สวัสดีชาว G2K ทุกท่าน
ไม่ได้เข้ามาบันทึกในบล็อกนี้นานพอสมควร ถ้าจะถามว่า เพราะเหตุใด คำตอบคงเป็นแค่ข้ออ้าง ที่ใคร ๆ ก็สามารถ พูด หรือแก้ตัว ได้ เลยไม่ขอบอกสาเหตุ จะดีกว่า ..อิอิ..
วันนี้ ได้มีโอกาสเข้าประชุม/สัมมนา กับผู้บริหาร 3 กลุ่มโรงเรียน ใน จ. ยะลา เกี่ยวกับ การแก้ไขปัญหานักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังจากที่ เมื่อภาคเรียนที่ผ่านมา เราได้ทำการประชุม และปรึกษาหารือ ในหัวข้อเดียวกัน เพียงแต่เป็นชั้นที่ต่างกัน คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทั้งนี้ เพื่อหามาตรการ แก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งเป็นปัญหาที่เราทุกคน ตระหนักอยู่เสมอว่า ควรจะนำมาเป็น ปัญหา ระดับ ต้น ๆ ของการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ของเรา ชาว 3 จว. ชายแดน ด้วยซ้ำไป
จากการประชุม ปรึกษาหารือเกี่ยวกับ ปัญหา ดังกล่าว ได้มีผู้บริหาร และครูหลาย ๆ ท่าน ให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ และ สามารถนำมาเป็นแนวทางที่ดี ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
หากจะพูดไปแล้ว การประชุมครั้งนี้ อาจมีความจริงจัง หรือ ซีเรียส น้อยกว่าเมื่อครั้งที่ผ่านมา เนื่องจาก เป็นเรื่องสืบเนื่อง จากเมื่อครั้งที่แล้ว เราจึงมีประสบการณ์การ หรือแนวคิดที่หลากหลาย และ ดีกว่าเก่าเพื่อนำมาแก้ปัญหา
ผลการประชุม / สัมมนานั้น จะ นำมาบอกเล่า และรายงาน ท่านผู้อ่าน และสมาชิก G2K ในบันทึกต่อไป แต่วันนี้ เรามีประเด็น ที่ถกเถียงกัน ( พอหอมปากหอมคอ และสนุกสนาน กันใน องค์ประชุม ^_^)
นั่นก็คือ หัวข้อของการประชุม อิอิ... น่าแปลกมั๊ยนี่...
การประชุม/สัมมนา เพื่อแก้ไขปัญหา การอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
นี่คือ หัวข้อของ การประชุม ค่ะ
แต่มี ผู้เข้าร่วมประชุมบางท่าน เกิดความคิดที่ แตกต่างไป หรือ อย่างไร ไม่ทราบ อิอิ.. ท่านว่า ท่านข้องใจมานานแล้ว กับหัวข้อนี้ เพราะเคยได้ยินบางท่านพูดอีกแบบหนึ่ง. น่าจะเปลี่ยนหัวข้อ เป็น
การประชุม/สัมมนา เพื่อแก้ไขปัญหา การอ่านออก เขียนได้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มากกว่า
อืม !!.. ก็น่าคิดนะค่ะ ..
ท่านคิดอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง ?????
ช่วยคิดกันหน่อยค่ะ...........
“JasmiN”
สวัสดีครับ
เอาเวลคิดเรืองอื่นดีกว่า ความเข้าใจตรงกันก็ใข้ได้แล้ว
สวัสดีครับอาจารย์ JasmiN...
มาเป็นกำลังใจให้อาจารย์ ... เด็กเหนือก็มีปัญหาเรื่องการเขียนอ่านภาษาไทยไม่ได้ เหมือนกันนะครับ และค่อนข้างมากด้วย ที่ครูสุอยู่ก็มีเด็กชาวเขา เช่น กะเหรี่ยง มูเซอ ลีซอ ไทยใหญ่ สอนภาษาไทยเด็กพวกนี้ยากมาก ๆ (เผอิญว่าครูสุสอนภาษาไทยด้วย) ครูสุต้องให้เด็กเขียนตามคำบอกทุกชั่วโมงที่สอน และจับสลากอ่านหน้าห้อง (แต่จริง ๆ ล็อคคนที่ไม่เก่งเอาไว้) ก่อนเรียนหนังสือ แถมการบ้านเป็นคัดไทย (คำที่อ่านไม่ออกนั่นแหละ)
ไม่รู้สถานการณ์ภาคใต้เป็นอย่างไรบ้าง ขอเป็นกำลังใจให้ภาคใต้มีสันติสุข และขอให้อาจารย์จงปลอดภัยและมีความสุขความเจริญ สวัสดีปีใหม่ด้วยนะครับ
สวัสดีค่ะ ท่านพี่ไมตรี
- นักเรียนไม่มีที่เรียน
- นักเรียนไม่มีหนังสือเรียน / อุปกรณ์การเรียน
- นักเรียนขาด...... ฯลฯ
- สภาพจิตใจของนักเรียนที่ต้องมานั่งมองดูซากปรักหักพังของห้อง ที่เคยนั่งเรียนเมื่อวาน
- สภาพจิตใจของครูผู้สอน กับการสูญเสียห้องเรียน สถานที่ทำงาน โดยเฉพาะเอกสาร/หลักฐานสำคัญต่าง ๆ ที่ได้เก็บสะสมมาเป็นสิบ ๆ ปี
- เมื่อวานโรงเรียนถูกเผา วันนี้นักเรียนจะเรียนที่ไหน.. ? กลางแจ้ง ? กลางสนามฟุตบอล ? ใต้ต้นไม้ข้างอาคารที่เพิ่งถูกเผา ควันจาง ๆ ? ...........? ...ฯลฯ ?
- สภาพจิตใจ ของทั้ง ครู น.ร. ผู้ปกครอง ในขณะที่นั่งมองดู รร. ที่เมื่อวานได้นั่งเรียน นั่งเล่น นั่งอ่าน นั่งท่องสูตรคูณ ฯลฯ....วันนี้ เหลือเพียงแต่ เสาปูนดำ ๆ เศษไม้ไหม้ ๆ เถ้าถ่าน.....
- ภาพที่จำได้ในวันนั้น ทุกคนอยู่ในอาการเหงาหงอย ในแววตาทุกดวงปริ่มไปด้วยหยดน้ำแห่งการสูญเสีย หยาดน้ำตาแห่งความโศกเศร้า หลาย ๆ คน กอดกันร้องระงม ไร้คำพูด ไร้เสียงบรรยาย มีแต่เสียงสะอื้น แห่งความสูญเสีย
- โรงเรียนที่กำลังสอนอยู่ในเวลานี้ ก็เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน กว่าเราจะได้อาคารใหม่ มาแทน 1 หลัง เราต้องแลกกับความอดทน นานัปการ
- กว่า ร.ร. จะกลับมาสู่สภาพที่พร้อมจะทำการเรียนการสอน (ซึ่งแน่นอนไม่เท่าเดิม) เราก็ต้องใช้เวลาในการปรับปรุง ปรับตัว ปรับใจ ทั้งครูและ นร. รวมถึงผู้ปกครอง
- และ ฯลฯ
"JasmiN"
สวัสดีค่ะ อ.แผ่นดิน
"JasmiN"
สวัสดีค่ะ ครูสุ
"JasmiN"