beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

รอร่า <๑> : แนะนำตัวเอง


เพื่อนบางคนก็จะเรียกว่า "รอร่า" เนื่องจาก เวลาทำอะไรแล้วได้รอฉัน ก็ต้องพูดว่า "รอหล้า"

        (ในวิธีการสอนแบบไม่สอนของ beeman ทำให้มองเห็นนักเขียนมืออาชีพคนหนึ่ง ขณะกำลังเรียนเป็นนิสิตชั้นปีที่ ๒ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรสามารถสกัดเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา นำมาเรียบเรียงต่อยอดได้เป็นเยี่ยม จึงขอนำสมุดแห่งการเรียนรู้ของเธอ ซึ่งได้สกัดเรื่องราวต่างๆ ด้วยตัวของตัวเอง นำมาถ่ายทอดอีกครั้งหนึ่ง หวังว่าเมื่อเธอมาอ่านผลงานของเธอแล้ว คงยินดีที่เรื่องราวที่เธอถ่ายทอด จะยังประโยชน์ให้ผู้อื่น ไม่มากก็น้อย)

แนะนำตัวเอง (30 ต.ค.50)

         ฉันชื่อ นส.สุดาวรรณ นามสกุล คำภิระแปง ชื่อเล่น "หล้า"  เพื่อนบางคนก็จะเรียกว่า "รอร่า" เนื่องจาก เวลาทำอะไรแล้วได้รอฉัน ก็ต้องพูดว่า "รอหล้า"  พูดไปพูดมาก็เลยเรียกว่า "รอร่า" ฟังดูเหมือนชื่อคนทางตะวันตก แต่ไม่ใช่ฉันเป็นคนไทย เกิดที่เมืองไทย ต่างประเทศยังไม่เคยไปสักครั้ง ฉันเกิดที่ลำปาง เป็นคนลำปาง เป็นคนเหนือ พูดภาษาเหนือได้คล่อง พอจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนเถินวิทยา ฉันก็สอบคัดเลือกในระบบแอดมิดชั่น เข้ามหาวิทยาลัย ฉันติดอันดับที่คัดเลือกเป็นลำดับที่ 3 คือ สาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

         ในระหว่างนั้นก็ติดพยาบาลที่วิทยาลัยพยาบาลลำปาง และเทคนิคเภสัชที่วังทอง จังหวัดพิษณุโลกด้วย ตัดสินใจอยู่นาน สุดท้ายก็เลยเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงเป็นผลทำให้ฉันได้เรียนวิชาเซลล์ ชื่อเต็ม "ชีววิทยาของเซลล์" มาถึงตอนนี้ ฉันก็ได้เรียนอยู่ปี 2  สาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

          ถ้าพูดถึงความต้องการ ทุกคนเกิดมาเป็นมนุษย์ ย่อมมีความต้องการกันทุกคน สุดแต่ว่าความต้องการของแต่ละคนจะมากหรือน้อย และแตกต่างกันเป็นคนๆ ไป ที่สำคัญถ้าต้องการอย่างเดียวแต่ไม่ลงมือทำ คงไม่มีใครได้มา แม้แต่คนรวยที่เขามีเงินทองอยากได้อะไรก็ได้ แต่เชื่อเถอะว่าน้อยคนนักที่จะมีความสุข บางคนรวยแต่ขาดความอบอุ่น ต้องการความรักความเอาใจใส่จากพ่อแม่ ไม่ว่าคนรวยคนจน ทุกคนเท่าเทียมกนเพราะต่างมีความต้องการ   พูดถึงฉันว่าฉันต้องการอะไร ฉันมาเรียนฉันก็ต้องการความรู้ ความสามารถ เพื่อนำไปใช้ดำเนินชีวิตอยู่ในสังคม ฉันต้องการเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ในสิ่งที่รู้ก็อยากรู้ให้ถึงแก่นที่แท้จริง อยากเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง ฉันเรียนเพื่อให้รู้และได้ในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ คือ ใบปริญญา ซึ่งเป็นใบเบิกทางอย่างหนึ่งในการทำงาน บวกกับความสามารถของเราที่จะทำให้คนอื่นยอมรับได้ (หรือไม่) มันย่อมขึ้นอยู่กับเรา ว่าถ้าเราต้องการทำอะไร เราก็ต้องลงมือทำทันทีและทำในสิ่งที่ถูกต้อง

         ฉันจะไปในที่ที่ฉันตั้งใจไว้ หลังจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ฉันจะไปทำงาน งานที่ฉันอยากทำไม่ได้จำกัดแน่นอน งานอะไรก็ได้ที่สุจริต งามมีเยอะ คนตกงานก็มีมากพอๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกงานหรือไม่ จบไปงานที่ได้ทำอาจไม่ตรงกับสาขาที่เรียน ถ้ามีคนถามฉันว่า "งั้นเรียนไปทำไม" ฉันก็คงตอบว่า "เรียนเพื่อให้รู้เท่าทันเหตุการณ์บ้านเมือง" ฉันเชื่อว่าแม้งานที่ได้ทำไม่ตรงกับที่เราเรีนมา แต่ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะความรู้ที่ได้มา สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับวิชาอื่นๆ ได้ การเรียนทุกสาขา ย่อมมีความเกี่ยวข้องผูกพันกันอยู่ ไม่มีอะไรอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย จบไปก็ต้องทำงาน เพราะฉันเป็นความหวังของพ่อแม่ ฉันต้องเรียนให้จบและก้าวสู่โลกของการทำงาน หาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ต่อไป

         คนเราจะทำอะไร ก็ต้องมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ถ้าเราไม่มีจุดยืนก็เหมือนกับเราไม่มีที่พึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรในแต่ละวัน จุดยืนของฉันอยู่ที่ความอดทน ฉันต้องอดทน ถ้าฉันไม่มีความอดทนอดกลั้น ฉันคงเดินมาไม่ถึง ณ จุดนี้ เวลาที่ฉันท้อในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียน เรื่องเพื่อน ฉันก็ต้องใช้คำว่า "อดทน" อดทนอ่านหนังสือ หักห้ามใจไม่เล่นเกมส์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องมีความขยันอยู่คู่กับความอดทน ขยันอ่าน ขยันจำ เดี๋ยวก็ทำได้เอง คนเราจะทำอะไรมันก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ขยันฝึกฝนตลอดเวลา ต่อไปก็เชี่ยวชาญชำนาญเอง มีแต่ความอดทน ความขยันก็ยังไม่พอ เราต้องมีสังคมด้วย ฉะนั้นเราก็ต้องมีความยุติธรรม สรุปง่ายๆ จุดยืนของฉันต้องมี อดทน ขยัน และมีความยุติธรรม

       วิชาชีววิทยาของเซลล์ ที่ฉันได้เรียน ฉันก็หวังว่าจะได้รับการถ่ายทอดความรู้จากอาจารย์ผู้สอน อยากรู้ว่าเรียนเซลล์แล้วได้อะไร ก็คงจะได้รู้ อันไหนเรื่องไหนที่สงสัยก็จะได้ทราบ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะขยันเรียน ขยันค้นคว้าหรือเปล่า ฉันก็คาดหวังว่าเรียนวิชานี้แล้วจะได้รู้และได้นำไปใช้ในเกิดประโยชน์ต่อไป

        ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยมีผลงานเด่นในด้านไหนเลย บ้างก็ไปทางนั้นทีทางนี้ที พูดได้ว่า มีไปทั่ว ในอดีตตอนมัธยมศึกษา ก็จะวาดรูปประกวดกับเขาบ้าง แต่ก็ได้รับแค่เกียรติบัตร อย่างมากก็รางวัลชมเชย ตอนมัธยมปลายก็เป็นเยาวชนสาธารณสุขในโรงเรียน ก็จะเกี่ยวกับพยาบาล มีการฝึกงานในช่วงปิดเทอม ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง ได้เจอผู้คนมากมาย ที่มารักษาอาการเจ็บป่วย ที่สำคัญคือได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำโรงเรียนหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน โดยอยู่ปฏิบัติการทางคณิตศาสตร์ มาถึงตอนปี 1 ก็ได้เป็นสมาชิกชมรมดาราศาสตร์ ล่าสุดได้เป็นฝ่ายพยาบาลของกิจกรรม Science camp ปี 50   ถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยมีผลงาน แต่ผลงานที่ได้ทำก็ภาคภูมิใจ เพราะได้ทำจนสำเร็จลุล่วงไปได้ดี ส่วนมากฉันจะเป็นสมาชิกชมรมมากกว่า ก่อนหน้านี้ฉันก็ไปเข้าค่ายคุณธรรมนำชีวิตพอเพียงที่จังหวัดพิจิตร เป็นเวลา 30 วัน กิจกรรมต่างๆ ทำให้ฉันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนๆ มากมาย.....

 

หมายเลขบันทึก: 161216เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2008 18:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 08:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ อ.Beeman

  (ตกใจมากทีเดียว)  ดีใจมากเลยค่ะ

ขอบพระคุณอาจารย์มากเลยนะคะที่ทำให้หนูมีกำลังใจในการก้าวเดินต่อไป....

ขอแสดงความชื่นชมกับน้อง "รอหล้า" ครับ ...

นักเรียนนักศึกษาที่มีเป้าหมายในชีวิตว่า ต่อไปตนจะทำอะไร ย่อมเรียนสนุกมากกว่าคนที่เรียนไปเรื่อย ๆ ตอบคำถามตนเองไม่ได้ว่า "เรียนไปทำไม"

ขอชื่นชมครับ :)

  • ดีใจที่เป็นกำลังใจให้รอร่า ก้าวเดินต่อไป
  • และขอขอบคุณท่าน Wasawat Deemarn ที่มาเป็นกำลังใจให้น้องรอร่าอีกคนหนึ่ง
  • ความจริงนิสิตรุ่นนี้ก็มีดีหลายคน แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร..หวังว่าคงได้มีโอกาสเข้าไปพัฒนา..ไม่มากก็น้อย..แต่ก็เป็นไปตามใจสมัครครับ..

รุสึกดีมากๆๆที่เพื่อนรักของฉัน มีความมุ่งมั่น และความใฝ่ฝันที่ดี

สู้ๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท