วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๑ เป็นวันสุดท้ายของวลัยลักษณ์เกมส์ บรรยากาศบริเวณใกล้เคียงสนามแข่งขันกีฬาดูเงียบกว่าทุกๆ วันที่ผ่านมา รถบัสคันโตของมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เคยเห็นจอดเรียงรายอยู่ริมถนนหน้าหอพักนักศึกษาหายไปเกือบหมดแล้ว ผู้คนดูบางตาไปมาก มีกีฬารอบชิงชนะเลิศอยู่ไม่กี่สนาม นักกีฬาที่มาใช้บริการของหน่วยแพทย์-พยาบาล-กายภาพบำบัดก็น้อยลงมาก ทำให้เราเกิดความรู้สึกเหงาๆ ขึ้นมาเลยทีเดียว
เวลาประมาณ ๑๖ น. กว่า มีพิธีปิดกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๓๕ ณ สนามกีฬากลาง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดย ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน อากาศเย็นนี้เย็นสบายๆ เหมือนในวันเปิด แต่ท้องฟ้าสดใสกระจ่างกว่า
เริ่มจากพิธีเชิญธงชาติจากยอดเสา ต่อจากนั้นเป็นการแสดงชุด “ศิลปาชีพเริงสำราญ ปิดม่านมนต์กีฬา”
ศิลปาชีพเริงสำราญ ปิดม่านมนต์กีฬา |
ขบวนป้ายวลัยลักษณ์เกมส์และขบวนนักกีฬาประเภทต่างๆ เข้าสู่สนาม (ตอนเปิดเป็นขบวนนักกีฬาแต่ละสถาบัน)
Mascot และขบวนป้ายวลัยลักษณ์เกมส์ |
ประธานกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยรายงานผลการคัดเลือกนักกีฬาดีเด่นและสถาบันดีเด่น นักกีฬาดีเด่นชาย (มีสถิติ) ปองพล กุลชัยรัตนา (ยิงปืน-มหาวิทยาลัยกรุงเทพ) นักกีฬาดีเด่นหญิง มีสถิติ ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง (ว่ายน้ำ- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย) ไม่มีสถิติ รภัทกร ประสพสุข (เทควันโด-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
ทีมกีฬาดีเด่นชาย–หญิง จำนวน ๔ รางวัล ได้แก่
- ประเภททีมกีฬาดีเด่นชาย มีสถิติคือทีมกรีฑาวิ่งผลัด ๔ x ๔๐๐ เมตร สถาบันการพลศึกษา
- ประเภททีมกีฬาดีเด่นหญิง มีสถิติคือทีมว่ายน้ำ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
- ประเภททีมกีฬาดีเด่นชาย ไม่มีสถิติคือทีมบาสเกตบอลชาย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
- ประเภททีมกีฬาดีเด่นหญิง ไม่มีสถิติคือทีมฟุตบอลหญิง มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
รางวัลสถาบันดีเด่นคือมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สถาบันที่ได้เหรียญทองมากอันดับที่ ๑ คือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อันดับ ๒ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อันดับ ๓ สถาบันการพลศึกษา อันดับ ๔ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อันดับ ๕ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
สำหรับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ในฐานะเจ้าภาพ เราได้เหรียญเงินเป็นเหรียญแรกและเหรียญเดียวจากนายณัฐยุทธ แนมใส ในการแข่งขันทุ่มน้ำหนัก
ได้เวลาประธานกล่าวปิดการแข่งขัน มีพิธีเชิญธงกีฬามหาวิทยาลัยและธงมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ลงจากยอดเสา พิธีดับไฟกระถางคบเพลิง ซึ่งน่าประทับใจ โดยตัวหนังตะลุงพากันถือภาชนะใส่น้ำ (มีชื่อเฉพาะของนครฯ) ไปดับไฟ มีเทคนิคดีเสียด้วยคือพอพรมน้ำลงไปไฟก็ดับแล้วยังมีควันลอยขึ้นมาให้เห็น (ถ่ายภาพไม่ทัน เพราะนึกไม่ถึง)
ขบวนของเจ้าภาพปีหน้า ครั้งที่ ๓๖ |
ต่อจากนั้นเป็นพิธีมอบธงกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยให้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่จะเป็นเจ้าภาพครั้งที่ ๓๖ ต่อไปในชื่อ "หัวหมากเกมส์"
พิธีมอบธงกีฬามหาวิทยาลัยแก่เจ้าภาพครั้งที่ ๓๖ |
ปิดท้ายด้วยการแสดงของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นโขน และการแสดงที่เรียกว่าเชียร์ลีดเดอร์ (ไม่ทราบเรียกถูกหรือเปล่า) บรรดาคุณแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ดูแล้วเสียวใส้ กลัวจะตกกันลงมา พึมพำกันว่าพอเถอะลูก
การแสดงโขนของมหาวิทยาลัยรามคำแหง |
การแสดงของทีมหนุ่ม-สาวจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง |
ขณะบันทึกอยู่นี้ไม่ทราบว่าระบบมีปัญหาอะไร ใส่ภาพบางภาพไม่ได้ พยายามหลายครั้งได้แค่ ๒ ภาพเอง พรุ่งนี้จะมาใส่ภาพเพิ่มอีก วันนี้ต้องขอกลับบ้านพักไปรับประทานอาหารเย็นก่อนแล้ว
วันนี้ (๑๖ มกราคม) มาใส่ภาพเพิ่มได้อีก ๒ ภาพ อีก ๒ ภาพยังใส่ไม่ได้ insert แล้วไม่มีภาพขึ้น แถมใส่ภาพในตารางก็ไม่ได้ จะพยายามต่อวันอื่นนะคะ
๑๗ มกราคม ๒๕๕๑ ในที่สุดก็ใส่ภาพได้ครบตามที่ตั้งใจไว้แล้วค่ะ
วัลลา ตันตโยทัย
ไม่มีความเห็น