ไปภูชี้ฟา มาค่ะ


ได้ฤกษ์แวะมาเขียนบ้าง (ไม่ค่อยใส่บันทึกนี้เท่าไหร่ มัวแต่ไปโพสต์ ขำขำ ให้สมาชิกคลายเครียดมากกว่า)  ทุกครั้งที่ไปหลายๆ ที่ อยากมาเล่าให้อ่าน แต่ติดภารกิจติดพันหลังจากการเดินทาง (หมักหมมงานเอกสาร) ไหนจะโหลดรูปอีก สรุปสั้นๆ ว่า ขี้เกียจดีกว่าค่ะ ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน แต่จะพยายาม มาเวียนวนๆ หาข่าวสารมาฝากในบล๊อคนี้ 

มาส่งข่าวคราวบ้างว่าไปไหนมา สามวา สองศอก
ปีใหม่ ไปจัดงานปีใหม่ที่รีสอร์ท คุระบุรี และได้โอกาสไปดำน้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์ ภาพใต้น้ำยังสวยค่ะ ปลาเยอะ ตื่นตาตื่นใจกับฝูงปลานกแก้ว (ตัวเท่าจานเปล) เกือบร้อยตัว รุมกินปะการัง เสียงดังกรอบ แกรบ เลย (ทั้งๆ ที่เราอยู่ในน้ำ) ปกติ จะไม่ตื่นเต้นกับปลานกแก้วค่ะ คือ สามารถพบเห็นได้ง่ายในแถบนี้ แต่เห็นเป็นร้อยๆ ตัวนี่ตื่นตาตื่นใจค่ะ และก็ ฝูงปลาข้างเหลือง เป็นร้อยๆ ตัวเช่นกัน ทมึนเลยค่ะ  ไม่นับพวกปลาสลิดตัวเล็กตัวน้อยเป็นพันๆ ตัว ที่รายล้อมอยู่ตลอดเวลา  ก็ดีใจที่ได้เห็นธรรมชาติ ยังสวยงาม มรดกของประเทศยังไม่ย่อยยับไปกับภัยธรรมชาติ และฝีมือคน แต่ขากลับเล่นเอาเพลียเหมือนกันค่ะ เพราะฝ่าฝูงรถกว่าจะถึงกรุงเทพฯ หลับไม่รู้กี่ตื่น ฟังเพลงไม่รู้กี่แผ่น ทำใจกับเทศกาลค่ะ

อะ...ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ไปภูชี้ฟ้ามาค่ะ (ขึ้นไปก่อนมีข่าวแค่วันเดียวเอง) ไม่ได้ไปเที่ยวเป็นเรื่องเป็นราว แต่ไปดูงาน ดูสถานที่เพราะจะมีคณะลูกค้าขึ้นไปอาทิตย์หน้าค่ะ เลยต้องไปวางงานให้ดีหน่อย พลาดไม่ได้ คณะใหญ่เสียด้วย ก็ลุยกันขับรถดิ่งขึ้นไปเชียงรายเลยค่ะ วันที่สองเริ่มทำงานกัน บ่ายขึ้นไปภูชี้ฟ้าค่ะ ต้องไปหาร้านอาหารรับลูกค้าคณะใหญ่ๆ ได้ หาไม่ยาก แต่มีน้อยและไม่ตรงสเปค ได้โอกาส เดิน 750 เมตร สู่จุดชมวิว ยอดภูชี้ฟ้า (เคยไปสมัยสาวๆ) ครั้งนี้ ไปไม่เหมือนเดิม เพราะรถขึ้นอีกทาง ทำให้ไม่ต้องเดินไกล แต่เล่นเอาหอบ ถึงแล้วหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะยอดเขายอดเดิม (ไม่ได้ขึ้นไปบนยอด เพราะไม่มีเวลา) ได้เก็บภาพไว้นิดหน่อยค่ะ เรียกว่า update กันหน่อย ไว้มาโพสต์ให้ดูอีกทีค่ะ 

แว๊บไปผาตั้ง ได้ร้านอาหารที่ต้องการ สตอเบอรรี่อร่อยมาก หน้าตาด่างๆ ขาวๆ ไม่แดงแปร๊ด พี่ที่ไปด้วยเรียก อีด่าง มันอร่อยกว่าอีแดงอีก ขอบอก รสหวานกว่าที่เชียงใหม่ อีกค่ะ  คนขายบอกว่าเป็นพันธุ์ใหม่ของโครงการหลวง เราเดาว่าคงเป็นพันกันไปพันกันมา อิอิ เสียดายที่แยมเขาหมด จะเหมาซะหน่อย เขามีแยมสตอเบอรรี่ (กวนเอง) ไม่ใส่เจลาติน ไม่ใส่สาร มีแยมลูกพรุน (ไม่เคยกินเหมือนกัน) มีให้ชิม ชิมแล้ว อร่อยเหลือเชื่อ แต่...ของหมดเสียอีก ขวดละ 50 บาทเท่านั้น...มีเงิน แต่ไม่มีของ นี่แหละที่เขาเรียกว่า มีเงินแต่ซื้อไม่ได้ ฮ่าๆๆ อ้อ...เราได้ดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ด้วย ตกปุ๊ เร็วจริงๆ ค่ะ อากาศเริ่มเย็นๆๆ จนถึงเย็นมาก ประมาณ 18  องศาค่ะ ขับรถกลับไปที่พัก แถวภูชี้ฟ้า เจอแม่อุ๊ย เป็นชาวเขามาต้อนรับ ทำกับข้าวอาหารเย็นให้เราทาน แกน่ารักมาก อาหารง่ายๆ ผัดผัก ต้มยำ หมูทอด ไข่เจียว อร่อยค่ะ ทำแล้วแกหายต๋อมไปเลย คือให้เราอยู่อิสระ หลังจากให้กุญแจห้อง อะไรแล้ว อิ่มแล้ว คุยกันพอหอมปากหอมคอ แยกย้ายไปนอน แอร์ (ธรรมชาติ) ที่นี่ ปรับไม่ได้ มันเย็นตลอดเลย ยิ่งดึกยิ่งเย็น ห้องน้ำมีน้ำร้อนไม่งั้นได้ซักแห้งแน่นอน ฮิฮิ อ้อ..ทีวีเขามีสัญญาณค่ะ ได้ดูรายการปกติ

ตื่นเช้ามา อากาศดีมากๆๆ วิว สวยสุดๆ เห้อ...ฟอกปอดให้เต็มที่เลยค่ะ ก่อนกลับลาแม่อุ๊ย ที่ยังทำข้าวต้มเครื่อง ไม่หวงเครื่องเลย หมูสับ เห็ดหอม ใส่กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง สูตรจีน เต็มที่เลย แถมมีขนมปัง กาแฟ ทอดไข่ดาวให้อีก น่ารักจริงๆ เห็นแกแล้วคิดถึงอาม่าจับใจ ... อำลาแก ขอบคุณสำหรับการดูแลอย่างอบอุ่น ตรงกลับเข้าเมืองทำงานต่อค่ะ พอสลัดงานได้ก็ตรงดิ่งเข้าเชียงใหม่ 2 ชม.ข้ามเขา คดเคี้ยว กว่าจะถึงโรงแรมตอนเย็นๆ ออกมาหาอะไรกินแถวตลาด แค่พออยู่ได้.... เดินไนท์พลาซ่านิดหน่อย โฉบๆ เพราะชินกับร้านรวงต่างๆ แล้ว แต่เงียบมากๆ เลยค่ะ สงสารพวกพ่อค้า แม่ค้า ไม่รู้นักท่องเที่ยวไปไหนหมด ยิ่งพลาซ่าที่เป็นอาคารใหม่ ของกาแล พลาซ่า บางร้านไม่มาเปิด ไม่รู้ปิดถาวร หรือชั่วคราว เหงาไปเลยค่ะ เข้าที่พักได้หลับเอาแรงกลับบ้านพรุ่งนี้

วันรุ่งขึ้น อิ่มแล้วไปตลาดวโรรส ไปหาซื้อของแจกลูกค้า ... มาทีไรก็เฉยๆ นะคะ เพราะเวลาไปไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร แต่ไปงวดนี้ ต้องหาของ เลยอยากได้ไปหมดค่ะ คนเหนือ เขามีพรสวรรค์ ในการคิดประดิษฐ์สร้างสรรงาน เอาศิลปะดั้งเดิมมาปรับแต่งกับสมัยใหม่ ได้ของที่เก๋ และน่าใช้ และไม่แพง ด้วย กระเป๋าสวยๆ เต็มไปหมด อยากได้ (โรคจิตมากกับพวกกระเป๋า) เสียเงินให้คนท้องถิ่นบ้าง ไม่เสียดายค่ะ เราก็ได้ของที่สวยๆ ไว้ใช้ คุ้มมากๆ ดีกว่าไปซื้อกระเป๋าใบเป็นหมื่นๆ  ได้ของมาพอสมควรก็ปุเรงๆ กลับที่พัก ดิ่งกลับบ้านค่ะ แวะเข้าห้องน้ำ กินก๋วยเตี๋ยวพออิ่มท้อง ระหว่างทาง กว่าจะถึงบ้านเย็นมาก สงสารคนขับ เหนื่อยๆๆ เราก็เหนื่อย กินกับนอนเหนื่อยค่ะ ฮ่าๆๆ ข้าวเหนียวทางเหนือ เขาอร่อยนี่นา แม้ว่าจะมีสารละลายดั้ง และสารสลึมสลือ อดไม่ได้ที่ต้องกิน (ต้อง ๆๆๆ กินให้ได้ ข้าวเหนียว จิ้มน้ำพริกหนุ่ม หรือ น้ำพริกอ่อง อร่อยมากๆๆ )

เอาเป็นว่ากลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ
จะเอารูปมาโพสต์ อวด .... ให้เร็วที่สุด (ไม่กล้าบอกมะไหร่ แปะไว้หลายเรื่อง น่าอายจริงๆ )

จบการเดินทางไว้ก่อน
ท่านใดสนใจอยากได้ข้อมูลอะไร ก็เมล์มานะคะ ไม่หวง ยินดีรับใช้
พบกันคราวหน้าค่ะ

หมายเลขบันทึก: 159430เขียนเมื่อ 15 มกราคม 2008 22:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

โล่งอกไปทีครับ!!!!!

ที่กลับมาอย่างปลอดภัย.......

ได้อ่านข่าวแล้วน่าใจหายสงสารจับใจ....

การท่องเที่ยวควรเป็นการพักผ่อนที่สนุกสนาน....

ไม่ควรมีเรื่องให้น่าเศร้าเลยจริงๆ......

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท