จากโครงการรณรงค์ทำความดีเพื่อพ่อของศูนย์คุณธรรม ร่วมกับ สบร.และสำนักนายกฯ ที่ได้ดำเนินการเปิดโครงการในวันที่ 23 ก.พ.51 โดยมีแนวคิดส่งเสริม/ปลูกฝังเยาวชนและประชาชนชาวไทยทุกคนให้มีการนำคุณธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ดิฉันได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงานในการเปิดโครงการ ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์มาก ๆ จึงขอนำสาระที่ได้มาฝากค่ะ
ท่าน พล.อ.อ. วีรวิท คงศักดิ์ ที่ปรึกษาศูนย์คุณธรรมได้กล่าวถึง 8 คุณธรรมที่จำเป็น ที่เยาวชนและคนไทยทุกคน ควรนำมาใช้ในการดำรงชีวิต โดยท่านแบ่งเป็นคุณธรรมที่ควรสร้างให้เกิดขึ้นในตัวเราก่อน 3 คุณธรรมได้แก่
1. ขยัน เยาวชนทุกคนต้องมีความขยันหมั่นเพียร มุ่งมันตั้งใจในสิ่งที่เราทำ โดยดูจากในหลวงของพวกเราเป็นแบบอย่าง ในหลวงท่านทรงทำงานหนักมากที่สุดตลอดระยะเวลา 60 ปีแห่งการครองราช ท่านรู้จักประเทศไทยทุกซอกทุกมุม ท่านเสด็จในทุกพื้นที่ของประเทศโดยไม่ทรงรู้สึกเหน็ดเหนื่อย สิ่งเดียวที่ท่านปรารถนาคือให้ประชาชนทุกคนของท่านมีความสุข
2. ประหยัด ทำให้สำเร็จด้วยความประหยัด เยาวชนทุกคนควรนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง คือรู้จักประหยัดอย่างพอเพียง มีเหตุมีผลและรู้จักที่จะสร้างภูมิค้มกันให้กับตนเองมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่าง
3. ซื่อสัตย์ เป็นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง และผู้อื่น ต้องเริ่มที่ตัวเรา ถ้าวันนี้ผู้ใหญ่ยังไม่เป็นอย่างความซื่อสัตย์ให้เยาวชนได้เห็น เราจะเห็นความซื่อสัตย์ของคนไทยในอนาคตได้อย่างไร อย่างไรก็ตามความซื่อสัตย์นั้นให้เริ่มที่ตัวเราก่อน เยาวชนทุกคนต้องสร้างจิตสำนึกความซื่อสัตย์ให้เกิดในตัวเราให้จงได้
นอกจากนี้ยังมีคุณธรรมอีก 5 ประการที่จะเป็นตัวช่วยให้เราทุกคนไปอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมได้อย่างมีความสุข คุณธรรมดังกล่าวประกอบด้วย
1. มีวินัย การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข วินัยเป็นตัวช่วยในการจัดระเบียบของสังคม เราต้องรักษากฏกติกามารยาท
2. สุภาพ ความสุถาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน นับเป็นสิ่งที่เยาวชนไทยทุกคนพึงมีพึงปฏิบัติให้เป็นนิสัย
3. สามัคคี อยู่ร่วมกันต้องรักกันสามัคคีกัน รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน หนักนิดเบาหน่อยควรอภัยให้กัน รู้จักนำแนวคิด รู้ รัก สามัคคี ของในหลวงมาเป็นแนวทางดำรงชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
4. มีน้ำใจ มีจิตอาสา พร้อมที่ช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเรา
5. กตัญญู ต่อบิดามารดา และกตัญญูต่อแผ่นดิน รักชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์
ท่านพลตรีจำลอง ศรีเมือง อีกหนึ่งในที่ปรึกษา ฯ ศูนย์คุณธรรม กล่าวถึงแนวคิดที่ในหลวงพระราชทานในวันที่ทำการเสด็จไปเปิดบึงมักกะสันเมื่อปี 8 มิ.ย. 2530 ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 60 ปี ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสว่า "...บุญ คือประโยชน์ วันนี้เป็นวันที่เรามาร่วมกันทำประโยชน์นั่นคือมาร่วมกันทำบุญ..." โครงการรณรงค์การทำความดีในครั้งนี้จึงเป็นโครงการร่วมกันทำประโยชน์ ซึ่งไม่ใช่เป็นประโยชน์แค่วันนี้ เเต่เป็นประโยชน์ที่จะสืบเนื่องไปสู่อนาคต ซึ่งต้องอาศัยเวลาและความอดทน โดยเยาวชนของเราช่วยกันสร้างมากขึ้น ๆ นั่นคือวันนี้พวกเรามาร่วมกันทำบุญนั่นเองค่ะ
โดยท่านพลตรีจำลอง ศรีเมือง เน้นว่า เก่งต้องคู่ความดี เยาวชนของเราเก่งเเล้วเห็นได้จากการแข่งขันความรู้ในโอลิมปิกจะเลิศ แสดงว่าเยาวชนเราเก่งแล้วแต่เรายังสู้เขาไม่ได้ ในเรื่องความดี หลายประเทศที่เจริญกว่าเราเพราะเขาเอาความดีนำหน้าความเก่ง วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอาความดีนำหน้าความเก่ง โดยใช้คุณธรรมทั้ง 8 ประการนั่นเอง
คุณลิขิต เพชรสว่าง กรรมการอาวุโสศูนย์คุณธรรมฯ ชี้ถึงประเด็นหน้าที่พลเมืองดี ซึ่งนับเป็นระเบียบวินัยที่กำกับคนในประเทศ โดยตั้งคำถามว่า ทุกวันนี้เราทำหน้าที่พลเมืองดีเเล้วหรือยัง ไม่ว่าจะเป็น
- การอบรมเลี้ยงดูให้ความอบอุ่นกับลูกซึ่งเป็นหน้าที่ของพ่อแม่
- การเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งเป็นหน้าที่ที่เราต้องปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการเสียภาษี การเคารพกฏจราจร การไปทำหน้าที่เลือก สส. สว. เป็นต้น
ขอให้เรามาร่วมทำความดีถวายในหลวงโดยการทำหน้าที่พลเมืองดี ถวายในหลวง ดังคำของพระองค์ท่านที่ว่า "...เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดี แต่หาคนดีมาปกครองบ้านเมือง..." เริ่มที่เรา
ท่าน ดร.เสรี วงศ์มณฑา ท่านได้รับเชิญมาบรรยายพิเศษในโอกาสนี้ด้วย ท่านได้สรุปประเด็น วินัย 1 ในคุณธรรม ว่าการทำดีมี 3 ระดับ
o ทำดีเพราะกลัวการถูกลงโทษ แต่ยังไม่ละอายต่อการทำชั่ว มีแค่โอตะปะ
o ทำดีเพราะพวกมากลากไป ไม่กล้าทำชั่วเพราะอาย เเต่ถ้าคนส่วนใหญ่ทำชั่วก็จะทำตาม
o ทำดีเพราะมีวินัย ทำดีจากส่วนลึกของหัวใจ ตระหนักว่าต้องทำความดี จากมโนสำนึก หรือจิตสำนึกของตนเอง ไม่ต้องเอากฎระเบียบมาขู่มากำกับแต่ใช้ใจกำกับ เป็นหิริ ใจให้เราทำความดีให้เพียงพอ ให้สมเป็นคนดีของสังคม
นอกจากนี้ท่านให้แนวคิดที่สำคัญประการหนึ่งว่า บ้านเมืองของเรานั้นมีกฏระเบียบ มีวินัย และมีจารีต ศิลธรรมประเพณี เป็นกรอบให้ทุกคนปฏิบัติเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข การปฏิบัติตามกฏระเบียบวินัยเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ ในฐานะของเยาวชนพึงระลึกไว้เสมอว่าเราต้องอยู่ในกรอบจารีต ศิลธรรม ประเพณีอันดีงามของไทยด้วย บ้านเมืองของเราจึงจะร่มเย็นเป็นสุข
ในฐานะของการเป็นคนไทยคนหนึ่ง ดิฉันมีความคิดว่า เราในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ควรเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนไทย เริ่มจากตัวเราต้องมีคุณธรรมอย่างน้อย 8 ประการดังกล่าวข้างต้น และเริ่มต้นจากสังคมเล็กที่สุดคือในครอบครัวของเราก่อนโดยเราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุตรหลาน จากสังคมเล็ก ๆ ขยายสู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือ ครู/อาจารย์ก็ต้องมีคุณธรรมเป็นอย่างแก่เยาวชน หัวหน้า/ผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีคุณธรรมเป็นแบบอย่างแก่ลูกน้อง/ผู้ใต้บังคัญชา ผู้บริหารบ้านเมืองก็ต้องมีคุณธรรมเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนทุกคน เพียงเราทุกคนเงยหน้าขึ้นดูในหลวงของพวกเรา ท่านเป็นผู้ที่อุดมไปด้วยคุณธรรมจริยธรรม ยอดกตัญญูที่สุด เห็นภาพท่านผูกเชือกรองเท้าให้สมเด็จย่าทีไรเป็นปลื้มใจทุกที ไฉนเราคนไทยทุกคนจึงไม่นำท่านมาเป็นแบบอย่าง มาวันนี้เราทุกคนควรหันหน้าเข้าหากันร่วมกัน "ทำดีเพื่อพ่อ" ให้พ่อของเราได้ชื่นใจนะคะ เริ่มวันนี้ เริ่มที่ตัวเรา "ความดีต้องเพียงพอ ชีวิตต้องพอเพียง" ค่ะ
รักในหลวงจังเลย
....................................
สวัสดีค่ะ คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางการศึกษา ได้เผยแพร่ รณรงค์ ให้เด็กๆ ได้ถือปฏิบัติ