เหตุผลที่ไม่อยาก.......


      วันนี้เข้ามหาวิทยาลัยเป็นวันที่ 2 ในรอบสัปดาห์  หลังจากที่เข้ามาแล้วในวันจันทร์  ความจริงไม่อยากเข้าเลย  แต่ได้กลิ่นธูปจากเจ้ากรรมนายเวรก็เลยต้อง (จำใจ) เข้า  มาถึงมหาวิทยาลัยประมาณ 09.25 น.  ยังทำใจไม่ได้ที่จะขึ้นไปที่ห้องทำงานก็เลยไปนั่งทานข้าวที่โรงอาหาร (ทั้งๆที่ไม่หิว)  ประมาณ 10.00 น.  จึงเดินขึ้นไปที่ห้องทำงาน  เพิ่งวางกระเป๋ายังไม่ทันได้นั่งเลย  สายตาก็เหลือบไปเห็นโน๊ตและบันทึกข้อความเต็มโต๊ะไปหมด  นี่คือเหตุผลที่หนึ่งที่ไม่อยากเข้ามหาวิทยาลัย  เพราะ   ขี้เกียจมารับรู้เรื่องราวปวดหัว (หลายๆครั้งก็ไร้สาระ)  ครั้นเมื่อเดินไปที่ห้องการเงินเพื่อติดต่อเรื่องการฝึกภาคสนามของนักศึกษา  ก็ถูกเรียกมารับเงินโอทีตอนรับเสด็จฯ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม)  นี่คือเหตุผลที่สองที่ไม่อยากเข้ามหาวิทยาลัย  เพราะ  ต้องมานั่งอ่านเอกสาร  นั่งเซ็นต์ชื่อ  ถามยังทำงานไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน  เนื่องจากมีงานจรเข้ามา  แค่อ่านเอกสารและเซ็นต์ชื่อรับเงินก็กินเวลาไปตั้งเยอะ   พอเดินออกจากห้องการเงิน  เจอใครมีแต่คนทักว่าไม่เห็นหน้าตั้งนาน  ทั้งๆที่เขาก็รู้อยู่ว่าผู้วิจัยพานักศึกษาไปทัศนศึกษาและต้องไปสำรวจพื้นที่ฝึกภาคสนามให้กับนักศึกษาอีก  นี่คือเหตุผลที่สามที่ทำให้ไม่อยากเข้ามหาวิทยาลัย  คนพูดก็พูดไปเรื่อยเปื่อย  พอให้ได้พูด  โดยไม่คำนึงว่าใครจะเดือดร้อน  ยังมีอีกมากมายค่ะ  แต่ขอเล่าแค่นี้ก็แล้วกัน

      คุยกันถึงเรื่องดีๆบ้างดีกว่า  โดยสรุปแล้วอาทิตย์นี้ผู้วิจัยได้คุยกับหน่วยงานทั้งหมด 3 หน่วยงาน  คือ  ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดลำปาง  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง  และธนาคารออมสิน (สำนักงานเขตลำปาง)  ส่วนอีก 2 หน่วยงาน  คือ  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  สาขาจังหวัดลำปาง  และสำนักงานเกษตรจังหวัดลำปาง  คงต้องยกยอดไปอาทิตย์หน้า  เนื่องจากในกรณีของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรนั้น  ผู้จัดการลางานยาวทั้งอาทิตย์   ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดลำปาง  เกษตรจังหวัดติดการอบรมทั้งอาทิตย์เช่นเดียวกัน  (ดีเหมือนกัน  จะได้หนูเคเอ็มไปคุยด้วยในอาทิตย์หน้า)

      ก่อนที่จะเล่าให้ฟังว่าไปคุยกับหน่วยงานต่างๆมาได้ความอะไรบ้าง  ผู้วิจัยมีเรื่อง surprise จะเล่าให้ฟัง  ความจริงวันนี้ก็ดีเหมือนกันที่เข้ามหาวิทยาลัย  ไม่อย่างนั้นคงไม่มีโอกาสคุยกับผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดลำปางเป็นแน่แท้  ที่ผู้วิจัยบอกอย่างนี้ก็เพราะว่า  เดิมทีผู้วิจัยนัดกับหน้าห้องของท่าน ผอ. ไว้ว่าจะเข้าไปพบท่านในวันพรุ่งนี้  เวลาประมาณ 13.30น.  ซึ่งหน้าห้องของท่านบอกว่าเข้ามาได้เลย  เพราะ  ท่านว่างทั้งวัน  ความจริงแล้วผู้วิจัยตั้งใจจะนัดวันนี้  แต่หน้าห้องบอกว่าท่านไม่ว่าง  ต้องไปที่เรือนจำ  แต่ที่ไหนได้วันนี้ประมาณ 11.30 น.  ท่านมาพบผู้วิจัยถึงมหาวิทยาลัยเลย  ผู้วิจัยเห็นท่านนั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ห้องการเงิน  แต่ก็ไม่ได้สนใจ  เนื่องจากผู้วิจัยไม่ทราบว่าเป็นท่าน ผอ.  จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาถามว่าผู้วิจัยนัดท่าน ผอ.กศน. เอาไว้หรือเปล่า  ด้วยความที่ปากไวกว่าสมอง (อีกแล้ว) ก็เลยบอกว่านัดไว้  เจ้าหน้าที่จึงบอกกับผู้วิจัยว่าท่านมาได้สักครู่หนึ่งแล้ว  ขอให้ผู้วิจัยรีบออกไปพบ  ผู้วิจัยมาทราบภายหลังว่าหน้าห้องของท่านไม่ได้จดชื่อผู้วิจัยลงไป  เขียนกว้างๆว่าอาจารย์ธรรมศาสตร์ขอเข้าพบ  ด้วยความที่ท่านกลัวว่าถ้าไม่มาพบผู้วิจัยในวันนี้  พรุ่งนี้ผู้วิจัยก็คงไปเก้อ  เนื่องจากท่านติดธุระด่วน  ท่านก็เลยตัดสินใจมาที่มหาวิทยาลัย  เจ้าหน้าที่ก็ถามไปทั่ว  เมื่อหาคนที่นัดท่านไม่พบ  ก็เลยเข้าไปถามท่านคณบดีว่าได้นัดท่าน ผอ.หรือเปล่า  คณบดีจึงบอกว่าไม่ได้นัด  สงสัยว่าผู้วิจัยเป็นคนนัด  ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ให้มาถามผู้วิจัย  ผู้วิจัยก็เลยไม่เสียเวลาเปล่า  ได้คุยกับท่าน ผอ. ด้วยประการฉะนี้

     

     

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 15816เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2006 17:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 เมษายน 2012 12:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท