หน้าแรก
สมาชิก
webmoe
สมุด
CMS webservice
การอบรมผ่านอินเตอ...
webmoe
Website MOE Ministry of Education
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การอบรมผ่านอินเตอร์เน็ต ในสภาพสังคมปัจจุบัน
เนื่องจากในสภาพสังคมปัจจุบัน ภาวะทางเศรษฐกิจที่รัดตัวมีผลผลักดันให้บุคคลต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในลักษณะต่างๆ ความจำเป็นที่จะต้องทำงาน หรือการได้งานทำจึงแทบจะเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่
5
ของมนุษย์ก็ว่าได้
อย่างไรก็ดี จะพบว่าตามข้อเท็จจริงแล้ว ความต้องการทำงานและอัตราการจ้างนั้นยังไม่สมดุลกัน กล่าวคือ ผู้ที่ต้องการทำงานมีจำนวนมากกว่างานที่เปิดรับโดยเฉพาะบัณฑิตที่จบการศึกษาในแต่ละปี มีจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่มีงานทำ รองาน ตกงาน หรือหางานที่ตรงกับความสามารถทำไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ทราบแหล่งงานและขาดความรู้ในการหางาน นอกจากนี้แล้วยังมีบัณฑิตที่ได้งานทำแล้วแต่กลับแสดงความไม่พอใจในงานอาชีพที่ตนเองประกอบอยู่
การที่บัณฑิตที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา แสดงความไม่พอใจในงานอาชีพที่ประกอบอยู่นั้นเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ และน่าวิตกในคราวเดียวกัน ที่น่าสนใจเป็นเพราะตามปรกติแล้ว การที่บุคคลร่ำเรียนมาตลอดชีวิตเด็กถึงวัยผู้ใหญ่ของก็เพื่อจะได้ทำงาน แต่เมื่อปรากฏว่างานที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงพอใจ อาจส่งผลทำให้ไม่ทุ่มเทความสามารถลงในงานนั้น จนอาจเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย หมดความสุข เสียประโยชน์ทั้งของหน่วยงานและสภาพจิตของบุคคล ที่กำลังเป็นอนาคตของชาติไปอย่างน่าเสียดาย
นอกจากนี้ การไม่พอใจในงานอาชีพ ก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงในแง่สังคมส่วนรวมซึ่งได้แก่การสูญเปล่าทางการศึกษา บัณฑิตแต่ละคนกว่าจะสำเร็จออกมาได้นั้น รัฐบาลต้องลงทุนไปมากมาย หากไม่ได้รับการวางแผนการทำงานและอาชีพอย่างดีพอ หรือไม่มีใจรัก ต้องไปเรียนในแขนงวิชาที่ตนไม่มีความถนัดย่อมยากที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพที่ตนประกอบได้ คงต้องทำงานอย่างไม่มีความสุข หรือไม่ก็เปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ เนื่องจากไม่มีความเหมาะสมระหว่างบุคลิกภาพของตนและลักษณะของงานจึงเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในสังคมที่กำลังพัฒนา เช่น สังคมไทย ที่ไม่มีปัจจัยเหลือเฟือพอที่จะให้คนในสังคมเลือกอาชีพ โดยวิธีลองผิดลองถูก
ได้
ดังนั้น การแนะแนวอาชีพจึงต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกัน และแก้ไขปัญหา ให้บุคคลเกิดความกระจ่างในทิศทางเลือกอาชีพของตนเอง เพื่อให้ตรงกับความถนัด ความสนใจ ซึ่งผลก็คือการมีความพึงพอใจในงานอาชีพและทำประโยชน์ให้กับสังคมมากที่สุด
รูปแบบการแนะแนวเพื่อสนับสนุนให้ผู้เข้ารับการอบรมมีศักยภาพตามหลักการพัฒนาอาชีพ หรือ
Career development
แล้ว รูปแบบ
(model)
ในการสอนแนะแนวอาชีพล้วนแตกต่างกันตามพื้นฐานทางทฤษฎี และความเชื่อของนักแนะแนวแต่ละกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะยึดถือทฤษฎีใด หลักใหญ่ก็มักหนีไม่พ้นขั้นตอน
3
ขั้นตอน คือ
ก.
การรู้จักตนเอง
การรู้จักตนเอง ในที่นี้หมายถึงการให้บุคคลได้พิจารณาถึงความสามารถ จุดเด่น ทักษะ ค่านิยม ความสนใจ ตลอดจนบุคลิกภาพโดยทั่วๆไป ว่าเป็นเช่นไร การรู้จักตนเองนั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกอาชีพของบุคคล ผู้ที่รู้ว่าตนเองเก่งทางการแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ค์ย่อมพึงพอใจกับอาชีพที่เปิดโอกาสให้แสดงออกทางความคิดอย่างมีอิสระ หรือบุคคลที่รู้ว่าตนเองไม่ชอบการทำงานกับตัวเลข ย่อมรู้สึกอึดอัดถ้าไปได้งานที่ต้องขลุกอยู่กับตัวเลข หรือบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งวัน แม้แต่บุคคลที่ไม่ชอบการอยู่นิ่งๆ ย่อมอึดอัดเช่นเดียวกันถ้าถูกจับให้ไปนั่งป้อนข้อมูลอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ขัดกับความชอบ ความถนัดของตนเองนั้นป็นที่มาซึ่งการเปลี่ยนงานในเวลาต่อมา
ผู้ที่รู้จักตนเองจึงมักจะได้เปรียบผู้อื่นตรงที่ รู้ว่าตนเองเป็นเช่นไร และงานไหนที่จะเหมาะสมกับบุคลิกของตนเอง จึงสามารถวางแผนอาชีพที่ตรงกับความต้องการพื้นฐานทางจิตใจมากที่สุด
การรู้จักตนเองนั้น ทำได้โดยการทำแบบทดสอบต่างๆ เช่น บททดสอบความสนใจ ความถนัด ค่านิยมและบุคลิกภาพ เป็นต้น แบบทดสอบจะใช้เป็นเครื่องมือกลั่นกรองให้บุคคลเริ่มตระหนักถึงความต้องการและรู้จักตนเองมากขึ้น
ข.
การรวบรวมข้อมูล
การรวบรวมข้อมูล การให้ข้อมูลทางอาชีพ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการอบรมแนะแนวอาชีพ การรู้จักตนเอง แม้จะจำเป็นในการวางแผนอาชีพ แต่ถ้าไม่มีข้อมูลทางด้านอาชีพมาประกอบการพิจารณาแล้ว การตัดสินใจเข้าสู่อาชีพใดแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ข้อมูลทางด้านอาชีพในที่นี้หมายถึง
1.
ลักษณะของอาชีพแต่ละชนิด
2.
การศึกษาที่จำเป็นในการเข้าสู่อาชีพนั้นๆ
3.
ความก้าวหน้าของอาชีพ
4.
แนวโน้มและความต้องการของตลาดแรงงานต่ออาชีพนั้น
5.
บุคลิกภาพที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ
6.
ความมั่นคงของงานอาชีพ
ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการตัดสินใจเลือกอาชีพของบุคคล เพราะจะใช้เป็นตัวประกอบการพิจารณาที่สำคัญ
ค.
การเตรียมตัวเข้าสู่โลกของการทำงาน
การเตรียมตัวเข้าสู่โลกของการทำงาน การอบรมแนะแนวทางด้านอาชีพจะไม่สมบูรณ์ได้เลย ถ้าไม่เตรียมบุคคลในการเข้าสู่โลกของการทำงาน การเตรียมตัวเข้าสู่โลกของการทำงานนี้มีความหมายถึงการแนะให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมรู้จักวิธีการค้นหางาน วิธีการสมัครงาน หัดเขียนเอกสารประวัติย่อ
(resume)
เขียนจดหมายสมัครงานได้อย่างถูกต้อง และช่วยเตรียมตัวในการเข้ารับการสัมภาษณ์เข้าทำงาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการก้าวเข้าสู่อาชีพทั้งสิ้น
เนื้อหาต่างๆ ที่จะแนะแนวเพื่อสนับสนุนให้ผู้เข้าอบรมมีศักยภาพเพิ่มขึ้นนั้นประกอบไปด้วยหัวข้อย่อยดังนี้
1.
การประเมินพื้นฐานองค์ความรู้ คุณลักษณะอุปนิสัย และบุคลิกภาพ
2.
การวิเคราะห์ เพื่อเลือกอาชีพที่เหมาะสม
3.
การแนะนำถึงองค์ความรู้ และทักษะที่ควรจะมีของแต่ละตำแหน่งงาน
4.
คำแนะนำวิธีการอ่านประกาศรับสมัครงาน
5.
การแนะนำการเขียนประวัติย่อ (
Resume)
การเขียนจดหมายสมัครงาน จดหมายแนะนำตัวภาษาอังกฤษ
6.
การแนะนำการกรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ
7.
การเตรียมพร้อมเพื่อการสอบสัมภาษณ์
8.
การต่อรองเงินเดือน และ การเซ็นสัญญา
9.
การลาออกจากงานเดิม หลังได้งานใหม่
10.
การเก็บเงินไว้ใช้หลังปลดเกษียณ
ขอบข่ายในการให้การอบรมอาชีพแบ่งลักษณะการให้การอบรมออกเป็นส่วนใหญ่
4
ประการดังนี้คือ
2.2.1
ด้านบริการให้การปรึกษาทางอาชีพ
2.2.2
ด้านการให้บริการรวบรวมข้อมูลและห้องสมุดอาชีพ
2.2.3
ด้านการทดสอบและวัดผล
2.2.4
ด้านการจัดโครงการเผยแพร่ความรู้ทางอาชีพ
2.2.5
บริการจัดหางาน
เขียนใน
GotoKnow
โดย
webmoe
ใน
CMS webservice
คำสำคัญ (Tags):
#mysql
#php-nuke
#webservice
#คอมพิวเตอร์
หมายเลขบันทึก: 162433
เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2008 10:05 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2012 13:29 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
webmoe
สมุด
CMS webservice
การอบรมผ่านอินเตอ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท