ข้อความข้างล่างคือ ทัศนะของผู้ที่ศึกษานพลักษณ์ท่านหนึ่ง เธอเป็นพิธีกรหญิงมากความสามารถ เป็นดารา เป็นนักธุรกิจ ซึ่งทุกวันนี้เธอยังคงใช้ศาสตร์นพลักษณ์ในชีวิตประจำวันอยู่
"พอเราได้เข้ามาเรียนรู้นพลักษณ์ เราจึงรู้ว่าศาสตร์นพลักษณ์นี่จะเป็นการช่วยเราอธิบายให้รู้ว่าเหตุแห่งการกระทำของตัวเรานี่มันมาจากไหน แล้วเหตุที่ว่านี้มันมีแรงจูงใจทับซ้อนกี่ชั้น อย่างไรบ้าง
เพราะเรามักจะเห็นผลการกระทำของตัวเรา บางครั้งเราชื่นชมกับการกระทำของเรา หรือบางครั้งเราเจ็บปวดกับการกระทำของเรา ทำดีทำชั่วนั่นละนะ แต่เราไม่รู้ว่าทำไมเราถึงทำดี ทำไมเราถึงทำชั่ว ทำไมเราดีกับคนนี้ ทำไมเราชั่วกับคนโน้น แล้วทำไมสิ่งที่เราทำออกไปจึงถูกคนวัดว่าเป็นความดีหรือความชั่ว
นพลักษณ์ตอบได้ว่าเป็นเพราะเราทำจากกิเลสตัวไหนอย่างไร แล้วคนที่เขากำลังวัดค่าเราเขาวัดเราด้วยกิเลสอะไร เวลาคนข้างนอกที่ไม่ใช่คนในวงการธรรมะถามว่า เฮ้ย มันคืออะไรวิชานี่ อุ๊มักตอบเขาว่ามันคือ Enneagram ในเว็บไป search ดูซิ
หรือ ถ้าจะพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ มันคือวิชาที่ทำให้เราได้เข้าใจถึงเหตุผล ในการมีสันดานในแบบของเรา แล้วเราก็เชื่อว่าสันดานคือสิ่งที่ขุดไม่ได้ สันดานคืออะไรที่มันเป็นตัวจริง แต่เราไม่รู้เลยนะว่าทำไมเราจึงมีสันดานเช่นนี้ อุ๊รู้สึกว่าศาสตร์นี้อธิบายได้ว่าอะไรคือเหตุที่ทำให้เรามีสันดานเช่นนี้ แล้วสันดานของเรานี่มันมีทั้งสันดานดีและสันดานเสีย เพราะฉะนั้นถ้าเราเรียนรู้ถึงที่มาของสันดานเสียของตัวเราได้ เราก็น่าที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ถูกไหมคะ"
อ่านทั้งหมดของบทสัมภาษณ์ได้ที่นี่ค่ะ
http://newsite.enneagramthailand.com/Intv-shaw.html
มาสวัสดียามเช้าค่ะ..อาจารย์..มีความสุขกับการทำงานทุกวันนะคะ..
บ๊ายบายค่ะ..