรุปแล้ว..พี่น้องสามคน..ได้เรียนที่เดียวกัน....ครับ..
""แล้วทำไมต้อง..สามเดือน..สามคน? ละ"
เพราะอะไรนะหรือครับ...ผมก็จะอธิบายง่ายๆ นะครับ ว่าหมายถึง.."สามเดือนนี้ ..เพื่อลูกโดยแท้ๆ นะครับ..ทีต้องทุ่มเท..เวลา กำลังกาย ใจ..และอีกหลายต่อหลายอย่าง..เพื่อการศึกษาของลูกโดยเฉพาะครับ"
นอกจากงานประจำ และงานส่วนตัวที่ต้องทำแล้ว...ผมต้องใช้เวลาต่อเนื่องกันหลายต่อหลายวัน และหลายช่วงเวลา เพื่อไปทำภาระกิจ สำหรับการศึกษา ของลูก...
คร่าวๆ นะครับ...คือว่าทุกเดือน ผมต้องไปโรงเรียน..ตั้งแต่ไปสมัครเรียนให้ เจ้าตัวเล็กอนุบาล ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ต้องไปฟังผล และรายงานตัว...ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์ไปมอบตัว..และท้ายสุด ไปประชุมผู้ปกครอง...
แล้วผมมีลูกสามคน...แล้วต้องไปตามระบบ ขั้นตอนนี้หมด ครับ ตั้งแต่ไปยื่นใบสมัคร จนท้ายที่สุด ไปประชุมผู้ปกครอง.
ซึ่ง มาถึง ณ ตอนนี้..ก็ยังไปได้ครี่งทางเองครับ...กว่าจะเสร็จสิ้น ก็เดือนมีนาคม นะครับ..ที่จะดำเนินการครบ ทุก ๆ คน...
ถ้าจะถามว่า..เหนื่อยไม๊? ตอบได้เลยนะครับ..ว่าเหนื่อย...ม๊าก มาก..
แต่เต็มไปด้วย ..ความภูมิใจนะครับ.....และเต็มใจ.ที่จะทำด้วย...
มีหลายคน..บอกผมว่า...."ผมคิดผิด นะที่เอาลูกเรียนที่เดิม" อ้างเหตุผล สาระพัด เป็นโรงเรียนที่ไม่มีชื่อเสียงบ้าง..สอนไม่ดีบ้าง..ไม่เปิดกว้าง..ให้ลูกบ้าง.????? โอ้ยสาระพัด...
แต่ผมคิดว่า..คงไม่มีใคร..รู้..เข้าใจ ในเหตุผล ไปมากกว่า ตัวผม เองนะครับ....
...ที่ให้ลูก เรียนที่เดียวกัน...ผมก็มีเหตุผล... ที่จะให้ดูแล ซึ่งกันและกัน...
...ที่ไม่ให้ลูก ไปเรียนต่อที่อื่น..ก็คงเป็นเพราะ..เหตุผลตามข้างบน..นั่นแหละข้อหนึ่งละ ส่วนอีกข้อก็คือ สภาพของโรงเรียน และสภาวะการเรียนการสอน ดีหรือไม่ดี สามารถแก้ไขได้.....
และอีกอย่าง...ผมคลุกคลี กับโรงเรียนนี้มาก็เกือบจะเข้าปีที่ 9 แล้ว..เห็นการพัฒนาการ ในหลายๆ ด้านของโรงเรียน..และที่สำคัญ ผมเห็นศักยภาพ ในการพัฒนา ก้าวไป ของโรงเรียน ฯ ทำให้ผมเชื่อมั่น..ว่า ลูก..จะได้ในสิ่งที่ดี..ๆ จากโรงเรียน...
นี่คือเหตุผล..หลักๆ ครับ...
ผมก็เลย..ตัดสินใจอย่างนี้..และผมว่า..ผมตัดสินใจถูกนะครับ....
ก็เลย..นำมาเล่าสู่กันฟัง นะครับ...
ถ้ามีคำแนะนำ..ก็ยินดี รับฟัง ครับ...
ผมเองเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนบ้านตลาดเหนือ (วันครู 2502)
ตั้งแต่ ป.1 - ม.3 / ทั้ง 2 รุ่น เรียนที่นี่นาน พ่อ แม่ไม่ให้ย้าย
ท่านบอกอย่างเดียวว่า '' ครูที่นี่ดุดี ''
ทั้งสองคนเห็นว่า ครูที่นี่เอาใจใส่เต็มที่ โดยเฉพาะด้านทักษะภาษาไทย นั้น..... นักเรียนต้องอ่านออก จะต้องเขียนหนังสือเป็น ถ้าอ่านหนังสือไม่ออก เขียนตัวหนังสือไม่เป็น ก็ไม่ให้เลื่อนชั้นถ้าหากปล่อยให้เลื่อนชั้นไปก็เป็นทุข์หนักใจครูชั้นอื่นเปล่า ๆอีกทั้งครูที่นี่ดุด้วย ในความเป็นเด็กเราเลยกลัว จนต้องปฏิบัติตามที่ครูบอกโดยทันที..
----------------------------------------------------------------------
ครูที่นี่ คือครูจริง ๆ ซึ่งไม่หาประโยชน์ทรัพย์สินเงินทองจากนักเรียน หรือผู้ปกครองเลยสักนิด ครูที่นี่มีแต่คำว่าให้ ซึ่งพ่อ แม่ ต่างทราบซึ้งใจในจุดตรงนั้นด้วยครับ
จึงทำให้ผมรักที่นี่มาก ๆ รักครู รักน้อง ๆ และโรงเรียน มีอะไรที่น่าจะช่วยได้ และเป็นประโยชน์ ผมก็ไปด้วยความสมัครใจ
ผมก็ไม่ชอบผู้ใหญ่ ที่ดูถูก โรงเรียนบ้านตลาดเหนือฯ หรือโรงเรียนอื่นๆ ที่เขาด้อยพัฒนากว่าโรงเรียนบ้านตลาดเหนือฯ ฯ นะและก็ถามเขาไปโดยไม่แสดงตัวว่าผมเคยเป็นศิษย์เก่าที่นี่ ว่า... ถ้าพ่อแม่ให้คุณเรียนที่นี่ละ จนคุณหลงรักทีแห่งนี้ เมื่อมีคนมาว่าทำนองนี้ คุณจะปกป้องไหม และที่นี่ก็ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน ไม่ใช่โรงเรียนประจำจังหวัด ไม่ใช่โรงเรียนประจำอำเภอ ไม่ใช่โรงเรียนโครงการพิเศษ จะให้มันเน๊ยบ เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างมันตองใช้งบประมาณ จะดี ไม่ดีอยู่ที่ตรงนี้หรือ..?
ปัจจุบันโรงเรียนได้รับการถ่ายโอนมาเป็นโรงเรียนในสังกัด
องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต หรือ ( อบจ. )
และเปลี่ยนชื่อมาเป็น
โรงเรียน อบจ. บ้านตลาดเหนือ (วันครู 2502)
ซึ่งตอนนี้ จัดเป็นโรงเรียนที่ทุกคนพูดถึงกันมากที่สุด ในเรื่อง
- งบประมาณที่สูงปีละ 100 กว่าล้าน ซึ่งงบสูงกว่าโรงเรียนอื่น ๆ ในจังหวัดภูเก็ต
- วิทยาศาสตร์ที่มาเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด
- อาคารเรียนที่ออกแบบ ทันสมัยที่สุด
* ตอนนี้เราไม่ห่วงและไม่กลัวแล้วครับว่า ใครจะมาดูถูก หรือสบประหม่าโรงเรียนที่เก่า และรักที่สุดของผม
สังกัดเทศบาลที่ทุกคนนิยมชมยอ แต่ตอนนี้ใยเล่ากลับมาสนใจ ในคำว่าโรงเรียนใสงกัด อบจ. และ
โรงเรียน อบจ. บ้านตลาดเหนือ ( วันครู 2502 )ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต แต่ไม่ใช่สังกัดเทศบาลนครภูก็ต
หนูอยู่ ร.ร.นี้มาตั้งแต่อนุบาล 1/1 ครูประจำชั้นคือ ครูเกษร
อนุบาล1/2 ครูประจำชั้นคือ ครูเกษร ป.1/2 ครูประจำชั้นคือ
ครู พูนทรัพย์ โหราพงค์ ครูประจำชั้นคือ ป.2/2ครู ปิยะวรรณ
นุ่นขาว ป.3/2 ครูประจำชั้นคือ ครูมลิวัลย์ พ่วงบุตร ป.4/1ครู
ประจำชั้นคือ ครูวรรณณา แรงกล้า ป.5/1 ครูประจำชั้นคือ ครู
คชษร เยาว์ดำ และตอนนี้หนูก็อยู่ป.5แล้ว คุณครูประจำชั้นหรือ
คุณครูที่สอนทุกวิชาหนูก็รักครูนะค่ะ เดี๋ยวนี้ ร.ร.ก็มีอาคารใหม่
แล้วสวยมากเลยค่ะอยากขึ้นไปเรียนจัง แต่คุณครูบอกว่าเขาให้
พี่มัธยมเรียนกันเลยอดได้เรียนห้องใหม่เลยแต่ไม่เป็นไรเพราะ
หนูโตขึ้นหนูจะอยู่ร.ร.นี้ถึง ม.6 ( แต่พ่อกับแม่จะให้ย้ายไป ร.ร.
อื่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ม.1อาจจะย้ายก็ได้ ) แต่ถ้าหนูย้ายจริงๆหนู
จะไม่ลืม ร.ร.นี้เลย ( สำหรับคนที่อ่านข้อความนี้ถ้าอยากจะเข้า
ร.ร.หนูก็มาได้เลยนะค่ะเพราะ ไม่ต้องเสียค่าเทอม เสียแต่สมุด
หนังสือ เสื้อพละ เสื้อนักเรียน เสื้อนักเรียนจะเป็นเสื้อปักชื่อด้าน
ซ้าย เขียนข่างบนว่า อบจ.ลงมาอีกก็ปักว่า ต.น. ล่างสุดเขียน
ชื่อของนักเรียนนะค่ะ ) สุดท้ายนี้หนูขอลานะค่ะแล้วจะส่งมาหาใหม่ค่ะ รักโรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ ( วันครู 2502 )
หนูก็เป็นหนึ่งคนที่เรียนอยู่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ ป.1 จนถึงม.5แล้ว
ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงของโรงเรียนไปมากๆ
แต่ก่อนจากที่เคยมีแค่อนุบาล1จนถึงม.3
พอโรงเรียนได้ย้ายสังกัดมาอยู่กับ อบจ.
ก็ทำให้การศึกษาและสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปมาก
ก็มีคนถามนะว่าทำไมถึงไม่ย้ายไปโรงเรียนที่ดังๆของจ.ภูเก็ต
แต่ถ้าคนที่รู้จักโรงเรียนนี้หรือที่เคยเรียนก็จะรู้
ว่าโรงเรียนนี้ไม่เหมือนที่อื่นๆ
ตรงที่ว่าครูทุกท่านจะใส่ใจนักเรียนมากๆ
จะดูแลแบบที่ว่าทุ่มเทกับนักเรียน
ไม่ใช่ว่าดีแต่สอนๆๆ แล้วก็จบกันไป
แต่ครูที่นี้ได้ทำหน้าที่ของความเป็นครูจริงๆๆ
เวลานักเรียนขาดก็จะคอยตามเด็กตลอด
แต่ที่คนข้างนอกดูว่าโรงเรียนนี้มีแต่นักเรียนที่ไม่ดี เกเร
อาจเป็นเพราะโรงเรียนอบจ.บ้านตลาดเหนือ เป้นโรงเรียนขยายโอกาส
เลยรับนักเรียนที่ไม่มีความพร้อมเท่าไรมาเรียน
โรงเรียนอื่นก็เอาแต่เด็กที่ดีๆไปหมด เลยอาจทำให้โรงเรียนนั้นมีชื่อเสียง
ตอนนี้โรงเรียนก็ได้สร้างอาคารใหม่ ซึ่งมี 5 ชั้น
และก็มีลิฟด้วยๆ สีอาคารก็สวย ต่อไปคงปรับปรุงอะไรอีกหลายๆอย่าง
สร้างเสร็จเมื่อไรจะเอารูปมาลงให้ดูค่ะ
และก็เป็นโรงเรียนเดียวในจังหวัดภูเก็ต ที่มีห้องอัจฉริยะ ที่หรูมากๆ
หนูดีใจมากเลยที่ได้เรียนในม.ปลายเป็นรุ่นแรก ถึงมันอาจจะมีนักเรียนน้อย
แต่ก็ภูมิใจที่คุณครูเอาใจใส่ได้ทุกคน
หนูขอขอบคุณครูประจำชั้นมาก ที่คอยช่วยเหลือพวกเรามาโดยตลอด
ที่ทุ่มเทกายและแรงใจเป็นที่ปรึกษาได้ดีมากๆเลย หนูประทับใจอาจารย์มากค่ะในเรื่อง
ของโครงงาน
ที่มาช่วยหนู ขนาดถึงที่ต้องกลับบ้านกันดึกๆ บางทีก็ต้องนอนค้างกันที่โรงเรียน
ทำให้หนูประสบความสำเร็จในวันนี้ บางทีก็ต้องทำให้อาจารย์เหนื่อยใจตลอด
แต่หนูก็จะตั้งใจเรียนและจะต้องทำความฝันของอาจารย์ให้ได้
นักเรียนทุกคนในห้องต้องติดมหาลัยทุกคนค่ะ
ขอบคุณโรงเรียนนี้มากที่ทำให้หนูมีวันนี้
และจะไม่ลืมอาจารย์ที่เคยสอนทุกท่านๆๆ
ต่อไปโรงเรียนนี้จะต้องเป้นโรงเรียนที่ดังแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต
แน่นอน โดยเน้นด้านวิทยาศาสตร์มาอันดับหนึ่ง