ไม่ยอมเป็นพระสนม จึงถูกฟันตัวขาดสองท่อน
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ผู้เขียนนำมาจากพงศาวดารฉบับ วัน วลิต ซึ่งเขียนขึ้นโดยชาวต่างชาติ คือนาย เยรามีส ฟาน ฟรีต พ่อค้าชาวฮอลันดา ที่เข้ามาตั่งสถานีการค้าที่อยุธยาในสมัยพระเจ้าปราสาททอง เมื่อ 400 กว่าปีมาแล้ว ฟานฟรีตเขียนขึ้นด้วยความเข้าใจของตนเอง บางครั้งอาจคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง อย่างที่ทราบกันดี พงศาวดารฉบับนี้มีความพิสดารในเรื่องราวอยู่มาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่านและผู้ศึกษาเอง ที่ผู้เขียนนำมาเล่านั้น เห็นว่าน่าสนใจ และอยากให้รู้ถึงความโหดร้ายการลงอาญาในสมัยที่บ้านเมืองมีความเด็จขาดในด้านการปกครอง
ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีการแย่งชิงราชสมบัติกันบ่อยครั้ง บางครั้งต้องใช้การปราบดาภิเษกเพื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ ซึ่งก็หมายถึงชีวิตของกษัตริย์พระองค์ก่อน ร่วมถึงข้าราชบริพารด้วยในเจ้านายองค์ก่อนด้วย
หลังจากที่พระเจ้าปราสาททองทำการปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์อยุธยาแล้ว พระองค์ทรงอยากจะได้พระมารดาพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ก่อน (พระเจ้าทรงธรรม) มาเป็นสนม แต่นางไม่ยอมอย่างเด็จขาดไม่ว่าจะต้องอาญาอย่างไรก็ตาม แถมยังแสดงความรังเกียดอย่างไม่ปิดบัง
ดังนั้นพระเจ้าปราสาททองจึงใช้พระราชอำนาจในการเป็นพระเจ้าแผ่นดินบังคับ
นางได้ทูลพระเจ้าปราสาททองว่า
“พระเจ้าแผ่นดินสำหรับหม่อมฉันไม่มีอีกแล้ว เมื่อโอรสของฉันสวรรคตแล้ว ร่างกายของหม่อมฉันจะต้องอยู่อย่างบริสุทธิ์ และไม่ยินดีในโจรแย่งพระราชสมบัติเลย”
เมื่อพระเจ้าประสาททองได้ยินดังนั้นจึงทรงกริ้วเป็นอย่างมาก ทรงรับสั่งให้ทหารสับร่างของนางออกเป็นสองท่อน ส่วนหัวให้เสียบประจานอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำ เมื่อเสียบอยู่สองวัน พระสงฆ์ได้เห็นและมาทูลขอให้เอาลง จึงได้มีการนำส่วนนั้นลงมาเผา โดยไม่มีพิธีอะไรทั้งสิ้น
ที่มา : พงศาวดารฉบับวัน วลิต
โดย : เยรามีส ฟาน ฟรีต
เรียบเรียง : วาทิน ศานติ์ สันติ
โ ห ด ร้ า ย ม า ก
สังคมไทยสมัยก่อนนี่น่ากลัวจัง
ดิฉันเป้นคนที่ชอบอ่านประวัติศาสตร์เก่าๆมาก เพราะอยากรู้ว่าคนสมัยก่อนเขามีชีิวิตอยู่กันเช่นไร แต่พออ่านมากๆเข้า จะรู้เลยว่า สังคมไทยสมัยก่อน เป็นสังคมแบ่งชนชั้น แย่งชิงอำนาจ และชอบมีเมียเยอะๆ ความดีก็มีมาก ความไม่ดีก็มีไม่น้อย
อ่านแล้วรันทดสงสารในชะตากรรมของพระมารดาของพรเจ้าทรงธรรมพระองค์นี้จริงๆ