การกระทำของคน คือ ตัวสื่อให้เห็นความคิดที่อยู่ในหัวคน เราจึงเห็นความต่างของคนแต่ละคน
ถ้าย้อนกลับไปมองอดีต พื้นฐานของทุกคนเริ่มขึ้นจากการไม่รู้ จึงไม่คิด มาก่อนเกือบทั้งสิ้น หากจะโดนใครกล่าวหา ใครว่า "สิ้นคิด" หรือ ใครถามว่า "ทำไมไม่รู้จักคิด" จึงไม่ควรเกิดความโกรธ เศร้าซึม เคืองแค้น หรือ ดูถูก ด่าว่ากัน สิ่งที่ควรทำ คือ คิดต่อยอด เพื่อให้ความคิดไม่สิ้น ซึ่งก็คือ การรู้จักคิด
ในบริบทของกิจกรรม ลปรร จากคนไข้ มีบทเรียนเหล่านี้ให้สัมผัสโดยตลอด
ในอดีตหากเคยนึกในใจ หรือ เผลอต่อว่าคนไข้ เรื่องของการไม่รู้จักคิด ซึ่งขณะนี้ก็อาจจะยังมีบางคนยังเผลอ ลองเปลี่ยนใหม่ดูไหม ให้คนไข้พูดสิ่งที่คิดให้ฟัง แล้วเราเองก็คิดต่อยอดว่าเราจะให้เกียรติในความคิดของคนไข้ จะคอยตามดูการทำตามความคิดนั้น สิ่งที่เราแสดงออกมาก็จะเปลี่ยนจากการพูดในเชิงสอน ไปเป็นการชื่นชมในความคิด ซึ่งให้ผลต่อคนไข้ คือ ถือเสมือนการย้ำสัญญาที่มีต่อกัน ถ้าเราเปลี่ยนเราได้อย่างนี้ เมื่อมาพบกันครั้งต่อไป แม้คนไข้ยังไม่สามารถทำตามสัญญาได้ เมื่อเรามีความคิดต่อยอดเพิ่มขึ้นด้วยการช่วยคนไข้คิดว่า จะทำอย่างไรดีให้ทำได้ตามสัญญา คนไข้ก็จะเปิดใจให้เรามากขึ้น ความรู้สึกเป็นมิตร และความไว้วางใจต่อเราก็จะเพิ่มมากขึ้น
นี่แหละ คือ ลักษณะหนึ่งของการให้บริการแบบองค์รวม ซึ่งส่งผลให้เกิดบริการที่มีหัวใจเป็นมนุษย์โดยทันทีด้วย
สวัสดีปีใหม่ ทุกๆท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
โบราณว่า คิดมากทำให้หน้าแก่ หยุดคิด(ร้าย) ดีมากแน่ๆสำหรับสาวๆทั้งหลาย แต่ไม่ควรหยุดคิด(ดี) สมองจะได้ไม่กลวงโบ๋ ไงละ
thanks หลายๆสำหรับของขวัญปีใหม่ ถูกใจมาก
ae5aJ
ดูท่าทางเจ๊ จะเก็บอะไรไว้ภายในค่อนข้างมาก จนดูเหมือนกดดันภายในใจ และแสดงออกมาทางร่องรอยแห่งวัยบนใบหน้า จึงเห็นด้วยกับคุณ 2. เจ๊
เมื่อ อา. 30 ธ.ค. 2550 @ 23:57 ว่าควรหยุด...เพราะจะทำให้หน้าแก่!
แต่ขอเพิ่มเติมอีกนิด...ว่า....ควรไตร่ตรองก่อนเชื่อ.... ดังคำพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้เมื่อเกือบสามพันปีก่อนว่า....ไม่ควรเชื่อเพราะ เห็นว่าเป็นครู...!!!!!