รถไฟ เจ้าชายน้อย และ ผู้หญิง...อย่างฉัน


"ดูผู้คนช่างรีบร้อนกันจัง พวกเขากำลังตามหาอะไรหรือ" เจ้าชายน้อยถาม

รถไฟ ....

ได้เดินทางโดยรถไฟอีกครั้ง ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร 

เพราะฉันเองก็ใช้บริการของการรถไฟอยู่บ่อย ๆ แต่เหมือนจะไม่ค่อยคุ้นเคย อย่างเช่นทุกที

เนื่องจากครั้งนี้เป็นการเดินทางตอนที่พระอาทิตย์ยังขึ้นอยู่

ช่วงปีหลังนี้  การเดินทางที่  รวดเร็ว อย่างเครื่องบิน  พาฉันล่องใต้แทบทุกครั้ง 

เลยไม่ได้สัมผัส บรรยากาศของรถไฟ และผู้คนที่โดยสารร่วมขบวนมาด้วยเลย 

 

เจ้าชายน้อย...

 หนังสือที่หยิบติดมือมาจากบ้านพี่ชาย  ไว้อ่านในระยะเวลา 7 ชั่วโมง 

บนรถไฟสาย กรุงเทพ -สุรินทร์ อ่าน  หลับ  อ่าน  และก็ หลับ สลับกันไป  สุดท้ายก็จบเล่มลงจนได้  ก่อนถึงจุดหมายปลายทาง

 "ดูผู้คนช่างรีบร้อนกันจัง  พวกเขากำลังตามหาอะไรหรือ"  เจ้าชายน้อยถาม

"แม้แต่คนขับหัวรถจักรเองก็ไม่เคยใส่ใจอยากจะรู้หรอก"  พนักงานสับรางรถไฟตอบ

ผู้หญิง...อย่างฉัน...

"ลงไหนหรือครับ"  ผู้ชายวัยกลางคน  ที่นั่งอยู่เก้าอี้ติดหน้าต่างถัดไปจากฉัน ในมือมีหนังสือกฏหมายและกระดาษลายมือขยุกขยิกหลายหน้า  ทักฉันด้วยสำเนียงแปร่ง ๆ คุ้นหู

"ลงสุรินทร์ค่ะ"  ฉันตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มแบบง่วงนอน หลังจากรถออกจากเมืองหลวงมาได้สักพัก หลับไป หนึ่งงีบ และอ่านหนังสือไปได้ 2 หน้า

"มาเรียนหรือครับ" ผู้ชายคนนั้นถามอีกครั้ง

"เปล่า ค่ะ  ทำงานแล้วค่ะ" ฉันยิ้มตอบ  พร้อมนึกในใจว่า  อายุฉันมันจะจะย่างเข้าเลข 3  ใน อีก ไม่ถึง 400  วันข้างหน้าแล้วนะคะ

"อ้าวหรือครับ  บ้านอยู่สุรินทร์หรือครับ" 

 "เปล่าค่ะ  เป็นคนใต้ค่ะ  บ้านอยู่ปัตตานี" ฉันตอบปฏิเสธไป  และลังเลนิดนึงที่จะบอก ถิ่นกำเนิด 

 นั่นเป็นเพราะฉันเคยเจอ หลากหลายอารมณ์ เมื่อฉันบอกว่า ฉันเป็นคนปัตตานี  จากคำถามของคนที่สงสัยใคร่รู้  ทั้งเป็นห่วง เห็นใจ สงสาร  โกรธเกลียด  ชิงชัง หวาดกลัว จนฉันเองรู้สึกอึดอัดใจที่จะบอก แหล่งที่มาของตนเอง

"ดีครับ  ผมก็เป็นคนใต้เหมือนกัน  คนพัทลุง"  ชายคนนั้นยิ้มตอบ 

หลังจากนั้นเราก็เปลี่ยนมาแหลงใต้กัน   

ตลอดเส้นทางรถไฟสายอีสาน ..ใต้ เรื่องราวชีวิตบางตอน ถูกถ่ายทอดผ่านสำเนียงใต้  แข่งกับเสียง ล้อรถจักรที่พุ่งทะยานไปบนรางรถไฟ พาแต่ละคนไปตามเป้าหมายชีวิตของตนเอง

ก่อนถึงปลายทาง  ชายวัยกลางคน ภายหลังถึงรู้ว่าเป็นทนาย ซึ่งตอนหลังแทนตัวเองกับฉันว่าลุง ให้ นามบัตรฉันไว้ พร้อมเบอร์โทร

"กิ๋นเหนียว ต๋อได๋  บอกกันนะ" 

แปลเป็นภาษากลางว่า  "แต่งงานเมื่อไหร่บอกด้วยนะ"

และลงท้ายด้วยว่า "แต่คงจะอีกนานแหละ  ลุงดูจากลักษณะคนแล้ว"  555

ฉันยิ้มตอบ  บอกขอบคุณ และไม่ได้ พูดอะไรต่อเกี่ยวกับงาน  "กินเหนียว"

ได้แต่นึกกับตัวเองในใจว่า  "อืม  นี่แหละ  ผู้หญิง .... อย่างฉัน"

ถึงสุรินทร์แล้ว

ฉันอ่านเจ้าชายน้อยจบเล่ม

ฉันได้เพื่อนใหม่ หนึ่งคน โดยไม่ต้องถามอายุ ครอบครัว พี่น้อง และอาชีพ

ฉันยังคงต้องไปตามเป้าหมายของฉันต่อ  เหมือนคนที่เหลือบนขบวนรถไฟ ที่ต้องไปตามเป้าหมายของตนเองเช่นกัน

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องทั่วไป
หมายเลขบันทึก: 167090เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2008 13:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท