วันนี้ต้องย้ายที่นั่งเปลี่ยนเป็นทิศตรงกันข้าม รู้สึกไม่สบายอารมณ์เหมือนนั่งในทิศเดิม มุมเดิมที่ถนัด ทำให้การเรียนรู้ในวันนี้ต้องใช้พลังมากกว่าเดิม และพูดน้อยลงกว่าเดิม เลือกที่จะเป็นผู้ฟังมากกว่า
พวกเราได้ต้อนรับกระบวนกรที่มาช่วยกิจกรรมวันนี้อีก 2 ท่าน เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรที่มีชื่อเสียง แรกๆ เราไม่คุ้นเลย เพราะ 2 ท่านนี้มีความแตกต่างจากกระบวนกรชุดเดิม 3 ท่าน เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย มีพลังแฝงของการเป็นผู้บริหารระดับสูงติดมากับทั้งสองท่านนี้ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นอุปสรรคในการเปิดรับพอสมควร แต่ด้วยเป็นคนที่เรียนรู้อะไรต้องตั้งใจ ประกอบกับ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ทำให้เปิดใจรับเรื่องราวได้ดี
ช่วงแรกเป็นการเปิดวงสนทนาสามคน ให้พวกเรา reflect เหตุการณ์ และการเรียนรู้เมื่อวานตอนบ่าย กับตอนกลางคืน แล้วจึงกลับเข้ามาสรุปในวงใหญ่ร่วมกัน สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือ
พลังท่ามกลางความเงียบมีอานุภาพอย่างไร
กระบวนกรต้องสังเกตอารมณ์ ความรู้สึกของคนในวง ใครที่เฉาเราต้องช่วยกันชื่นชม ให้กำลังใจ ใครที่สะเทือนใจจากเรื่องเล่า เราต้องปล่อยให้เขาแสดงความเปราะบางออกมาด้วยความยอมรับ และค้ำจุน ให้ถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่เสียหาย
ในวงสนทนาต้องได้ทั้งสาระ และการมีส่วนร่วมของคนในวง โดยการมีส่วนร่วมไม่จำเป็นต้องแสดงออกโดยการพูด กระบวนกรมีหน้าที่ช่วยให้กลุ่มรู้ตัว โอบอุ้มพื้นที่ ไม่เป็นปฏิปักษ์ ไม่มีการพิพากษาตัดสินถูกผิด
***************************************************************
หัวข้อที่รับรู้จากกระบวนกรที่เพิ่งมาในวันนี้ ทำให้รู้จักตัวตน เพื่อให้ดูแลตัวเองด้วยความเข้าใจก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น โดยฝึกฟังเสียงที่อยู่ภายในตัวตนของเราเอง อาจมีหลายเสียง หรือมีเสียงที่เราไม่เคยคุ้น เราเคยสงสัยหรือไม่ ตัวเรามาจากไหน ทำไมเราคิด หรือทำแบบที่เราเป็นอย่างทุกวันนี้
เปรียบเทียบชีวิตทุกคนเกิดมามีไพ่ 52 ใบเท่ากัน แต่เราเลือกไพ่บางใบไว้ เป็นตัวตนปัจจุบันของเรา (Primary Self) แล้วเราทิ้งไพ่บางใบออกไป เพราะการบ่มเพาะเลี้ยงดูจากสังคมครอบครัว โรงเรียน หมู่เพื่อนที่คบหา
นอกจากนั้นตอนบ่ายวันนี้ ได้รู้จักผู้นำสี่ทิศ จากการวิเคราะห์ส่วนตัว และการพูดคุย แบ่งปันความเป็นตัวตนให้คนอื่นรู้จักเรามากขึ้น ว่าเราเป็นเหมือนทิศไหน ทิศเหนือ-กระทิง นักสู้ผู้ชิต ทิศใต้-หนู ผู้ประสาน ทิศตะวันออก-อินทรี ช่างจินตนาการ ทิศตะวันตก-หมี วางแผนต้องชัดเจน จริงๆ แล้วไม่มีการแบ่งแยกอย่างเด็ดขาดว่าเราเป็นแบบเดียว มันสามารถปรับเปลี่ยนได้แล้วแต่สถานการณ์
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ช่วงกลางคืน ทำให้เรามองเห็นศักยภาพบางอย่างที่เราทิ้งไป (Disowned Self) ที่อาจจะเป็นประโยชน์กับสถานการณ์ชีวิตที่ยากลำบากในบางช่วง เรามองเห็นตัวตนมากขึ้นจนเกิดความกังวลที่จะยอมรับคุณสมบัติต่างๆ ที่เราทิ้งออกไปแล้วให้นำกลับมาใช้ในบางครั้งได้ แต่มีเพื่อนบางคนในวงเขาบอกว่า เขาอยู่กับตัวเองได้ และยอมรับตัวเองได้ทั้งในด้านมืดและด้านสว่าง เคยใช้ด้านมืดในบางสถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอด
จากกิจกรรมช่วงกลางคืนได้ข้อคิดว่า เรามักปฏิเสธด้านมืดของตัวเรา และใครก็ตามที่มีคุณสมบัติตรงกับด้านมืดของเรา เราจะไม่เปิดใจรับฟังเสียงของเขา คำพูด หรือการสื่อสารของเขาเลย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการทำงานของเราก็ได้
Key Learning : Deep Self-Understanding & Know how to deal with ourselves & others.
Challenge : To constantly maintain our "Sati" and avoid our " Inner Bias"
Dear KP
Thank you for your reflection after reading my story. Human should maintain mindfulness to overcome his own thoughts.