วัฒนธรรมข่าวร้าย
สังคมปัจจุบันถูกยัดเยียดข่าวร้ายโดยสื่อมวลชน สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวดีไม่เป็น หรือเชื่อว่าข่าวดีขายไม่ได้ ต้องข่าวร้ายจึงจะขายได้ สภาพสังคมเช่นนี้หล่อหลอมขยายพืชพันธุ์แห่งความชั่วร้ายในสัญชาตญาณของมนุษย์ โลกจะอยู่ไม่ได้ เราต้องการการขยายพืชพันธุ์แห่งความดีที่มีอยู่แล้วในตัวมนุษย์
วันนี้ ข่าว ๕.๐๐ น. ของวิทยุ เอฟเอ็ม ๑๐๐.๕ บอกว่าตำรวจไปตรวจหอพักใกล้ มรภ. นครราชสีมา พบว่าหอพัก ๓ แห่งสภาพไม่ปลอดภัย สายไฟเก่า ห้องพักแคบและการระบายอากาศไม่ดี ไม่มีใบอนุญาตให้บริการหอพัก นักศึกษาพักอยู่เป็นคู่ๆ หญิงชาย มีแต่ส่วนที่เป็นข่าวร้าย ข่าวกลางๆ ก็ไม่มี ไม่บอกว่าไปตรวจหอทั้งหมดกี่หอ ที่สภาพดี และอยู่กันเรียบร้อยมีกี่หอ ไม่บอกว่าหอที่มีนักศึกษาหญิงชายจับคู่อยู่กันนั้น มีทั้งหมดกี่ห้องจากกี่ห้อง ให้ข่าวคล้ายๆ นักศึกษาที่อยู่หอพักเป็นพวกจับคู่มั่วสุมทั้งหมด
นี่คือปัญหาระบบ และวัฒนธรรมของสื่อสารมวลชนไทย วงวิชาการสื่อสารมวลชนคิดอย่างไร
เรียนรู้จาก MSSRC
MSSRC = Mekong Sub-region Social Research Center คณะศิลปศาสตร์ มอบ. http://mssrc.la.ubu.ac.th
MSSRC Review 2000 – 2007 ISBN 978-974-523-169-6, Nov 2007 http://www.mssrc.la.ubu.ac.th/2006/page/MSSRC%20Review2000_2007Final.pdf
ผศ. ดร. สุชาดา ทวีสิทธิ์ คณบดีและประธาน
สนับสนุนโดย RF
เพื่อสนับสนุนนักศึกษาระดับปริญญาตรี และโท ด้านแม่โขงภูมิภาคศึกษา และจัดการศึกษาด้านภาษา จีน ลาว เขมร เวียดนาม
มีการวิจัยข้ามพรมแดน เรื่อง การท่องเที่ยว การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม sexuality, gender, migration, displacement, statelessness, health
GMSRC = Greater Mekong Sub-region Resource Center http://gmsrc.la.ubu.ac.th Quarterly Newsletter : Mekong Today
ข่าวคณะแพทย์
http://medinfo.psu.ac.th/mednews2
ปีที่ 26 ฉบับที่ 154 ประจำเดือนมกราคม 2551
ผมมีสิทธิ์ภูมิใจและปิติสุขทุกครั้งที่ได้รับจดหมายข่าวนี้ เพราะผมเป็นผู้ริเริ่มเมื่อ 26 ปีที่แล้ว นี่คือบุญเก่า
สงขลานครินทร์เวชสาร
ISSN 0125-8435 http://medinfo.psu.ac.th/smj2/smj/htm
นี่ก็บุญเก่า รศ. นพ. สุเมธ พีรวุฒิ กับผมเป็นผู้ริเริ่ม ได้เห็นฉบับปีที่ 26 ฉบับที่ 1 ม.ค. – ก.พ. 2551 ซึ่งออกตรงเวลาและบทความมีคุณภาพในระดับหนึ่ง แต่สงสัยว่าทำไมไม่ได้รับการยอมรับเข้าในรายชื่อวารสารวิชาการระดับชาติ ดูเกณฑ์ของคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนางานวิจัยของ สกอ. แล้ว เดาว่าคงไม่เข้าเกณฑ์ ในเกณฑ์ใช้ TCI ด้วย
มูลนิธิ สคส.
ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ ต่อด้วยการโค้ชวิธีทำงานโดย ศาสตราภิชานไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ
วัตถุประสงค์
1. สนับสนุนการดำเนินการของ สคส.
2. สร้างเสริมขีดความสามารถให้คนไทยในสังคมในทุกภาคส่วน ได้แก่ภาคประชาสังคม ภาคราชการ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ใช้ทุนทางปัญญาทั้งที่มีอยู่ดั้งเดิม และที่พัฒนาขึ้นเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างมีสติ และมีความสุข
3. ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างศักยภาพการเรียนรู้ การแบ่งปันความรู้ การพัฒนาต่อยอดความรู้ และการใช้กระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง พัฒนางาน พัฒนาองค์การและสังคม
4. เชื่อมโยงและส่งเสริมให้ภาคีเครือข่ายใช้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้พัฒนาสมรรถนะองค์กรหรือชุมชน จนเกิดเป็นเครือข่ายเรียนรู้ ภาคประชาสังคม ภาคราชการ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ที่ทรงพลัง เป็นการพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมอุดมปัญญาได้ในที่สุด
5. ดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์
6. ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
หัวใจของการประชุม
คุยกันเรื่องการทำงานสาธารณประโยชน์แบบหารายได้เลี้ยงตัวเอง ทำงานเชิงวิชาการหรือปัญญาให้แก่สังคมอย่างมืออาชีพ และมีความเป็นอยู่ดีพอสมควร แต่ไม่ใช่มุ่งแสวงหากำไรเอาไปแบ่งปันกัน จะนำเสนออุดมการณ์และวิธีทำงานต่อสังคมอย่างไร
คำตอบคือนำเสนอเชิงคุณค่า ไม่ใช้ภาษาเชิงมูลค่า
กิจกรรม
มีหน่วยงานที่ต้องการเรียนรู้ หรือฝึกทักษะด้าน KM ไม่น้อย
• Smart money : win – win
• เราทำเป็น และจัดทีมภายนอกได้ core competency
• งานที่ควรรับมากๆ และที่ไม่ควรรับ
ไม่ยึดมั่นนิยามที่หน่วยงานที่มาติดต่อยึดถือในเบื้องต้น แต่หวังความต่อเนื่องขององค์กรที่มาติดต่อเรา และดำเนินการ KM ต่อเนื่อง
ควรมีหลักสูตรเริ่มต้น เพื่อประเมินสภาพในองค์กร
ต้องมีตำรา และคู่มือปฏิบัติการ สำหรับหากิน ได้มาจากการเข้าไปทำงาน
ทักษะในการสร้าง continuous engagement / longterm relationship ของหน่วยงานที่มาใช้บริการ มีทักษะในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว และสร้างรายได้ไปตลอดทาง lifelong relationship ในขณะเดียวก็ selective ไม่ยัดเยียดสิ่งที่เขาไม่ต้องการ
มีรายชื่อ “ครูนอก” เอาไว้ส่งไปบางงานที่เหมาะสม
ไม่รังเกียจที่จะเข้าไปแก้มิจฉาทิฐิ ไซโลเลี่ยมทอง
Core value
มี regular show & share session ของมูลนิธิ เชิญหน่วยงานมาร่วม
มองหน่วยงานที่มารับบริการว่ามีพนักงานที่เป็น talented persons ที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์
Human Resource Management ของ สคส.
ให้สามารถดึงดูดคนดีคนเก่งมาทำงานได้ เป็นคนที่มีความภูมิใจ ดีใจที่ได้มาทำงานนี้ ทำกับกลุ่มคนเหล่านี้ แรงดึงดูดหลักไม่ใช่เงิน มีรายได้จากสื่อ/ทรัพย์สินทางปัญญา
เจ้าหน้าที่ประจำ + แขกรับเชิญเป็นครั้งคราว
เคล็ดลับการทำงาน
มี internal engine ที่ขับเคลื่อนตัวเองได้ มี platform ให้คนมา interact ข้าม function มองภาพรวมขององค์กร มากกว่ามองงานของตนเท่านั้น
ทำงานแบบเดินพลวัต หาทางให้เกิดการจัดการที่ถูกต้องต่อ KM ในหน่วยงานภาคี (ลูกค้า) ถ้าเกิดขึ้นได้ภายใน ๑ ปี ถือว่าสำเร็จ ระหว่างนั้นมีรายได้ product ของ สคส. คือ เลยการสร้างทักษะ KM ไปสู่ การจัดการที่ถูกต้อง ที่ทำให้เกิด KM Inside ในองค์กร สคส. ต้องจัดทำ “บันได ๑๐ ขั้นสู่ KM Inside ในองค์กร”
KM คือเครื่องมือเอาความรู้ไป manage ไม่ใช่เครื่องมือ manage ความรู้
มีวันมหากุศล ที่ภาคีเป็นผู้โชว์ ต่อไปจะเกิด corporate sponsors
อาจทำ KM Camp เยาวชน
ทำงานเป็น organizer
เน้นทักษะ communicator
ทำงานแบบ differentiate แยกแยะลูกค้า แยกแยะวิทยากร มีเวทีฝึกแยกแยะ ลปรร. การแยกแยะ ตอนฝึกผิดไม่เป็นไร พัฒนาทักษะด้านนี้
ใช้เวที workshop เป็นที่มองหา star performers เก็บไว้ใช้เป็นข้อมูลบอกผู้จัดการ เป็น product เล็กๆ อย่างหนึ่ง
อย่าลืม entertainment component มี showmanship มี script
คำแนะนำต่อ roadmap ที่เสนอ ให้โฟกัส ทำ learning by doing, learning and earning, learning by earning
เสนอ 2 choice ให้ลูกค้า
แทคติกการทำงานขาย โดยหาทางให้ size เป็นประเด็นเลือกแทน prize วิธีพูด วิธีวางสินค้า
งาน change the world งาน turn around ชาวนา ทำให้คนมี pride ถ้าคนไทยมี pride การซื้อเสียงจะไม่ได้ผล
บริษัท
ต่อไปอาจต้องคิดตั้งบริษัท ทำธุรกิจเพื่อสังคม อาศัยนิติบุคคลของบริษัทมาทำงานที่มูลนิธิทำไม่ได้ ที่ต้องการ maximum flexibility และ freedom ให้คนทำงาน และสนองภาคี (ลูกค้า) ได้ตรงใจเขา คล้ายๆ พีดีเอ ของคุณมีชัย
ไม่มีความเห็น