วันนี้ก็เหมือนกับวันหยุดที่ผ่านมาของฉัน ฉันใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องพัก ทั้งวัน ทำการบ้าน อ่านหนังสือ แล้วก็เล่น เน็ต เขียนบล็อก เรื่อยเปื่อยไปตามประสา เมื่อเช้าตื่นขึ้นมา ฉันนึกขึ้นได้ว่า จะต้องไปดูบางสิ่งบางอย่างตรงสี่แยกหน้าหอพัก ฉันอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็เดินตรงไปที่สี่แยก ตาฉันเพ่งเล็งไปยังใต้สะพาน แป๊บเดียวฉันก็เจอสิ่งที่ฉันค้นหา อืมๆ ยายยังอยู่ ยายยังขายพวงมาลัยอยู่ตรงนั้น ดีใจจัง มันเป็นเหมือนกิจวัตรแล้วล่ะ ที่ฉันจะต้องทำอย่างนี้ทุกๆวัน ไม่เช้าก็ต้องเป็นตอนเย็นล่ะ ที่ฉันจะต้องเห็นยายขายพวงมาลัยอยู่ตรงสี่แยก ทั้งๆที่ฉันก็ไม่เคยไปอุดหนุน หรือพูดคุยอะไรกับแกหรอก แต่เหมือนรู้สึกผูกพันทางใจกับแกอยู่ลึกๆ แค่ได้รู้ว่าแกยังขายพวงมาลัยอยู่ได้ก็สบายใจ บอกตรงๆนะ ฉันก็อยากคุยกับแก อยากรู้ว่ายายเหนื่อยไหม แล้วยายอยู่ที่ไหน กับใคร ฉันรู้สึกสงสารยาย อายุมากแล้วน่าจะได้พัก แต่ยายยังต้องมาสูดกลิ่นมลพิษอยู่ตรงสี่แยกทุกวันๆ ฉันเข้าใจนะว่า ผู้สูงอายุ จะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าก็ต่อเมื่อได้ทำงาน หรือได้ทำอะไรๆให้ลูกหลาน แต่ฉันว่าคงไม่ใช่ยายคนนี้หรอก ฉันคิดเอาเองว่ายายคงต้องรับผิดชอบอะไรๆอีกหลายอย่างทีเดียวแหล่ะ เมื่อวานตอนเย็นฉันเห็นยายทะเลาะกับพวกขายพวงมาลัยด้วยกัเน เรียกได้ว่าด่ากันเสียงดังกลางสี่แยกเลย แต่ยายสู้เขาไม่ไดหรอก เพราะยายแก่แล้ว ตัวก็เล็ก เสียงก็ไม่มี แต่อีกฝ่ายเขาหนุ่มกว่ายายเยอะ ตัวเขาก็ใหญ่กว่ายายเยอะด้วย แต่เขาด่ายาย เหมือนยายเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกับเขาเลย คำที่เขาใช้ด่ายาย ก็ไม่น่าฟังเลยสักนิด ยายก็มีด่าตอบบ้าง แต่เมื่อรู้ว่าสู้เขาไม่ได้ ยายก็เดินไปขายอีกฝั่งหนึ่ง สิ่งที่สะท้อนใจฉันมากที่สุดคือ ยายยกแขนขวาที่ถือพวงมาลัยหนักอึ้งมาป้ายตรงบริเวณใบหน้าของยายอยู่หลายที ยายคงจะเช็ดน้ำตา......เป็นน้ำตาในชะตากรรมของตัวเอง...
ซึ้งจริงๆนะคะพี่ปุ๊ก
ขอเป็นกำลังใจให้ยายอีกแรงนึง
สวัสดีครับ
สะท้อนชีวิตและสังคมดีครับ
สวัสดีค่ะ ดีใจที่ได้รู้จักคนรุ่นใหม่ที่มีจิตใจอ่อนโยน
กัมมุนา วัตตีโลโก ...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนะคะ
อ่านแล้วเศร้าเน้อ ชีวิตบางครั้งมันก็โหดร้าย แต่เราก็ยังต้องต่อสู้ต่อไป..... วันพรุ่งนี้คงต้องดีกว่านี้ ถ้าเรายังสู้และพยามที่จะก้าวเดินต่อไปในทางที่เราเห็นว่ามันดีที่สุดสำหรับเรา....แม้ว่ามัน.....จะเหนื่อยเหลือเกิน