คราวนี้ไม่ธรรมดา เรียนรู้การเป็นวิทยากรสอนกระบวนกร
การที่เรามีข้อมูล หรือสิ่งที่เราคิดว่าเกิดจากประสบการณ์ การเรียนรู้ของเราแล้วกระตือรือร้นอยากถ่ายทอด อยากบอกให้คนอื่นรู้ เหมือนที่เรารู้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าตัวเองเป็นโรคอะไร รู้แต่ว่า เป็นแบบนี้มาแต่ไหน แต่ไร
มีกำหนดการออกมาให้ไปเข้าอบรม เป็นวิทยากรสอนทักษะการเป็นกระบวนกร ที่ต้องใช้เวลาเข้าอบรมถึงหกวัน จากที่โปรแกรมนี้ครั้งแรก ต้องเจ็ดวัน แต่ได้มีการต่อรอง จาก เจ็ด เป็น ห้า จนกลายเป็นหก
นอกจากตัวเองต้องเป็นหนูทดลองแล้ว ยังต้องไปขายของ ให้น้องๆ รวมถึงผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทุกระดับประทับใจในสินค้าตัวนี้ ตอนแรกหนักใจมากเมื่อได้รับโจทย์ให้เป็นผู้ประสานงาน หรือ แมวมองไปหา Inno FA ในธุรกิจมาเข้าอบรมให้ได้ 10 คน เหตุที่ต้องหนักใจ เพราะไม่ใช่เวลาที่ต้องเข้าอบรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเวลาที่ต้องไปฝึกเพิ่มเติมเป็นภาคบังคับอีก 6 วัน ซึ่งเป็นการช่วยงานในค่ายพัฒนาน้องใหม่ที่จะเข้ามาในปีนี้หลายร้อยคน
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปดึงคนออกมาจากงานประจำ หลายวันแบบนี้ แล้วยังมีประปรายที่ต้องไปช่วยถ่ายทอดต่อ สำหรับตัวเองแล้วคงมีปัญหาน้อยกว่าน้องๆ คนอื่นที่เป็น Inno Fa ด้วยกัน เพราะมีหน้าที่ในงานพัฒนาคน พัฒนาองค์กรอยู่แล้ว
สิ่งที่ท้าทายก็คือ จะหาคนมาได้ยังไง แม้จะมีจดหมายสั่งมาจากเบื้องสูง ก็ใช่ว่าจะสั่งได้ทุกคน ถ้าเจ้าตัวไม่เต็มใจ
ดังนั้นขั้นแรกส่ง e-mail ไปแจ้งทุกคน ทั้ง 14 คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก คำตอบก็คือ เงียบครับ กลยุทธ์ขั้นต่อไป คือโทรไปหา ส่วนใหญ่คนที่เราโทรไปหา คิดว่าเขาน่าจะมีใจ และมีทักษะในการถ่ายทอด ส่วนใหญ่ใจมาแล้ว แต่ไม่กล้าตอบรับเพราะเกรง ผบ.ไม่อนุมัติ
เราเลยบอกว่า "เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง พี่หาทางช่วยได้ บอกมาคำเดียว ว่ามีใจอยากไป อยากทำ เท่านั้น" แล้วในที่สุดใช้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ ก็ได้รายชื่อมาเกินกว่ากำหนด 1 คน แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่รับได้
รู้สึกว่าผู้รับผิดชอบจากส่วนกลางก็กำลังดำเนินเรื่องขอตัวจากแต่ละธุรกิจอย่างจริงจัง ส่วนเราก็ใช้กระบวนการใต้ดิน เดินหน้าเป็นดาวยั่ว น้องๆ ให้อยากไปเรียน บางคนก็ไม่ต้องพูดมาก อธิบายความเยอะ ก็ตอบตกลง บางคนก็ต้องเล่ายาวหน่อย แต่บางคนนั้นน่าแปลกแค่คิดถึงเขามากหน่อย กระแสจิตแรงส่งได้ คนรับก็คงมีคลื่นคล้ายกันทำให้ เขา็โทรมาหาเราเองทั้งที่เขาไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน เลยถือโอกาสชักชวนให้มาเข้าอบรมเป็น trainer กระบวนกรซะเลย
ในที่สุดก็เกือบสำเร็จแล้ว จากเรื่องที่คิดว่ายากในขั้นต้น แต่ด้วยความพยายามใช้ฝีปากก็ฟันฝ่ามาแล้วด่านแรกที่สรรหาคนมาได้ เหลือแต่รอฟังความเห็นของ ผบ.ของเหล่าผู้กล้าทั้ง 11 ว่าจะมีอะไรขัดข้องหรือไม่ ยังมีเรื่องราวให้เล่าอีกยาวสำหรับหนังม้วนนี้ หลายคนบอกว่าอยากให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น คงมีเรื่องราวของสนามพัฒนาพี่น้อง Inno FA ของภายในกลุ่มกันเองช่วงตรุษจีนนี้ งานนี้ไม่ธรรมดา ท้าทายกว่า 2 รุ่นที่ผ่านมาเพราะจำนวนคนมากขึ้นกว่าเดิม และ Big Boss จะแวะมาเยี่ยม ทำให้พวกเราเหล่า Inno FA แบบ Super FA ตื่นเต้นกันพอสมควรทีเดียว
ความเห็น (9)
ดีใจมากค่ะ ที่พ่อครูบามาเยี่ยมเยียนถึงถิ่นค่ะ
ที่พ่อครูบาบอก ใช่เลยค่ะ ว่ายากตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ธรรมดาที่จะฟันฝ่า แต่เป็นที่ผู้บังคับบัญชามากกว่าค่ะ จะทำไงให้เขายอมปล่อยลูกน้องออกมาจากงานประจำ
- ทำเรื่องง่ายๆก็ไม่ต้องใช้ฝีมือขนาด
- โทษครับ ทำเรื่องง่ายๆก็ไม่ต้องใช้ฝีมือขนาด citrus หรอกครับ อิอิ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ คนชอบวิ่ง
ขอขอบพระคุณค่ะ
เพียงประโยคสั้นๆ ของคุณหมอแต่ให้พลังทางใจได้ดีมากจริงๆ เลยค่ะ ทำให้รู้สึกว่าภูมิใจค่ะ
สวัสดีจ้ะ น้อง เอก IF3
แหม เล่นแอบมาอ่านกันเองแบบนี้ พี่ต้องระวังซะแล้ว เดี๋ยวเผลอไปนินทา
พี่เข้าใจความรู้สึก และจิตใจของพวกเราทุกคนดีค่ะ แต่ถ้าตัวเราเองมุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว และใส่ความพยายามลงไปพี่เชื่อว่าต้องมีโอกาสสำเร็จ
พูดถึงเรื่องนี้ เดี๋ยวมีเรื่องเขียนได้อีก ขอบคุณนะคะ
link ไปยังเรื่องราวของโปรแกรม
link ไปยังเรื่องราวของโปรแกรม