เล่าเรื่องย้อนไปปลายปีที่แล้ว คณะนักร้องประสานเสียงของบริษัทเล็กๆ อย่างเราได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ให้ไปร้องเพลงอวยพรวันคริสต์มาส และปีใหม่ให้กับพนักงานที่อยู่สำนักงานบางซื่อทุกบริษัทในกลุ่มธุรกิจ ซึ่งมีจุดที่ต้องไปประมาณ 10 แห่ง แต่ละที่ก็ร้อง 2-3 เพลง ขึ้นอยู่กับความร่วมสนุกของผู้ฟังที่เราไปเยี่ยม ร้องเพลงเสร็จก็มอบขนมเป็นของขวัญให้ผู้ฟังด้วย หาอย่างนี้มีที่ไหน
เพลงที่ซ้อมกัน มี 5 เพลง Jingle Bell, Santa Claus is coming to town, Frosty Snowman, Rudolph Reindeer และ Merry Christmas
น้องๆ ในวงชอบร้องเพลง Jingle Bell กับ Frosty แต่เพลงที่เราชอบที่สุดตั้งแต่ตอนซ้อม ก็คือเจ้า Rudolph นี่แหละ บังเอิญน้องที่น่ารักคนหนึ่งไปหาเนื้อร้องที่มีอธิบายคำศัพท์มาให้ด้วย ทำให้ร้องอย่างรู้ความหมาย ความรู้สึกต่างกันเยอะ กับเพลงที่ไม่รู้ เพลงนี้เป็นเรื่องราวของที่มากวางลากเลื่อนของ Santa Claus เนื้อเพลงเป็นอย่างนี้ค่ะ
You know Dasher and Dancer and Prancer and Vixen
Comet and Cupid and Donner and Britzen
But do you recall
The most famous reindeer of all
Rudolph, the red nosed reindeer
Had a very shiny nose
And, if you ever saw it, you would ever say it glows.
All of the other reindeer, Used to laugh and call him names.
They never let poor Rudolph
Join in any reindeer games.
Then one foggy Cristmas Eve, Santa came to say,
"Rudolph, with your nose so bright,
Won't you guide my sleigh tonight?"
Then how the reindeer loved him
As they shouted out with glee
"Rudolph, the red nosed reindeer
You'll go down in history!"
ถอดความคร่าวๆ ว่าเจ้ากวางตัวนี้ก่อนที่จะมาพบกับ Santa เคยถูกพรรคพวกรังเกียจเดียดฉันท์ เพราะมีจมูกสีแดง แตกต่างจากหมู่เพื่อน จึงมักถูกล้อเลียนและกีดกันไม่ให้ร่วมกิจกรรมใดๆ วันหนึ่งกวางที่น่าสงสารได้พบกับ Santa ในคืนที่มืดมัวไปด้วยหิมะ ซึ่งตรงกับคืนวันก่อนคริสต์มาส Santa เห็นจุดเด่นที่จมูกของกวาง Rudolph ที่จะเป็นประโยชน์ช่วยนำทางลากเลื่อน จึงชักชวนให้เดินทางไปด้วยกัน Rudolph ดีใจมากที่มีคนเห็นประโยชน์ของตัวเอง และรักซานตาคลอสมาก เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องเล่าขานที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
เหตุที่ชอบเพราะ เป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นชีวิตคนทำงาน ถ้าผู้นำรู้จักบริหารจุดเด่นหรือ ความแตกต่างของลูกน้องแต่ละคน (แม้ว่าความแตกต่างนั้นบางคนอาจมองในแง่ลบ) และเลือกมอบหมายงานให้เหมาะสมกับสิ่งที่เขามี เขาเป็น นอกจากลูกน้องจะรู้สึกเห็นคุณค่าของตัวเอง (self esteem) แล้ว ยังทำงานให้นายอย่างถวายหัวอีกด้วย มีแต่ได้กับได้
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณ
ขอขอบคุณสำหรับ post card สวย ใน blog ด้วยใจจริงค่ะ ทำได้น่ารัก classic ดีค่ะ
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่ะ อยากพบน้องด้วยมากๆค่ะ ถ้าว่าง emailมานัดก็ได้ค่ะ พี่อยู่กรุงเทพฯค่ะ