ทางเบื้องหน้า


ความเรียง ถึงความประทับใจของอดีต จากชีวิตวัยเยาว์และการเดินทาง จากกิจกรรมเล็กน้อยด้วยการนั่งอ่านป้ายข้างทาง อ่านชื่อสาขาธนาคารในแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัด กระทั่งเติบโตขึ้นมาท่ามกลางการเรียนรู้ ที่จะอ่านแผนที่ อ่านสัญลักษณ์ และอ่านสัญญะในชีวิต มีคำตอบในความประทับใจต่อการเดินทาง และหนทางเบื้องหน้า ให้ได้เตือนตัวเองถึงการเดินทาง ซึ่งยังคงไม่จบสิ้นของชีวิต

ทางเบื้องหน้า

อ้างอิง - ภาพ http://www.oknation.net/blog/kokoyadi

ตั้งแต่เด็กยันโต

ผมชื่นชอบการเดินทาง

และชื่นชอบที่จะอ่านป้ายข้างทาง

จำได้ว่าตอนเด็กมีความสนุกสนานส่วนตัว ด้วยความประทับใจระหว่างการเดินทาง ระหว่างนั่งรถบัสงานบุญ จากกรุงเทพฯไปยโสธร ผ่านการนั่งอ่านป้ายสาขาธนาคาร จากค่ำคืนจนยันรุ่งเช้า จากจุดเริ่มต้นจนกระทั่งจุดสิ้นสุดการเดินทาง เป็นครั้งหนึ่งในความประทับใจและความทรงจำ

ไม่นับกับการอ่านป้ายหลักกิโลเมตร

ป้ายบอกชื่อหมู่บ้านตำบลอำเภอ

หรือป้ายบอกชื่อร้านค้า

ทุกอย่างที่ผ่านตาล้วนสนุกสนาน และย้ำถึงความไม่น่าเบื่อในระหว่างการเดินทาง กระทั่งเมื่อโตขึ้น จนกล้าพอที่จะเดินทางโดยลำพัง ผมก็ยังคงติดนิสัยในการอ่านและมองสองข้างทาง อ่านและอ่านเรื่องราวรายล้อมจากสองข้างการเดินทาง

ไม่ใช่เฉพาะป้ายถนน ผู้คน และรถรา

อ่านจากไฟรถวิ่งสวนทางไปมา

หรืออ่านแผนที่แผนทาง 

แต่ผมยังพยายามอ่านเพื่ออยากรู้ว่าเบื้องหน้าของชีวิตเรา จะมีสิ่งใดปักป้ายไว้ เช่นเมื่อเราเดินทาง และมองเห็นป้ายบอกระยะ บอกเส้นทาง ตำแหน่งแห่งหนหรือตำบลอำเภอ ซึ่งจะกำกับความเปลี่ยนผ่านในแต่ละการเดินทาง ผมพยายามหาคำตอบ ว่ามีคำตอบใดคอยบอกเล่ากับเราหรือไม่

มีเรื่องราวใดบ้าง

ที่จะสามารถบอกกล่าวชีวิต

ได้เสมือนหนึ่งต่อเติมภาพจากป้ายข้างทาง

แต่จนแล้วจนรอด คำตอบอันชัดเจนเหล่านั้นก็ยังปรากฎอยู่ ตลอดชีวิตเริ่มต้นเดินทางจนกระทั่งทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่อาจเชื่อมั่นได้ในทุกระยะของการเดินทาง แม้กระทั่งการมองผ่านจากแผนที่สู่แผ่นป้ายข้างทาง สู่ป้ายบอกทาง หรือหลักกิโลเมตร ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปได้เสมอ

สำหรับการเดินทางแล้ว ไม่มีสิ่งใดแน่นอน

ไม่มีป้ายบอกหลักหมุดหมายใด

จะยืนยันได้อย่างแน่นอน

ทางเบื้องหน้าที่เห็นว่าตรงนั้น ลองปล่อยมือให้พวงมาลัยว่าง เราอาจได้พบคำตอบว่าเบี่ยงซ้ายหรือเบี่ยงขวา ทางโค้งที่ว่าปล่อยโค้งยาวยาวแบบสบายตา อาจไม่รับกับความจริงของชีวิต เมื่อโค้งยาวที่ว่าไม่อาจรับกับรถที่วิ่งตีวงไป เมื่อโค้งทางพื้นถนนไม่รับกับล้อรถ ทุกอย่างก็แหกออกจากกันทั้งรถและทาง จะแยกไปคนละทาง หรือแยกทางเดียวแบบไม่อยากจากกัน ล้วนน่ากลัวทั้งสิ้น

 

บางครั้งเส้นที่ว่าและทางที่เห็น

อาจต้องการรอคอยเพียงการพิสูจน์

ด้วยก้าวย่างของการเดินทางจริงมากกว่า

ก่อนที่จะตอบว่าใช่หรือไม่ใช่สำหรับการเดินทาง ก่อนที่จะยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่จริง สำหรับความหมายและเครื่องหมายที่ปรากฎตามรายทาง เพื่อให้เราได้แลเห็น จะปักป้ายไว้ก่อนเราไปถึง หรือจะคอยส่งสัญญาณเตือนให้รู้ว่า เบื้องหน้าชีวิตจะเป็นเช่นไรนั้น เราล้วนต้องผ่านไปสัมผัสด้วยตนเอง จึงจะมั่นใจได้ว่าเป็นเช่นไร สัมผัสก่อนจึงจะยืนยันได้อย่างแน่นอน

ต่อให้มีแผนที่อันละเอียดอ่อนซับซ้อน

ต่อให้มีผู้นำทางข้างกายที่ดีเยี่ยม

ต่อให้เตรียมพร้อมเผชิญหน้า

ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับชั่วโมงจริง เมื่อเราก้าวย่างผ่านไป ไม่มีเนวิเกเตอร์คนใดหรือผู้นำทางคนไหน จะอาจหาญจนกล้ารับประกันความจริงของพื้นถนน และหนทางเบื้องซ้ายขวาได้อย่างมั่นใจชัดเจน อาจเพียงกะเก็งหรือคาดเดาตามสภาพ และชั่วโมงบินในการผ่านทาง แต่สุดท้ายผู้นำทางย่อมต้องไปเคียงข้างเรา เพื่อพร้อมรับกับความจริงพร้อมกับเรายามก้าวผ่าน

ใครขับรถผ่านป้ายของกรมทางหลวง

ล้วนรับรู้ได้ดี ถึงประจักษ์พยานของความจริง

ว่าป้ายเหล่านั้นได้ทำหน้าที่บอกเราจริงตามสภาพหรือไม่

หรือเป็นเพียงบอกให้รู้ไว้ และระวังด้วยตัวเองว่า อาจต้องชะลอก่อนเข้าโค้งวงแหวน ที่ตีโค้งซ้อนไว้หลายชั้น เพื่อเตรียมข้ามสามช่องทาง เพราะป้ายดันบอกในระยะประชิดจนเกินไป หรือกระทั่งที่บอกมาทั้งหมดนั้น ใกล้เพียงห่างจากป้ายไม่เท่าไร จนกระทั่งเมื่อขับรถเลยผ่านไป ต้องตัดสินใจเองว่าจะถอยหลังดีหรือจะเลี้ยวรถกลับมาดี เพื่อจะปลอดภัยพอให้ไปในช่องทางนั้น

ไม่มีสิ่งใดแน่นอนชัดเจนไปกว่าความจริง

ที่สัมผัสได้ด้วยก้าวย่างของตน

และสายตาที่แลเห็น

เห็นด้วยดวงตาจริงของเรา เห็นด้วยป้ายรายทางทั่วไป เห็นด้วยขาที่เหยียบคันเร่ง เห็นด้วยมือซึ่งสัมผัสพวงมาลัย เห็นด้วยความรู้สึกแทบทั้งหมดของชีวิต ในท่ามกลางป้ายซึ่งบอกทางเรา ได้เพียงส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นชีวิตของเรา และอีกส่วนหนึ่งนอกเหนือไปจากการควบคุม ที่เราไม่อาจคาดเดาได้ ว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้นมาในเบื้องหน้าของการเดินทาง

อาจจะต้องรอจนกว่าหลุดโค้ง

รอจนกว่ารถโผล่หัวไปเห็นอีกโค้งซ้อนอยู่

หรือรอจนกว่าพ้นโค้งหลุดตา ที่ซ่อนตาไว้เบื้องหน้า

ให้เราได้ใจหายใจคว่ำเล่น เมื่อยามรถเริ่มแฉลบซ้ายป่ายขวา หรือพาให้ต้องยกเท้าขึ้น ก่อนผ่อนความหนักเบาของชีวิตกันบ้าง เพียงเพื่อมีชีวิตอยู่ให้ได้อุทานกับตัวเองเล่น ถึงหนทางเบื้องหน้า จะอุทานแบบใดเช่นใดก็ต้องเลือกสรรกันไป

เพียงเพื่อให้เราได้รู้ว่า

หนทางเบื้องหน้าอาจมีมากกว่าทางโค้ง

 

หมายเลขบันทึก: 159930เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2008 08:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • แผนที่ หรือป้าย ทั้งหลายมีประโยชน์สำหรับเรา เพื่อความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตค่ะ
  • แต่ทั้งมวล เราล้วนเป็นผู้กำหนดการเดินทางด้วยตนเอง
  • ติดตามอ่านข้อเขียนอยู่ค่ะ แต่ไม่เคยทิ้งร่องรอยไว้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท