สวัสดีคะเพื่อนวัยทำงานผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี และที่กำลังจะมาถึงคือการเลือกตั้ง สว. ในวันที่ 2 มีนาคม 2551 ขอเชิญชวนเพื่อนวัยทำงานทุกท่านไปใช้สิทธิ์กันอีกครั้งหนึ่งคะ
วันนี้อั้มมีวิธีการเลือกซื้อ LCD Monitor (จอแอลซีดี) มาฝากกันคะ ต้องยอมรับกันว่าช่วงระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา จอแอลซีดีได้รับความนิยมมากขึ้นทุกขณะดังนั้นการเลือกใช้ให้เหมาะสม การเลือกซื้อซึ่งมีหลายๆ ปัจจัยให้เราได้พิจารณากัน ไม่ว่าจะเป็น ราคาอันนี้ต้องอันดับต้นๆ เลยจริงมั้ยคะ ขนาด เทคโนโลยี พอร์ตต่อพ่วง ที่ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เอาหละขออนุญาตบอกรายละเอียดคร่าวๆ ที่เวลาช่างคอมพ์เค้าเลือกซื้อจอแอลซีดี เค้าพิจารณาจากอะไรกันบ้างนะคะ
รูปลักษณ์และความสวยงาม
คงปฏิเสธไม่ไดว่าหลายครั้งที่เรามักจะให้ความรู้สึกในเรื่องรูปลักษณ์เหนือกว่าประสิทธิภาพที่จะได้รบ เช่นเดียวกับจอแอลซีดีก็เช่นกันคะ ที่ผู้ใช้มักจะเอาความสวยงามมาเป็นตัวเปรียบเทียบแต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดเสียทีเดียวนะคะ เพราะเรื่องของดีไซน์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน... โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ต้องสัมผัสและพบเจอในการใช้งานอยู่ทุกวัน หากไม่สวยโดนใจหรือไม่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านมันก็คงดูขัดตาพิกล (คุมโทน)
นอกจากนี้เรื่องของการออกแบบก็ยังรวมไปถึงฟังก์ชันสำหรับการใช้งานต่างๆ เช่นผู้ที่นำไปใช้ในการพรีเซนเทชันอาจเลือกเป็นจอที่ปรับมุมมองซ้าย-ขวาหรือก้มเงยได้สะดวก หรือบางคนอาจต้องการขนาดที่บางเพื่อที่จะจัดวางหรือเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งบางครั้งด้านขอบจอที่บางก็ทำให้หลายคนชอบเช่นกัน ในกรณีที่ใช้จอสองตัวในการเล่นเกมหรือทำงานกราฟิก ซึ่งถ้าเป็นรูปแบบเหล่านี้ ก็นำมาใช้ในการพิจารณาได้ดีทีเดียว
ความละเอียด (Resolution)
คงเคยเห็นบ่อยๆ นะคะสำหรับ Resolution ที่มักจะต่อท้ายรายละเอียดของรุ่นต่างๆ ของจอแอลซีดี จะได้รู้กันละคะว่าปกติแล้ว Resolution ของจอแอลซีดีปกติแล้วมีความละเอียดเท่าไหร่ ความละเอียดส่วนใหญ่ถูกกำหนดด้วยขนาดของจออยู่แล้ว เช่น จอขนาดเล็ก 15 นิ้ว ก็จะให้ความละเอียดที่ 1024x768 แต่ถ้าเป็น 22 นิ้ว จะอยู่ที่ 1680x1050 ซึ่งการจะเลือกใช้ ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการทำงานไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกม ชมภาพยนตร์ งานเอกสาร ตัดต่อ กราฟิกก็ล้นแต่มีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป
ขนาดหน้าจอและความละเอียดของ จอแอลซีดี ที่พบกันบ่อยในตลาด
Panel |
Resolution |
15” |
1024x768 |
17” |
1280x1024 |
17”(Wide-screen) |
1280x720 |
19” |
1280x1024 |
19”(Wide-screen) |
1440x900 |
20” |
1600x1200 |
20”(Wide-screen) |
1680x1050 |
22”(Wide-screen) |
1680x1050 |
24”(Wide-screen) |
1920x1200 |
จอธรรมดาหรือจอกระจก
เรื่องของหน้าจอแสดงผล ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่หลายคนนำมาใช้ในการเลือกซื้อ จอแอลซีดีด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบจอแบบเคลือบเงาหรือที่เรียกว่า “จอกระจก” จอแบบดังกล่าวนี้ มีคุณสมบัติที่ดีในการชมภาพยนตร์และเล่นเกม เนื่องจากให้สีสันที่สดใสและแสงที่สว่าง จึงมักได้รับความนิยมหมู่คนที่ชอบความบันเทิงเป็นหลัก แต่แน่นอนคะราคาก็ต้องสูงขึ้นไปด้วยอย่างแน่นอนส่วนอีกแบบหนึ่งเป็นจอธรรมดา คุณสมบัติที่ดีอยู่ที่การให้ความคมชัดที่สูงไม่เน้นที่ความสว่างมากนัก จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานอยู่หน้าจอเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้ยังไม่มีการสะท้อนรบกวนของแสงเช่นเดียวกับจอกระจก ที่แม้จะมีการโค๊ตติ้งมาแล้วก็ตาม อีกทั้งจอแบบดังกล่าวยังมีราคาที่ไม่สูงอีกด้วย ทั้งสองแบบนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ส่วนการจะเลือกแบบใดนั้นให้ดูที่ความต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก
Response Time สำคัญเพียงใด
เป็นอัตราความเร็วในการตอบสนองของเม็ดสี ในการเปลี่ยนสีจากดำมาเป็นขาวแล้วกลับเป็นดำ (B/W) หรือบางครั้งอาจเป็นจากสีเทามาเป็นเทา (G/G) โดยการบอกเวลาเป็นวินาทีซึ่งตัวเลขยิ่งน้อย ก็จะส่งผลให้การแสดงภาพมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากตัวเลขมากหรือช้า อาจเกิดอาการที่เรียกว่าภาพซ้อนหรือ Ghost เกิดขึ้น จนทำให้การเล่นเกมหรือการชมภาพยนตร์เสียอรรถรสไป ดังนั้นการเลือกซื้อปัจจุบันควรจะอยู่ที่ 2-8 ms โดยประมาณ !!
Contrast Ratio
ค่า Contrast Ratio เป็นค่าที่นำมาใช้ในการวัดอัตราส่วนของความสว่างและความมืด ว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะส่งผลต่อความคมชัด สมจริงที่เกิดขึ้นในภาวะแสงต่างๆ การเลือกให้ดูตัวเลขที่สูงเป็นหลัก โดยปัจจุบันมีให้เลือกตั้งแต่ 500 : 1, 700 : 1 , 1000 : 1 ไปจนถึงบางค่ายมีให้เลือกถึง 5000 : 1 ซึ่งก็แล้วแต่การวัดว่าเป็นแบบ Native หรือ Dynamic
พอร์ต D-Sub DVI, HDMI
ในส่วนของพอร์ตแสดงผล หากเป็นไปได้ควรเลือกจอที่มีพอร์ตแบบ DVI มาให้หรือมี 2 แบบคือทั้ง D-Sub และ DVI เนื่องจากปัจจุบัน แม้ว่าการแสดงผลจะยังมีพอร์ต D-Sub ให้ใช้อยู่ก็ตาม แต่แนวโน้มในไม่ช้ากราฟิกการ์ดจอรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมานั้น จะมีแต่พอร์ตที่เป็น DVI เป็นส่วนใหญ่ค่ะ ซึ่งการ์ดหลายรุ่นจะเป็นแบบ Dual DVI อีกด้วยจึงไม่จำเป็นต้องหาตัวแปลงสัญญาณมาใช้ นอกจากนี้ DVI ยังให้สัญญาณที่นิ่งกว่า เนื่องจากไม่ต้องแปลงจากดิจิตอลเป็นอะนาล็อกไปมาอีกด้วยค่า
การรับประกัน
ประกัน Dot หรือ Dead pixels ให้สอบถามจากทางร้านให้ละเอียดครบถ้วน ทั้งในเรื่องของจำนวน Dot ที่เสีย จำนวนเท่าใดเคลมได้ หรือมากกี่จุดถึงยอมให้เปลี่ยนตัวใหม่ ซึ่งคงต้องขอความชัดเจนให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในขั้นตอนของการขอเคลม (จดชื่อคนที่ติดต่อไว้ด้วยก็ได้นะคะ) จึงค่อยนำออกจากร้าน
การตรวจสอบ Dead หรือ Hot Pixel ก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด ส่วนใหญ่ทางร้านจะมีการทดสอบให้อยู่แล้ว ถ้าไม่มีโปรแกรมสำหรับการตรวจสอบโดยตรง อานใช้วิธีเบื้องต้นในการทดสอบง่ายๆ โดยเปลี่ยนสีหน้าจอเดสก์ทอปให้เป็นสีขาว เหลือง แดง น้ำเงิน และดำ ทีละสีแล้วกวาดสายตาไปให้ทั่วๆ จนแน่ใจว่าไม่มีจุดสีที่แปลกเด่นขึ้นมา ทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน หลังจากนั้นให้ปรับค่า Default ของหน้าจอให้เป็นแบบมาตรฐาน ดูว่ามีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น ขอบของจอผิดเพี้ยน ความสว่างไม่เท่ากันหรืออื่นๆ เพื่อที่จะได้แจ้งกับทางร้านเค้าได้ทันที
เสียเวลาเพิ่มอีกนิดหน่อยนะคะเผื่อว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับสินค้าเราจะได้ไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขคะ
ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก IT@BIBLE จากนิตยสาร COMPUTER.TODAY
ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
แวะมาอ่านครับ คอมพ์ที่ทำงานก็ใช้จอ LCD เลยแวะมาดูได้ความรู้ดีจังครับ
รับความรู้ครับ ... :)
ขอบคุณคะ ที่แวะมาให้กำลังใจ
ขอขอบคุณ ครับ
กำลังจะซื้อจอLCDค่ะ อยากได้ขนาด๑๗นิ้ว แค่ใช้เช็คเมล์และเล่นเกมส์นิดหน่อย ควรไปหาที่ไหนดีคะ