|
คุณไม่มีตำแหน่งคนดูแลบ้าน คนดูสวน แต่ต้องทำกันเองทั้งหมด ก็อย่าได้ไปเครียด หรือวิตก กังวล เพราะบ้านที่อบอุ่น มีชีวิตชีวา ต้องมี |
|
ความเคลื่อนไหว และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ |
|
กลยุทธ์ที่ 2 : หาเวลารับประทานอาหารร่วมกัน |
|
คงเป็นไปได้ยาก หวาบุคคลในครอบครัวจะมานั่งรับประทานอาหารร่วมกันทุกมื้อ เพราะสภาพสิ่งแวดล้อมของการทำงาน เวลาเลิก |
|
งาน ความรับผิดชอบ รวมทั้งปัหาจราจรซึ่งทำให้เวลาไม่ตรงกัน แต่การหาเวลารับประทานอาหารร่วมกัน โดยถือเป็นมื้อของครอบครัว ไม่ |
|
ใช่เรื่องยากเกินไป เช่น กำหนดให้วันอาทิตย์มื้อเย็นเป็นการรับประทานอาหารในครอบครัวหนึ่งมื้อ |
|
กลยุทธ์ที่ 3 : ให้ความสำคัญกับทุกคนในครอบครัวด้วยการแบ่งปันหน้าที่รับผิดชอบในบ้าน |
|
กลยุทธ์นี้หมายถึงนอกจากให้ความสำคัญกับสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังเป็นการแบ่งเบาภาระหน้าที่ของ ผู้เป็นแม่บ้านด้วย ยกตัว |
|
อย่าง เช่น ลูกสาวคนโตมีหน้าที่จ่ายตลาด ลูกสาวคนรองเข้าครัวเป็นลูกมือ คุณพ่อต้องตัดหญ้าและล้างรถร่วมกับลูกชายในทุกวันเสาร์ ฯลฯ |
|
กลยุทธ์ที่ 4 : ให้สมาชิกแต่ละคนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง |
|
กรณีนี้หมายถึง การหัดเด็กๆ ในบ้าน รู้เวลาเข้านอน ตื่นนอน เตรียมอุปกรณ์การเรียน การทำความสะอาดห้อง การเก็บที่นอน ฯลฯ |
|
เพราะกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการเสริมสร้างนิสัยที่ดีให้กับสมาชิก ครอบครัวและยังเป็นการแบ่งเบาภาระของครอบครัวร่วมกันด้วย |
|
กลยุทธ์ที่ 5 : ให้สมาชิกแต่ละคนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง |
|
การปรึกษาหารือ เป็นเรื่องสำคัญที่พ่อและแม่มีบทบาทสำคัญ การใช้เวลานั่งดูโทรทัศน์ หรือ ใช้เวลาตอนรดน้ำต้นไม้สอบถามเรื่อง |
|
การเรียนของลูก การทำงานของสามี-ภรรยา คุยถึงเพื่อนๆหรือกิจกรรมพิเศษของลูกในโรงเรียน เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะการพูดคุย |
|
เช่นนี้จะไม่ทำให้เกิดถาวะการสะสมเรื่องราว อีกทั้งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และความใกล้ชิดระหว่างกัน |
|
กลยุทธ์ที่ 6 : ให้ความสำคัญกับวันพิเศษของสมาชิกในครอบครัว |
|
วันครบรอบการแต่งงาน วันเกิดลูกๆ วันรับปริญญา หรือวันที่ลูกเข้าแข่งขันกีฬานัดสำคัญ สิ่งเหล่านนี้ล้วนสำคัญและไม่น่ามองข้าม |
|
เพราะสมาชิกในครอบครัวต้องการกำลังใจ และความเอาใจใส่จากคนในครอบครัวมากกว่าบุคคลอื่น |
|
กลยุทธ์ที่ 7 : ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน |
|
หากสามี หรือ ภรรยา เกิดปัญหาจากการทำงาน การพูกคุย ปรึกษาหรือถามไถ่ในเวลาที่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ถือเป็นน้ำทิพย์ชโลม |
|
จิตใจที่ดี เหมือนสายฝยที่ชุ่มฉ่ำ แม้กระทั่งการให้กำลังใจลูกเมื่อพลาดจากการสอบ หรือพลาดจาการชนในการแข่งขันกีฬา อย่าได้ซ้ำเติม |
|
หรือเพิกเฉย ปล่อบให้คิดแก้ปัญหาเองโดยไม่มีคำปรึกษาที่ดี |
|
กลยุทธ์ที่ 8 : หาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกช่วยผ่อนแรงงานในบ้านบ้าง |
|
ไม่ได้ความว่าคุณจะต้องซื้อทุกอย่างที่อำนวยความสะดวกมาซะทุกชิ้น แต่ต้องพิจารณาว่าชิ้นไหนควร ? ไม่ควร ? หรือเหมาะสมกับ |
|
สภาพทางการเงินในครอบครัวหรือไม่ ? เพราะการใช้เครื่องอำนวยความสะดวกใบบ้านบางชิ้น สามารถประหยัดเวลาในการทำงาน ซึ่ง |
|
นั้นก็หมายความว่าคุณมีเวลาได้ทำกิตกรรมอื่นภายในบ้าน หรือมีเวลาให้กับคนในครอบครัวมากขึ้น |
|
กลยุทธ์ที่ 9 : หากิจกรรมพักผ่อนในวันหยุดร่วมกัน |
|
สิ่งนี้เป็นสำคัญเพราะว่าเป็นจุดทะลายความตึงเครียดของทุกคนในบ้านด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนสถานที่พักอาศัยชั่วคราว |
|
เปลี่ยนรสชาติของอาหาร ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้ทุกคนได้ผ่อนคลายจากภาระการทำงานนอกบ้าน ภาระการทำ |
|
งานในบ้าน ภาระการเรียนหนังสือ ฯลฯ |
|
กลยุทธ์ที่ 10 : เริ่มต้น - จบลงด้วยบรรยากาศที่ดี |
|
กลยุทธ์นี้สัมพันธ์กับการพูด การพูดที่ดีต่อกันของสมาชิกในครอบครัว เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบรรยากาศที่ดีในครอบครัว การ |
|
พูดจากระแทกแดกดัน หรือใช้อารมณ์ที่ขุ่นมัว ซึ่งติดมากับที่อื่น จะทำให้สมาชิกในบ้านเกิดความตรึงเครียด |
|
10 กลยุทธ์ของการลดความเครียดในบ้านที่เอามาฝาก ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงอาศัยความละเอียดอ่อน ความสังเกต และความรัก เป็น |
|
ที่ตั้งอันสำคัญ |
|
เตรียมพร้อม เพื่อปกป้องเรื่องราวต่างๆ ที่จะทำให้เกิดความเครียดในครอบครัวแล้วอย่าลืมตระเตรียมร่มคู่ใจ ให้สำหรัสมาชิกใน |
|
บ้านด้วยนะค่ะ เพราะย่างเข้าฤดูฝนกันแล้ว สุขภาพจิตดี ต้องสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเสมอ.... |
|
ต้อนรับหน้าฝน ด้วยอารมณ์ที่ชุ่มฉ่ำ แล้วเปลี่ยนครอบครัวของคุณให้เป็นครอบครัวปลอดความเครียดเร็วๆ นะครับ จะเป็นกำลังใจครับ ! |
สวัสดีปีใหม่ ..แวะเข้ามาทักทายค่ะ
สวัสดีครับ...ครูเอ
ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทาย ยินดีครับเข้ามาบ่อย ๆ ก็ได้ เดี๋ยวจะเขียนบทความให้อ่านบ่อย ๆ นะครับ
ขอบคุณจากใจจริงครับ
สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ