เขื่อน สาละวิน ต่อ


ผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง 250 คนอพยพเข้าชายแดนไทย พม่า

ศูนย์ข่าวสาละวิน                สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ผู้นำกลุ่มบรรเทาทุกข์ชาวกะเหรี่ยงเปิดเผยว่า ผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงกว่า 250 คนจากทางทิศตะวันออกของรัฐกะเหรี่ยงอพยพเข้าชายแดนไทย พม่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อหนีการบังคับย้ายถิ่นฐานจากทหารพม่า ทู เกล เลขาธิการสำนักงานพัฒนาและบรรเทาทุกข์ชนชาติกะเหรี่ยง ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย พม่ากล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยจำนวน 255 คนได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านสองแห่งใกล้ชายแดนไทย - พม่า โดยใช้เวลาเดินทางจากค่ายผู้ลี้ภัยอีตูถ่าริมฝั่งแม่น้ำสาละวินเขตพม่าเป็นเวลา 1 วัน 
ขณะนี้ ผู้พลัดถิ่นภายในทั้งหมดได้สร้างที่พักชั่วคราวในบริเวณที่เคยเป็นหมู่บ้านเพอเลอเดอและเลเตอโก โดยกลุ่มบรรเทาทุกข์ยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลือในเรื่องอาหารและสิ่งของจำเป็นอย่างอื่นได้ แต่ได้แจกจ่ายผ้าพลาสติกกันฝนในเบื้องต้น
นายทูเกลกล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านที่พลัดถิ่นเหล่านี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อขอลี้ภัยในค่ายอีตูถ่าซึ่งมีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่กว่า 4, 000 คน แต่พวกเขาก็ยังไม่ทราบว่าจะสามารถอาศัยอยู่ในหมู่บ้านได้นานแค่ไหนเนื่องจากเชื่อว่ากองทัพพม่าวางแผนที่จะทำลายหมู่บ้านของพวกเขาเหล่านั้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ผลัดถิ่นภายในต้องการอันดับแรกในตอนนี้ก็คือ ความปลอดภัยและอาหาร ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้พลัดถิ่นภายในจำนวน 4 ครอบครัวเดินทางมายังฝั่งแม่น้ำสาละวิน โดยทั้งสี่ครอบครัวนี้อพยพมาจากหมู่บ้านพลอเดอคี ทางตอนเหนือของรัฐกะเหรี่ยง พวกเขาถูกทหารพม่าบังคับให้ย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านตีมูถ่า แต่ทั้งหมดตัดสินใจหนีเข้าป่าเพราะกลัวว่าจะถูกทหารพม่าบังคับใช้แรงงาน เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวตั้งอยู่โดดเดี่ยวและห่างไกลจากหมู่บ้านอื่น กองทัพพม่าได้เปิดฉากโจมตีประชาชนทางตอนเหนือของรัฐกะเหรี่ยงและภาคพะโคเมื่อปลายปี 2548 นับตั้งแต่นั้นมา ทหารพม่าได้เผาทำลายบ้านเรือนของชาวบ้าน รวมถึงเข่นฆ่าในพื้นที่ไปแล้วกว่า 12 คน
ด้านกลุ่มบรรเทาทุกข์ฟรีเบอมาร์เรนเจอร์รายงานเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาว่า ในระหว่างปี 2549 ไปจนถึงต้นปี 2550 มีชาวกะเหรี่ยงถูกบังคับย้ายถิ่นฐานมากกว่า 30,000 คน ซึ่ง 6,000 คนจากจำนวนดังกล่าวได้เดินทางหนีเข้าไปยังชายแดนไทย พม่า ส่วนที่เหลือกว่า 24,000 คนอยู่ในระหว่างหลบหนีจากการโจมตีของทหารพม่า
ด้านชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยคนหนึ่งกล่าวกับกลุ่มฟรีเบอมาร์เรนเจอร์ว่า ถ้าหากทหารพม่ายังไม่หยุดกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง และถ้าหากเรายังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ในอนาคตข้างหน้าเมื่อคุณมาเยือนรัฐกะเหรี่ยง คุณอาจจะไม่สามารถพบเจอคนกะเหรี่ยงได้เลยสักคน ดังนั้นช่วยบอกให้คนในโลกโปรดช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงด้วย

   (ศูนย์ข่าวสาละวิน 5 กุมภาพันธ์ 2551)

  ...เริ่มแล้วครับ ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยมันเสมอ  ในที่สุดประวัติศาสตร์ ของ ชนกลุ่มน้อย ก็ซ้ำรอย อีกครั้ง โดย น้ำมือของ เผด็จการ ผู้ครอบครอง พม่า และไม่รู้ว่า ประวัติศาสตร์นี้ จะยาวนานแค่ใหน การอพยพย้ายถิ่น การถูกลุกราน ระเหเร่ร่อน การทารุณกรรม เยี่ยงสัตว์ ข่มขืน กระทำชำเรา   มันเป็นคำถามหลายสิบปีอาจจะเป็นร้อยๆปี มาแล้ว มนุษย์เหมือนกันแต่ทำไมได้รับการปฏิบัติไม่เหมือนกัน มนุษยธรรม จิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ มันหายไหน  ไม่มีใครตอบได้   และยังคงเป็นคำถามอีก หลายรุ่น หลาย ชั่วคน รอคำตอบ  มันคงไม่ได้รับคำตอบถ้า เผด็จการ ยังครอบครอง จิตใจของคนอยู ตราบใด ที่ประชาธิไตย ไม่เกิดขึ้นประเทศ   

"ขอให้สันติภาพ  จงมาสู่โลก"

   

หมายเลขบันทึก: 164098เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2008 10:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2012 13:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอให้ความยุติธรรมเกิดกับบ้านเรานะครับผม...

 

 

www.besttiphealthy.com

สวัสดี คุณต้นน้ำครับ

  • ผมเข้าเว็ปของคุณไม่ได้ครับ
  • ไม่มีระหัสผ่าน
  • ขอโทษด้วยนะครับ
  • ขอคุณที่แวะมาทักทายครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท