ครั้งแรกสำหรับผม ที่จบดอกเตอร์มาครบหนึ่งปีกว่าๆ แต่ยังไม่มีโอกาสได้สอนเป็นภาษาอังกฤษเลย งานส่วนใหญ่คือ การเตรียมหลักสูตรสำหรับนศ. กิจกรรมบำบัด ป. ตรี
แต่ใน Job Description ของผม คือ การทำหน้าที่สอนนศ. ป. โท และ เอก สาขากายภาพบำบัด ในหัวข้อที่เป็นศาสตร์ที่ผมสนใจหรือเชี่ยวชาญอยู่ ไม่จำเป็นต้องจำกัดให้ผมสอนเพียงแค่สาขากิจกรรมบำบัด
ผมไม่แน่ใจว่า หน่วยงานอื่นๆ ที่รับดอกเตอร์สาขาหนึ่ง แล้วให้ทำหน้าที่สอนเฉพาะสาขานั้นๆ หรือไม่
เพราะผมคิดว่า การที่อาจารย์ท่านหนึ่งจบดอกเตอร์มาย่อมมีความรู้ในสองมิติ ได้แก่ มิติของความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชา และมิติของความรอบรู้ในศาสตร์และการประยุกต์แบบสหวิชาชีพ
โชคดีที่ผมจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกับ ดร. คีรินทร์ แม้จะคนละสาขาวิชา แต่เรามีความคิดตรงกันว่า การเปิดใจแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างศาสตร์ต่างๆ ย่อมสร้างแนวคิดและองค์ความรู้ที่ประยุกต์ใช้ได้สมบูรณ์ที่สุด เพราะการระดมสมองของผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายย่อมสร้างกระบวนการจัดการความรู้ที่เหมาะสม...เปิดตา เปิดหู เปิดใจ และเปิดโอกาสของการเรียนรู้จากความรู้ในตัวตน (ซึ่งไม่จำเป็นต้องจำกัดเฉพาะสาขาวิชาใดๆ) สู่การแสดงความรู้อย่างเป็นรูปธรรม
ตัวอย่าง เช่น ผมสนใจในการจัดการความรู้ หรือ KM เพราะได้ร่ำเรียนกระบวนการเรียนรู้ ทักษะการให้เหตุผล และจัดการความรู้ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมบำบัดทางจิตสังคม ขณะที่ ดร. คีรินทร์ มีความเชี่ยวชาญด้านการยศาสตร์ หรือ Ergonomics
อาจารย์ท่านให้ผมสอนในหัวข้อ KM in Ergonomic Problems โดยให้ผมบรรยายเป็นภาษาอังกฤษแก่นักศึกษากายภาพบำบัด ป. เอก จำนวน 3 คน
ประสบการณ์ที่ผมได้รับคือ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับพี่ขจิต
รพ.อุดรธานี น่าจะมีเครือข่ายกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดอยู่นะครับ
หากเป็นเครือข่ายอยู่แล้ว ก็ถือว่ามีการเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แล้วครับ
หากยังไม่เป็น แนะนำให้ทางรพ. ติดต่อผมได้ครับพี่
คงเคยเห็นหน้ากันบ้างที่ MU. ตอนนี้กำลังสนใจทำงานวิจัย อาการปวดคอในคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ แล้วจะขอคำแนะนำจากอาจารย์นะคะ
ขอบคุณครับคุณอัญชลี ยินดีครับ